- เราชอบคณิตศาสตร์นะ......เพราะเราเป็นคนชอบคิดในใจ เรื่องคิดนอกใจอ่ะเราทำไม่เป็น
- วันเวลาของคงเหมือน isometry function เพราะไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเท่าใดแต่ระยะทางระหว่างเราก็ห่างไกลกันเหมือนเดิ
- ฉันอาจไม่รู้ว่าเธอรู้หรือเปล่าว่าความสัมพันธ์ของเราจะเป็นแบบไหน...แต่สำหรับฉันฉันมั่นใจว่ามันคือ constant function ที่ส่งไปหาเธอเพียงผู้เดียว ^^
- พูดถึงเรื่องลำดับ (Sequence) ตั้งแต่ม.ปลาย เราก็นึกถึง ลำดับเลขคณิต ลำดับเรขาคณิต พอมาเรียนป.ตรีปี1 เราก็นึกถึง ลำดับลู่เข้า ลำดับลู่ออก พอมาถึงปี3 เราก็นึกถึง ลำดับโคชี..........แต่แปลกจริงๆ ในทุกๆวัน ลำดับแรกที่นึกถึงก็คือใบหน้าของเธอ ^^
- สิ่งที่เราทำให้กับเธอก็เปรียบได้กับฟังก์ชันนึงในวิชาคณิตศาสตร์ นั้นก็คือฟังก์ชันtan "tan คำว่ารักคุณ"
- ถ้าความรักระหว่างเธอกับฉันเหมือนกับจำนวนเชิงซ้อนมันคงจะเป็นจริงเฉพาะเมื่ออยู่ ในส่วนจินตภาพ (Imaginary part) เพราะมันไม่มีวันเกิดขึ้น ในส่วนจริง (Real part)
- ถ้าความรักของเราคือฟังก์ชัน f(x) ตอนนี้มันคงถึงจุด x=c เมื่อ f'(c)=0 หรือไม่มีค่า
- ในวิชาตรรกศาสตร์ถ้าพิจารณา ประพจน์ P ---> Q ประพจน์นี้จะมีค่าความจริงเสมอ ไม่ว่า P จะเป็นประพจน์ใดก็ตาม ถ้าประพจน์ Q แทนข้อความว่า "ฉันรักเธอ"
- สมัยม.ปลาย คุณคงเคยเรียนคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนเชิงซ้อน ทำให้คุณได้รู้ว่า
เมื่อ k เป็นจำนวนเต็ม
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 1 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ i
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 2 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ -1
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 3 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ -i
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 0 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ 1
....แต่คุณคงไม่รู้หรอกว่า i กำลัง love you มีค่ามากมายแค่ไหน
- ตอน ม.ปลายเราเรียนเรื่องความน่าจะเป็นว่า จำนวนวิธีทั้งหมดในการเอาคน 3 คนมาเข้าแถวหน้ากระดาน คือ 3!=6 วิธี จำนวนวิธีทั้งหมดในการเอาคน 3 คนมายืนเป็นวงกลม คือ (3-1)!=2 วิธี แต่คงไม่มีสักวิธี ที่จะให้คน 3 คน คือ ฉัน เธอ และเขาอยู่ด้วยกันได้ในเรื่องความรัก
- ถ้าให้ฉันเป็นเซต A เธอเป็นเซต B ในตอนแรก เราอยู่ด้วยกันเพราะความรักอย่างมีความสุข (A U B)อาจเป็นเพราะเรามีสิ่งที่เหมือนกัน (A Intersect แต่เพราะว่าเธอนอกใจฉัน (A Complement) ฉันเลยต้องลบเธอออกไปจากหัวใจ (A-B)
- ในวิชาแคลคูลัสการอินทิเกรต x*sin x เราต้องใช้อินทิเกรต by part แต่การจะรักเธอ เราต้องใช้ by heart
- ถ้าให้ความรักที่ฉันให้กับเธอเป็นเมทริกซ์ A และความรักที่เธอให้กับฉันเป็นเมทริกซ์ A อินเวอร์ส...ความรักของฉันคงเป็นเมทริกซ์ A ชึ่ง det(A)=0
- ถ้าคนเราเป็นเหมือนเลขจำนวนนับ ตอนนี้ฉันก็คงเป็นตัวประกอบของเธอ แต่ฉันหวังว่าสักวันนึงความรักของเราจะเป็นเหมือน การหาร วันนั้นความรักของเราจะได้ลงตัวสักที
- ถ้ามีฟังก์ชันที่มีโดเมนเป็นสิ่งที่เธอทำกับฉัน ถ้ามีค่าบวกจะดี ถ้ามีค่าลบจะร้าย และมีเรนจ์ที่เป็นความรักที่ฉันมอบให้เธอ ฟังก์ชันนั้นคงเป็น f(x) = - x เพราะยิ่งเธอร้ายกับฉันเท่าไร ฉันก็ยิ่งรักเธอมากขึ้นเท่านั้น
- (C(n,r) อ่านว่า n เลือก r) ใน ม.ปลาย เราเรียนเรื่องการจัดหมู่ ถ้ามีดินสอที่แตกต่างกัน 5 แท่ง เลือกหยิบมา 2 แท่ง ได้ 5 เลือก 2 = 10 วิธี ถ้ามีหนังสือที่แตกต่างกัน 7 เล่ม เลือกหยิบมา 3 เล่ม ได้ 7 เลือก 3 = 35 วิธี...แต่ตอนนี้ ถ้าเลือกจะรักใครสักคน คงมีเพียง 1 วิธีเพราะฉันเลือกที่จะรักเธอ
- ฉันอาจจะดูไม่ค่อยเต็ม (Integer) คิดอะไรก็ไม่ค่อยมีตรรกะ(ยะ) (Rational) แต่ฉันก็มีความจริงใจให้กับเธอ (Real)
- ลิมิตของ (Sin x)/x เมื่อ x เข้าใกล้ 0 ต้องใช้ L'Hospital ในการแก้แต่ถ้า ลิมิตที่เข้าสู่หัวใจเธอไม่มีฉันอยู่ในนั้นแล้ว จะใช้ Hospital แก้ก็ไม่หาย
- ให้ฟังก์ชันความคิดถึงส่งจากเวลาที่ฉันอยู่คนเดียว ไปยังเซตของประชากรโลกทั้งหมดโดยที่ f(t)=เธอ ทุกt ที่อยู่ในโดเมนจะได้ว่า "ฉันคิดถึงเธอทุกt เมื่ออยู่คนเดียว..."
- กาลครั้ง 1 นานมาแล้ว 2 เราได้มีรักให้กันและกัน แม้ว่าฉันอาจจะเป็นคน 3 หาวไปบ้างแต่ทั้ง 4 ห้องหัวใจก็มีให้เธอ... ถึงแม้ว่าคนภายนอกจะพูดชักแม่น้ามทั้ง 5 ว่าสักวันนึงความรักของเราคงต้อง 6 คะเมนตีลังกา...แต่ฉันมั่นใจว่า ฉันจะทำให้เธอมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์ชั้น 7 แล้ววันพรุ่งนี้เวลา 8 โมงเช้า หลังเคารพธงชาติฉันกับเธอก็พร้อมจะ 9 เดินไปด้วยกัน
- ถ้าความรักที่เรามีให้กันเป็นเหมือน function แล้วล่ะก้อถึงแม้ในช่วงนี้ มันจะเป็น non-increasing แต่อย่างน้อย มันก็เป็น non-decreasing เหมือนกัน
- ตอนม.ปลายนั้น มีโจทย์ในเรื่องความน่าจะเป็นที่พบบ่อยนั้นก็คือ เอาคำที่แตกต่างกันมาเรียงสับเปลี่ยนเป็นประโยคโดยไม่คำนึงถึงความหมายได้กี่วิธี ถ้าเพิ่มเงื่อนไขที่ว่าต้องมีความหมายนั้น อาจจะต้องแจงกรณี...แต่สำหรับเธอแล้วถ้าให้ทำโจทย์ที่ว่า เอาคำว่า"รัก" "ฉัน" "เธอ" มาเรียงกันเป็นประโยคที่มีความหมายได้กี่วิธีเธอคงตอบได้ด้วยง่ายว่า 0 วิธี เพราะ "ฉันรักเธอ" ไม่มีความหมาย
- ถ้าประพจน์ "ถ้า A แล้ว B" แปลว่า A รัก B แล้วล่ะก็ สำหรับฉัน ตอนนี้มันคงเป็น "ถ้า ฉัน แล้ว เธอ" แต่ฉันก็หวังว่าสักวัน มันคงจะเป็น "ฉัน ก็ต่อเมื่อ เธอ"
- มุมมองความรักก็เหมือนการเลือก take limit x เข้าใกล้ 0 ของ 1/x ถ้าเลือก take ทางขวา มันจะมีคุณ อนันต์ ^^ แต่ถ้าเลือก take ทางซ้ายมันจะมีโทษลบอนันต์ T-T ยิ่งถ้า take เข้าตรงกลางแล้ว มันจะยิ่งไม่มีค่า
- ถ้าเปรียบหัวใจเธอเป็น R (เซตของจำนวนจริง) ความรักของฉันที่มีให้เธออาจจะไม่ใช่ R แต่ฉันขอแค่ความรักของฉันที่มีให้เธอเป็นเหมือน Q (เชตของจำนวนตรรกยะ) ความรักของฉันจะได้มีความเต็มแน่น (dense) ในหัวใจเธอ
- ถ้าเปรียบความรักของเราเหมือนกับการเขียนเลข 9876543210 ถึงแม้ฉันจะเป็นคนจะเป็นคนความจำไม่ค่อยดีก็ตาม
แต่
เขียนครั้งที่ 2 คงเป็น 876543210
เขียนครั้งที่ 3 คงเป็น 76543210
เขียนครั้งที่ 4 คงเป็น 6543210
เขียนครั้งที่ 5 คงเป็น 543210
เขียนครั้งที่ 6 คงเป็น 43210
เขียนครั้งที่ 7 คงเป็น 3210
เขียนครั้งที่ 8 คงเป็น 210
เขียนครั้งที่ 9 คงเป็น 10
เขียนครั้งที่ 10 คงเป็น 0
ทำไมอ่ะเหรอเพราะความรักของเราไม่มีวัน 0 หาย
- ถ้าให้ U เป็นเซตของคนบนโลกนี้ และ A={(a,b)เป็นสมาชิกของUxU l a รัก b }
จะได้ว่า A เป็นความสัมพันธ์ แต่ A ไม่เป็นฟังก์ชัน เพราะมี (เธอ,ฉัน) และ (เธอ,เขา) เป็นสมาชิก
- ถ้าการบอกรัก เป็นเหมือนการแก้โจทย์ 18/3 = ? ฉันคงไม่กล้าทำ เพราะฉันไม่กล้า / พอ
- ถ้าอินทิเกรต sin x คงต้องอินทิเกรตเทียบ x อินทิเกรต e^t คงต้องอินทิเกรตเทียบ t
แต่หัวใจเราคงไม่สามารถอินทิเกรตเธอ เพราะว่าไม่มีอะไรเทียบกับเธอได้
- ถ้าเราเจอโจทย์อย่างเช่น "หาค่าของ (3^2)x4/3" เราคงตัด 3 ได้ แล้วคำตอบคือ 12
แต่ถ้าเปรียบเธอเป็นโจทย์ โจทย์นั้นคงเป็น "หาค่าของ(ใจ^3)x3/ใจ" และเราคงทำโจทย์ข้อนี้ไม่ได้...เพราะผมคงไม่อาจตัด "ใจ" จากเธอได้
- ตั้งแต่ฉันเรียนคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ฉันก็เข้าใจเครื่องหมาย + - x / เป็นอย่างดี แต่พอวันที่ฉันได้เจอเธอมีเครื่องหมายนึงที่ฉันไม่รู้จักมันซะแล้วก็คือเครื่องหมาย - เพราะ - ไม่รู้จัก รักไม่รู้จบ-
ทำไมถึงชอบคณิตศาสตร์
- วันเวลาของคงเหมือน isometry function เพราะไม่ว่าวันเวลาจะผ่านไปเท่าใดแต่ระยะทางระหว่างเราก็ห่างไกลกันเหมือนเดิ
- ฉันอาจไม่รู้ว่าเธอรู้หรือเปล่าว่าความสัมพันธ์ของเราจะเป็นแบบไหน...แต่สำหรับฉันฉันมั่นใจว่ามันคือ constant function ที่ส่งไปหาเธอเพียงผู้เดียว ^^
- พูดถึงเรื่องลำดับ (Sequence) ตั้งแต่ม.ปลาย เราก็นึกถึง ลำดับเลขคณิต ลำดับเรขาคณิต พอมาเรียนป.ตรีปี1 เราก็นึกถึง ลำดับลู่เข้า ลำดับลู่ออก พอมาถึงปี3 เราก็นึกถึง ลำดับโคชี..........แต่แปลกจริงๆ ในทุกๆวัน ลำดับแรกที่นึกถึงก็คือใบหน้าของเธอ ^^
- สิ่งที่เราทำให้กับเธอก็เปรียบได้กับฟังก์ชันนึงในวิชาคณิตศาสตร์ นั้นก็คือฟังก์ชันtan "tan คำว่ารักคุณ"
- ถ้าความรักระหว่างเธอกับฉันเหมือนกับจำนวนเชิงซ้อนมันคงจะเป็นจริงเฉพาะเมื่ออยู่ ในส่วนจินตภาพ (Imaginary part) เพราะมันไม่มีวันเกิดขึ้น ในส่วนจริง (Real part)
- ถ้าความรักของเราคือฟังก์ชัน f(x) ตอนนี้มันคงถึงจุด x=c เมื่อ f'(c)=0 หรือไม่มีค่า
- ในวิชาตรรกศาสตร์ถ้าพิจารณา ประพจน์ P ---> Q ประพจน์นี้จะมีค่าความจริงเสมอ ไม่ว่า P จะเป็นประพจน์ใดก็ตาม ถ้าประพจน์ Q แทนข้อความว่า "ฉันรักเธอ"
- สมัยม.ปลาย คุณคงเคยเรียนคณิตศาสตร์เรื่องจำนวนเชิงซ้อน ทำให้คุณได้รู้ว่า
เมื่อ k เป็นจำนวนเต็ม
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 1 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ i
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 2 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ -1
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 3 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ -i
ถ้า k หารด้วย 4 เหลือเศษ 0 i กำลัง k มีค่าเท่ากับ 1
....แต่คุณคงไม่รู้หรอกว่า i กำลัง love you มีค่ามากมายแค่ไหน
- ตอน ม.ปลายเราเรียนเรื่องความน่าจะเป็นว่า จำนวนวิธีทั้งหมดในการเอาคน 3 คนมาเข้าแถวหน้ากระดาน คือ 3!=6 วิธี จำนวนวิธีทั้งหมดในการเอาคน 3 คนมายืนเป็นวงกลม คือ (3-1)!=2 วิธี แต่คงไม่มีสักวิธี ที่จะให้คน 3 คน คือ ฉัน เธอ และเขาอยู่ด้วยกันได้ในเรื่องความรัก
- ถ้าให้ฉันเป็นเซต A เธอเป็นเซต B ในตอนแรก เราอยู่ด้วยกันเพราะความรักอย่างมีความสุข (A U B)อาจเป็นเพราะเรามีสิ่งที่เหมือนกัน (A Intersect แต่เพราะว่าเธอนอกใจฉัน (A Complement) ฉันเลยต้องลบเธอออกไปจากหัวใจ (A-B)
- ในวิชาแคลคูลัสการอินทิเกรต x*sin x เราต้องใช้อินทิเกรต by part แต่การจะรักเธอ เราต้องใช้ by heart
- ถ้าให้ความรักที่ฉันให้กับเธอเป็นเมทริกซ์ A และความรักที่เธอให้กับฉันเป็นเมทริกซ์ A อินเวอร์ส...ความรักของฉันคงเป็นเมทริกซ์ A ชึ่ง det(A)=0
- ถ้าคนเราเป็นเหมือนเลขจำนวนนับ ตอนนี้ฉันก็คงเป็นตัวประกอบของเธอ แต่ฉันหวังว่าสักวันนึงความรักของเราจะเป็นเหมือน การหาร วันนั้นความรักของเราจะได้ลงตัวสักที
- ถ้ามีฟังก์ชันที่มีโดเมนเป็นสิ่งที่เธอทำกับฉัน ถ้ามีค่าบวกจะดี ถ้ามีค่าลบจะร้าย และมีเรนจ์ที่เป็นความรักที่ฉันมอบให้เธอ ฟังก์ชันนั้นคงเป็น f(x) = - x เพราะยิ่งเธอร้ายกับฉันเท่าไร ฉันก็ยิ่งรักเธอมากขึ้นเท่านั้น
- (C(n,r) อ่านว่า n เลือก r) ใน ม.ปลาย เราเรียนเรื่องการจัดหมู่ ถ้ามีดินสอที่แตกต่างกัน 5 แท่ง เลือกหยิบมา 2 แท่ง ได้ 5 เลือก 2 = 10 วิธี ถ้ามีหนังสือที่แตกต่างกัน 7 เล่ม เลือกหยิบมา 3 เล่ม ได้ 7 เลือก 3 = 35 วิธี...แต่ตอนนี้ ถ้าเลือกจะรักใครสักคน คงมีเพียง 1 วิธีเพราะฉันเลือกที่จะรักเธอ
- ฉันอาจจะดูไม่ค่อยเต็ม (Integer) คิดอะไรก็ไม่ค่อยมีตรรกะ(ยะ) (Rational) แต่ฉันก็มีความจริงใจให้กับเธอ (Real)
- ลิมิตของ (Sin x)/x เมื่อ x เข้าใกล้ 0 ต้องใช้ L'Hospital ในการแก้แต่ถ้า ลิมิตที่เข้าสู่หัวใจเธอไม่มีฉันอยู่ในนั้นแล้ว จะใช้ Hospital แก้ก็ไม่หาย
- ให้ฟังก์ชันความคิดถึงส่งจากเวลาที่ฉันอยู่คนเดียว ไปยังเซตของประชากรโลกทั้งหมดโดยที่ f(t)=เธอ ทุกt ที่อยู่ในโดเมนจะได้ว่า "ฉันคิดถึงเธอทุกt เมื่ออยู่คนเดียว..."
- กาลครั้ง 1 นานมาแล้ว 2 เราได้มีรักให้กันและกัน แม้ว่าฉันอาจจะเป็นคน 3 หาวไปบ้างแต่ทั้ง 4 ห้องหัวใจก็มีให้เธอ... ถึงแม้ว่าคนภายนอกจะพูดชักแม่น้ามทั้ง 5 ว่าสักวันนึงความรักของเราคงต้อง 6 คะเมนตีลังกา...แต่ฉันมั่นใจว่า ฉันจะทำให้เธอมีความสุขเหมือนขึ้นสวรรค์ชั้น 7 แล้ววันพรุ่งนี้เวลา 8 โมงเช้า หลังเคารพธงชาติฉันกับเธอก็พร้อมจะ 9 เดินไปด้วยกัน
- ถ้าความรักที่เรามีให้กันเป็นเหมือน function แล้วล่ะก้อถึงแม้ในช่วงนี้ มันจะเป็น non-increasing แต่อย่างน้อย มันก็เป็น non-decreasing เหมือนกัน
- ตอนม.ปลายนั้น มีโจทย์ในเรื่องความน่าจะเป็นที่พบบ่อยนั้นก็คือ เอาคำที่แตกต่างกันมาเรียงสับเปลี่ยนเป็นประโยคโดยไม่คำนึงถึงความหมายได้กี่วิธี ถ้าเพิ่มเงื่อนไขที่ว่าต้องมีความหมายนั้น อาจจะต้องแจงกรณี...แต่สำหรับเธอแล้วถ้าให้ทำโจทย์ที่ว่า เอาคำว่า"รัก" "ฉัน" "เธอ" มาเรียงกันเป็นประโยคที่มีความหมายได้กี่วิธีเธอคงตอบได้ด้วยง่ายว่า 0 วิธี เพราะ "ฉันรักเธอ" ไม่มีความหมาย
- ถ้าประพจน์ "ถ้า A แล้ว B" แปลว่า A รัก B แล้วล่ะก็ สำหรับฉัน ตอนนี้มันคงเป็น "ถ้า ฉัน แล้ว เธอ" แต่ฉันก็หวังว่าสักวัน มันคงจะเป็น "ฉัน ก็ต่อเมื่อ เธอ"
- มุมมองความรักก็เหมือนการเลือก take limit x เข้าใกล้ 0 ของ 1/x ถ้าเลือก take ทางขวา มันจะมีคุณ อนันต์ ^^ แต่ถ้าเลือก take ทางซ้ายมันจะมีโทษลบอนันต์ T-T ยิ่งถ้า take เข้าตรงกลางแล้ว มันจะยิ่งไม่มีค่า
- ถ้าเปรียบหัวใจเธอเป็น R (เซตของจำนวนจริง) ความรักของฉันที่มีให้เธออาจจะไม่ใช่ R แต่ฉันขอแค่ความรักของฉันที่มีให้เธอเป็นเหมือน Q (เชตของจำนวนตรรกยะ) ความรักของฉันจะได้มีความเต็มแน่น (dense) ในหัวใจเธอ
- ถ้าเปรียบความรักของเราเหมือนกับการเขียนเลข 9876543210 ถึงแม้ฉันจะเป็นคนจะเป็นคนความจำไม่ค่อยดีก็ตาม
แต่
เขียนครั้งที่ 2 คงเป็น 876543210
เขียนครั้งที่ 3 คงเป็น 76543210
เขียนครั้งที่ 4 คงเป็น 6543210
เขียนครั้งที่ 5 คงเป็น 543210
เขียนครั้งที่ 6 คงเป็น 43210
เขียนครั้งที่ 7 คงเป็น 3210
เขียนครั้งที่ 8 คงเป็น 210
เขียนครั้งที่ 9 คงเป็น 10
เขียนครั้งที่ 10 คงเป็น 0
ทำไมอ่ะเหรอเพราะความรักของเราไม่มีวัน 0 หาย
- ถ้าให้ U เป็นเซตของคนบนโลกนี้ และ A={(a,b)เป็นสมาชิกของUxU l a รัก b }
จะได้ว่า A เป็นความสัมพันธ์ แต่ A ไม่เป็นฟังก์ชัน เพราะมี (เธอ,ฉัน) และ (เธอ,เขา) เป็นสมาชิก
- ถ้าการบอกรัก เป็นเหมือนการแก้โจทย์ 18/3 = ? ฉันคงไม่กล้าทำ เพราะฉันไม่กล้า / พอ
- ถ้าอินทิเกรต sin x คงต้องอินทิเกรตเทียบ x อินทิเกรต e^t คงต้องอินทิเกรตเทียบ t
แต่หัวใจเราคงไม่สามารถอินทิเกรตเธอ เพราะว่าไม่มีอะไรเทียบกับเธอได้
- ถ้าเราเจอโจทย์อย่างเช่น "หาค่าของ (3^2)x4/3" เราคงตัด 3 ได้ แล้วคำตอบคือ 12
แต่ถ้าเปรียบเธอเป็นโจทย์ โจทย์นั้นคงเป็น "หาค่าของ(ใจ^3)x3/ใจ" และเราคงทำโจทย์ข้อนี้ไม่ได้...เพราะผมคงไม่อาจตัด "ใจ" จากเธอได้
- ตั้งแต่ฉันเรียนคณิตศาสตร์มาตั้งแต่เด็ก ฉันก็เข้าใจเครื่องหมาย + - x / เป็นอย่างดี แต่พอวันที่ฉันได้เจอเธอมีเครื่องหมายนึงที่ฉันไม่รู้จักมันซะแล้วก็คือเครื่องหมาย - เพราะ - ไม่รู้จัก รักไม่รู้จบ-