ขอออกตัวก่อนเลยค่ะว่าเป็นเรื่องที่โง่เองจริงๆ
เนื่องจากดิฉันได้เช่าตึกแถวเพื่อทำร้านสปาที่ต่างจังหวัด แต่เนื่องจากมีความจำเป็นต้องไปช่วยกิจการของทางบ้านที่ กทม. จึงต้องการที่จะขายกิจการเพราะได้ลงทุนไปหลายแสนบาท และมีความตั้งใจจะติดป้ายประกาศหน้าร้าน ด้วยความที่อยากให้มันถูกต้องจึงได้โทรไปขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อน
ดิฉัน : พี่คะ คือจะกลับไปทำงานกับที่บ้านที่ กทม.อ่ะค่ะ ขอติดป้าย "เซ้งร้าน หรือ ขายกิจการ" ได้ไม๊คะ
เจ้าของบ้าน : ไม่ได้ครับ ผมไม่อนุญาตให้มีการเช่าช่วงครับ
ดิฉัน : ไม่ได้จะเช่าช่วงอ่ะค่ะ คือจะหาคนที่สนใจมาทำร้านต่อ แล้วเริ่มทำสัญญาเช่าบ้านกับพี่ใหม่เลยค่ะ หนูแค่ขอทุนที่ซ่อมบ้าน แล้วก็ทำร้านไปคืนอ่ะค่ะ
เจ้าของบ้าน : นั่นแหละครับเรียกว่าเช่าช่วง พี่ไม่อยากให้เป็นปัญหาพัวพัน
ดิฉัน : อ่าว แล้วทำไมตอนนั้นหนูยังต้องเซ้งต่อจากคนเช่าคนเก่าเลยอ่ะค่ะ
เจ้าของบ้าน : นั่นมันก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับผม
ดิฉัน : แล้วที่หนูหมดค่าทำบ้าน ค่าซ่อมบ้านไปเป็นแสนๆทำไงอ่ะคะ
เจ้าของบ้าน : ก็เรื่องของคุณเสะ ถ้าไม่อยากอยู่แล้วจะออกเลยก็ได้นะ แต่ห้ามรื้อถอนเอาของออกล่ะ ถ้าจะขายอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือก็ไปขายข้างนอกแต่ถ้าจะอยู่ต่อก็แล้วแต่นะ อย่าลืมจ่ายค่าเช่าให้ตรงเวลาด้วยแล้วกัน แค่นี้นะ
ต้องบอกก่อนว่าดิฉันเซ้งร้านนี้มาจากผู้เช่าคนก่อน ซึ่งในวันทำสัญญาเจ้าของบ้านบอกไม่ให้มีการเช่าช่วง และทั้งๆที่เจ้าของบ้านก็อยู่ต่อหน้าดิฉันและผู้เช่าคนก่อนแท้ๆ แต่กลับบอกว่าเป็นการตกลงกันเองไม่เกี่ยวกับเค้า ทำให้ดิฉันก็ต้องจ่ายค่าเซ้งร้านจากคนเช่าคนก่อนอยู่ดี แม้ว่าเจ้าของบ้านจะอยู่ต่อหน้าทั้งสองฝ่ายก็ตาม และก่อนเซ็นสัญญาได้แจ้งเรื่องจุดที่เสียต่างๆในบ้านให้เจ้าของบ้านทราบแล้ว เจ้าของบ้านได้บอกไว้ว่า"อะไรตรงไหนเสียก็ซ่อมไปเลยแล้วค่อยเอาบิลมาเบิกผมได้ครับ" แต่พอไปเบิกจริงๆกลับบอกว่า "จริงๆมันเป็นหน้าที่ของผู้เช่านะครับ พี่ช่วย 2,000 แล้วกัน"
หลักๆที่จ่ายไปมีดังนี้(เป็นหน้าที่ของผู้เช่า?)
1. ปูกระเบื้อง เพราะผู้เช่าคนก่อนเบิกเจ้าของบ้านมาได้ 5,000 จึงปูกระเบื้องไว้แค่ครึ่งบ้าน(ชั้นล่าง) ดิฉันจึงต้องปูต่อที่เหลืออีกครึ่งนึง
2. ห้องน้ำ เนื่องจากพื้นเดิมเป็นกระเบื้องยางที่มีผุมากๆแล้ว ทุกครั้งที่ราดน้ำจะมีตะขาบตัวเล็กๆเลื้อยออกมา และส้วมซึมที่ราดน้ำยังไงก็ไม่ลง ประกอบกับประตูห้องน้ำที่ไม่สามารถปิดได้ ดิฉันจึงปูพื้นห้องน้ำใหม่ ซื้อชักโครกมาติดใหม่ และติดประตูใหม่ (ห้องน้ำอีกห้องนึงที่ชั้น2ก็ราดไม่ลงเช่นกัน)
3. แท็งค์น้ำ,ปั๊มน้ำ เนื่องจากน้ำประปาละแวกนี้ไม่ไหลเป็นปกติเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 วัน ดิฉันจึงจำเป็นต้องซื้อปั๊มน้ำและแท็งค์น้ำมาติด ซึ่งบ้านอื่นที่ให้เช่าเค้าก็มีกันอยู่เดิมแล้ว
4. ประตูหน้าบ้าน,หลังบ้าน,ดาดฟ้า เสียหมด ล็อคไม่ได้ ปิดเปิดไม่ได้ ต้องทำใหม่ ไม่งั้นจะอยู่ยังไง
5. ทาสี, กั้นห้อง
6. หลังคาหลังบ้านแตกน้ำรั่วอย่างหนักจนข้างบ้านบ่น ต้องซื้อกระเบื้องมาเปลี่ยนใหม่
7. ระบบไฟเมนมีปัญหาอย่างหนัก(ช่างบอก) หลอดไฟจึงขาดบ่อยมากต้องเปลี่ยนใหม่ตลอด
จากบ้านเก่าๆโทรมๆที่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้ใครเข้ามาใครเดินผ่าน ก็มักจะพูดให้ได้ยินจนชินหูว่า ร้านสวยจัง
คำถามคือ
ดิฉันจึงสงสัยว่า ถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เช่าช่วง เราไม่สามารถติดป้าย เซ้งร้าน หรือ ขายกิจการ ได้เลยเหรอคะ หยั่งงี้จะติดคำว่าอะไรดีอ่ะคะ? ขอคำแนะนำ ความคิดเห็น หน่อยนะคะ จะว่าโง่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ยอมรับจริงๆ
เจ้าของบ้านห้ามเช่าช่วง สามารถติดป้าย"ขายกิจการ"ได้หรือไม่?
เนื่องจากดิฉันได้เช่าตึกแถวเพื่อทำร้านสปาที่ต่างจังหวัด แต่เนื่องจากมีความจำเป็นต้องไปช่วยกิจการของทางบ้านที่ กทม. จึงต้องการที่จะขายกิจการเพราะได้ลงทุนไปหลายแสนบาท และมีความตั้งใจจะติดป้ายประกาศหน้าร้าน ด้วยความที่อยากให้มันถูกต้องจึงได้โทรไปขออนุญาตเจ้าของบ้านก่อน
ดิฉัน : พี่คะ คือจะกลับไปทำงานกับที่บ้านที่ กทม.อ่ะค่ะ ขอติดป้าย "เซ้งร้าน หรือ ขายกิจการ" ได้ไม๊คะ
เจ้าของบ้าน : ไม่ได้ครับ ผมไม่อนุญาตให้มีการเช่าช่วงครับ
ดิฉัน : ไม่ได้จะเช่าช่วงอ่ะค่ะ คือจะหาคนที่สนใจมาทำร้านต่อ แล้วเริ่มทำสัญญาเช่าบ้านกับพี่ใหม่เลยค่ะ หนูแค่ขอทุนที่ซ่อมบ้าน แล้วก็ทำร้านไปคืนอ่ะค่ะ
เจ้าของบ้าน : นั่นแหละครับเรียกว่าเช่าช่วง พี่ไม่อยากให้เป็นปัญหาพัวพัน
ดิฉัน : อ่าว แล้วทำไมตอนนั้นหนูยังต้องเซ้งต่อจากคนเช่าคนเก่าเลยอ่ะค่ะ
เจ้าของบ้าน : นั่นมันก็เรื่องของคุณ ไม่เกี่ยวกับผม
ดิฉัน : แล้วที่หนูหมดค่าทำบ้าน ค่าซ่อมบ้านไปเป็นแสนๆทำไงอ่ะคะ
เจ้าของบ้าน : ก็เรื่องของคุณเสะ ถ้าไม่อยากอยู่แล้วจะออกเลยก็ได้นะ แต่ห้ามรื้อถอนเอาของออกล่ะ ถ้าจะขายอุปกรณ์เครื่องไม้เครื่องมือก็ไปขายข้างนอกแต่ถ้าจะอยู่ต่อก็แล้วแต่นะ อย่าลืมจ่ายค่าเช่าให้ตรงเวลาด้วยแล้วกัน แค่นี้นะ
ต้องบอกก่อนว่าดิฉันเซ้งร้านนี้มาจากผู้เช่าคนก่อน ซึ่งในวันทำสัญญาเจ้าของบ้านบอกไม่ให้มีการเช่าช่วง และทั้งๆที่เจ้าของบ้านก็อยู่ต่อหน้าดิฉันและผู้เช่าคนก่อนแท้ๆ แต่กลับบอกว่าเป็นการตกลงกันเองไม่เกี่ยวกับเค้า ทำให้ดิฉันก็ต้องจ่ายค่าเซ้งร้านจากคนเช่าคนก่อนอยู่ดี แม้ว่าเจ้าของบ้านจะอยู่ต่อหน้าทั้งสองฝ่ายก็ตาม และก่อนเซ็นสัญญาได้แจ้งเรื่องจุดที่เสียต่างๆในบ้านให้เจ้าของบ้านทราบแล้ว เจ้าของบ้านได้บอกไว้ว่า"อะไรตรงไหนเสียก็ซ่อมไปเลยแล้วค่อยเอาบิลมาเบิกผมได้ครับ" แต่พอไปเบิกจริงๆกลับบอกว่า "จริงๆมันเป็นหน้าที่ของผู้เช่านะครับ พี่ช่วย 2,000 แล้วกัน"
หลักๆที่จ่ายไปมีดังนี้(เป็นหน้าที่ของผู้เช่า?)
1. ปูกระเบื้อง เพราะผู้เช่าคนก่อนเบิกเจ้าของบ้านมาได้ 5,000 จึงปูกระเบื้องไว้แค่ครึ่งบ้าน(ชั้นล่าง) ดิฉันจึงต้องปูต่อที่เหลืออีกครึ่งนึง
2. ห้องน้ำ เนื่องจากพื้นเดิมเป็นกระเบื้องยางที่มีผุมากๆแล้ว ทุกครั้งที่ราดน้ำจะมีตะขาบตัวเล็กๆเลื้อยออกมา และส้วมซึมที่ราดน้ำยังไงก็ไม่ลง ประกอบกับประตูห้องน้ำที่ไม่สามารถปิดได้ ดิฉันจึงปูพื้นห้องน้ำใหม่ ซื้อชักโครกมาติดใหม่ และติดประตูใหม่ (ห้องน้ำอีกห้องนึงที่ชั้น2ก็ราดไม่ลงเช่นกัน)
3. แท็งค์น้ำ,ปั๊มน้ำ เนื่องจากน้ำประปาละแวกนี้ไม่ไหลเป็นปกติเฉลี่ยสัปดาห์ละ 3-4 วัน ดิฉันจึงจำเป็นต้องซื้อปั๊มน้ำและแท็งค์น้ำมาติด ซึ่งบ้านอื่นที่ให้เช่าเค้าก็มีกันอยู่เดิมแล้ว
4. ประตูหน้าบ้าน,หลังบ้าน,ดาดฟ้า เสียหมด ล็อคไม่ได้ ปิดเปิดไม่ได้ ต้องทำใหม่ ไม่งั้นจะอยู่ยังไง
5. ทาสี, กั้นห้อง
6. หลังคาหลังบ้านแตกน้ำรั่วอย่างหนักจนข้างบ้านบ่น ต้องซื้อกระเบื้องมาเปลี่ยนใหม่
7. ระบบไฟเมนมีปัญหาอย่างหนัก(ช่างบอก) หลอดไฟจึงขาดบ่อยมากต้องเปลี่ยนใหม่ตลอด
จากบ้านเก่าๆโทรมๆที่ไม่มีใครมองเห็น ไม่มีใครสนใจ ตอนนี้ใครเข้ามาใครเดินผ่าน ก็มักจะพูดให้ได้ยินจนชินหูว่า ร้านสวยจัง
คำถามคือ
ดิฉันจึงสงสัยว่า ถ้าเจ้าของบ้านไม่อนุญาตให้เช่าช่วง เราไม่สามารถติดป้าย เซ้งร้าน หรือ ขายกิจการ ได้เลยเหรอคะ หยั่งงี้จะติดคำว่าอะไรดีอ่ะคะ? ขอคำแนะนำ ความคิดเห็น หน่อยนะคะ จะว่าโง่ก็ไม่เป็นไรค่ะ ยอมรับจริงๆ