ผมใส่ไม่ถูกเหมือนกันครับว่าจะใส่หัวว่าอย่างกับหนังสือเล่มนี้!!!! CR ก็ไม่ใช่แน่ SR ก็ไม่เชิง และแน่นอนว่าผมมีส่วนได้ส่วนเสียกับหนังสือเล่มนี้  .... ผมเป็นคนเขียนเอง!!! .... แต่เพื่อนๆพันทิปก็ไม่จำเป็นต้องซื้อเพราะผมมีลิงค์ให้ตามไปอ่านกันได้ตามสบาย!!! ... ก็เลยงงๆว่าควรจะเขียนจั่วหัวอย่างไรดี 555+


หนังสือเล่มแรกในชีวิตของผมวางแผงตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไปแล้วครับพ่อแม่พี่น้อง!!!! ไม่นึกฝันมาว่ามาถึงจุดนี้ ... น้ำตาจะไหลครับ ... มันซึ้ง ... มันอิน ... มันฟิน ... มันช่างปลื้มปริ่มจริงๆ!!!!


ก่อนอื่นเลยคงต้องของขอบคุณ “พันทิป” มากๆครับ เพราะ พันทิปคือสถานที่ที่ให้กำเนิดงานเขียนของผม นอกจากนั้นที่แห่งนี้ยังฟูมฟักให้งานเขียนของผมเติบใหญ่จนผลิดอกออกผลเป็นหนังสือ . . . ดังนั้นผมพูดได้เต็มปากว่ามีวันนี้วันที่ผมได้ออกหนังสือของตัวเองได้ เพราะ พันทิป โดยแท้ และ ที่ต้องขอบคุณ “เพื่อนๆสมาชิกทุกท่าน” ที่กรุณาอ่าน แสดงความเห็น และติชมกระทู้ของผมตลอดหลายปีที่ผ่านมา .... ขอบคุณมากครับ ขอบคุณ ขอบคุณ


กระทู้นี้ผมจะมารีวิวหนังสือตัวเองครับพี่น้อง!!!


เฮ้ย!!! จะมาเขียนรีวิวหนังสือตัวเองแบบนี้เลยเหรอ???


ก็นะ ... อยากจะรีวิวหนังสือตัวเองบ้าง 555+ ... ส่วนเรื่องอวยนี่ ยอมรับว่าอวยจริงครับเพียงแต่มาอวยตัวเองครับ ... ไม่ได้มาอวยให้ซื้อหนังสือ!!! 555555+ ... ผมว่าจริงๆแล้วเพื่อนๆพันทิปไม่ต้องซื้อหนังสือเล่มนี้หรอกครับ เพราะ เรื่องที่เขียนในหนังสือเค้าโครงก็มาจากเรื่องที่ผมเขียนลงพันทิปนี่ละครับ อ่านกระทู้เก่าๆของผมโดยกดเข้าไปอมยิ้มได้เลยครับ (http://ppantip.com/profile/556807)

เพียงแต่ตอนเขียนลงในพันทิปมันไม่เป็นหมวดหมู่ กระจัดกระจาย อยากเล่าตรงไหนก็เล่า เรื่องกระโดดไปกระโดดมา ... งานเขียนเล่มนี้เป็นการร้อยเรียงเรื่องราวต่างๆเป็นเรื่องราวเดียวที่ต่อเนื่องกันเริ่มตั้งแต่ต้นตั้งแต่สมัยยังเรียนหนังสืออยู่ ผมเลยเรียบเรียงใหม่ เขียนเพิ่มเนื้อหาในส่วนที่ขาดหายไป ทำไปทำมาเขียนใหม่เยอะเลย เพราะ เนื้อหาขาดๆเกินๆเยอะ และงานเขียนนี้มีคุณภาพยิ่งดีขึ้นไปอีกเมื่อได้รับคำแนะนำเสนอแนะการเขียนจากบรรณาธิการของสำนักพิมพ์ ทำให้เรื่องราวไหลรื่นอ่านง่ายกว่าเดิม


หนังสือชือว่า ... จับเสือมือเปล่า เล็งให้แม่น เก็งให้รวย ด้วย อสังหาฯ
ผู้เขียน ... ณัฐพงศ์ คำมา หรือเจ้าของล็อกอิน มาม่ากับปลากระป๋อง ณ พันทิป


หน้าปกเท่ห์มาก ถ้าไม่เชื่อ ทุกท่านโปรดพิจารณาดู ... หล่อมั้ย 5555+



หนังสือเล่มนี้พูดถึงเรื่องอะไรและจะได้อะไรจากหนังสือเล่มนี้?

อันดับแรกรับไปเลยครับ ... “แรงบันดาลใจ” เพราะ เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวชีวิตของหนุ่มธรรมดาหน้าตางงงงฐานะกลางๆที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรคนหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่ก็รับราชการตัวเองก็ไม่ได้เรียนเก่งโดดเด่นอะไร ผลการเรียนก็ลุ่มๆดอนๆจวนเจียนจะโดนไล่ออกเสียด้วยซ้ำเพราะเกรดถึงเกณฑ์ แต่เวลาผ่านไปเพียงชั่วลัดมือเดียวจากเด็กหนุ่มที่เคว้งขว้างงุนงงกับชีวิตในวันก่อน ได้กลายมาเป็นชายหนุ่มที่ดูแลบริหารการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีมูลค่ามากกว่าสิบล้าน ชีวิตเปลี่ยนไปขนาดนี้ได้อย่างไร … คุณจะพบคำตอบได้ในหนังสือเล่มนี้

สิ่งที่จะได้จากหนังสือนอกจากแรงบันดาลใจแล้วก็รับไปควบคู่กันไปเลยครับ กับ “ประสบการณ์การลงทุนของผม” หนังสือเล่มนี้รวบรวมประสบการณ์การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของผมไว้ทั้งหมด เล่าไว้ชนิดที่เรียกว่า “เล่าหมดเปลือก” กันเลย เพราะ เขียนไว้ทุกเรื่องราว ผมมีแนวคิดการลงทุนเป็นอย่างไร ผมเริ่มทำอย่างไร  หาเงินมาจากไหน ผิดพลาดอย่างไร กำไรเท่าไหร่ ผมเล่าหมดทุกเม็ดไม่มีแทงกั๊กกันเลยทีเดียว เท่านั้นยังไม่พอ!!! แถมท้ายด้วย “เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ” เป็นบทปิดท้าย


ลองไปดูสารบัญหัวข้อเนื้อหาที่ผมเขียนในหนังสือกัน ...


สารบัญ

Story  1 :  1 สมองกับ 2 มือ
คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก
บทเรียนแรก
จุดเปลี่ยนชีวิต
เมื่อใจมันชอบไปแล้ว
ก้าวสู่เส้นทางลงทุน
บทเรียนจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์

Story  2  : ก่อนจะจับเสือ
ทำไมต้องลงทุนในอสังหาฯ ?
“3 เตรียม” ก่อนลงทุนอสังหาฯ
อสังหาริมฯ  สไตล์ VI
รู้มูลค่าที่แท้จริงไปเพื่ออะไร?
การจัดพอร์ต อสังหาฯ
อสังหาฯ ประเภทไหนน่าลงทุน?
มองหาอสังหาฯ  ได้จากที่ไหน?
ประเมินมูลค่าอสังหาฯ  ยังไง
อย่างไรถึงเรียกว่า “ถูก”?

Story 3: เล็งให้แม่น เก็งให้รวย
ประสบการณ์ลงทุนอสังหาฯ ครั้งแรก
พิชิตอสังหาฯ จากการประมูล
ค้นหาและพิจารณาการเข้าสู้ราคา
กฎเหล็ก 4  ไม่ซื้อของผม
วางเงินประกันและการประมูล
ขั้นตอนและวิธีการหลังประมูลทรัพย์ได้
ลงทุนในซากปรักหักพัง

Story 4:  เสือนอนกิน
ซื้อมาขายไป หรือ ปล่อยเช่า อะไรแจ๋วกว่ากัน?
จัดการธุรกิจบ้านเช่า
เริ่มจากการหาผู้เช่า
ทำบ้านเช่าแบบหัวกระไดไม่เคยแห้ง
ปั้นกระแสเงินสดด้วยการปล่อยของ

Story 5:  ต่อยอดเพิ่มมูลค่า
เพิ่มมูลค่า
ที่ดินแปลงนี้แม่ชอบ
ทำไมเราถึงสนใจที่ดินแปลงนี้?
โอกาสมาในเวลาที่ไม่พร้อม
ที่ดินห่านทองคำ เกมแย่งชิงที่ดิน
สร้างบ้านทาวน์เฮาส์
พลิกกลยุทธ์
อุปสรรคบนเส้นทางการลงทุน
หยุดพักหายใจ

Story 6:  ฝึกการเป็นนักล่า
เบื้องหลังความสำเร็จ
ทำไมถึงเข้าตา?
ไปดูสถานที่จริง
สรุปแบบฝึกหัด

บทส่งท้าย เคล็ดลับสู่ความสำเร็จ
เริ่มจาก ... ความชอบ
ตามต่อด้วยความเชื่อ
ต้องมี ... ความรู้
และต้องมี ... ความมุมานะ
ความสำเร็จ


สารบัญหนังสือก็เป็นเช่นนี้แล ... เขียนเองรีวิวเองต้องมีมากกว่านี้สิ แบบนี้ใครๆก็รีวิวได้ 555+ …


เอาล่ะไหนๆก็มีหนังสือเป็นของตัวเองแล้ว ผมขอเล่าความเป็นมาของล็อกอิน “มาม่ากับปลากระป๋อง” สักนิดครับ เพื่อ “เป็นแรงบันดาลใจ” และเป็นแนวทางเผื่อใครอยากเขียนหนังสือเพิ่มเติมให้ด้วย


ตัวผมวนเวียนอยู่ในพันทิปมาราวๆ 8 ปี!!! คิดๆดูแล้วก็ผ่านมานานแล้วเหมือนกันนะเนี่ย!! เดิมทีใช้ชื่อล็อกอินว่า NathanKh อะไรทำนองนี้(จำแม่นๆไม่ได้) ตอนนั้นผมเข้ามาขลุกอยู่ใน “ห้องสินธร” เป็นหลัก สมัครเข้ามาเล่นหุ้นในพอร์ทจำลอง (สมัยนั้นในห้องสินธรมีพอร์ทหุ้นจำลองให้เล่น) เข้ามาส่องเซียนกับดูพอร์ทจำลองขอตัวเองเป็นหลักไม่ค่อยได้ตั้งกระทู้หรือแสดงความเห็นแต่อย่างใด … ผมเป็นพวกความจำปลาทองมีอยู่ช่วงหนึ่งไม่ได้เข้ามานานลืม password ซ้ำร้ายโฮสเมลล์ที่ใช้สมัครก็ปิดตัวลงอีก งงเลยทีนี้ ...


โดยปกติผมเป็นคนชอบเที่ยวชอบออกเดินทางอยากจะเล่าเรื่องการเดินทางบ้างจึงสมัครใหม่ใช้นามแฝงว่า ... “มาม่ากับปลากระป๋อง”  ... แรกเริ่มเดิมทีตั้งใจว่าจะเอาดีทางด้านรีวิวการท่องเที่ยวใน “ห้องบลูแพลนเน็ต” แต่จนแล้วจนรอดผ่านมา 3-4 ปี มานี้ล็อกอิน “มาม่ากับปลากระป๋อง” เคยรีวิวเรื่องการท่องเที่ยวเพียง 2-3 กระทู้ 55555+ ... ประเด็นสำคัญที่ทำให้ไม่ค่อยได้รีวิวในห้องบูลฯ ก็คือ พี่ๆที่รีวิวกันอยู่เทพๆทั้งนั้น ถ่ายรูปก็สวย เก็บรายละเอียดมาครบมาก ตัวผมเองถ่ายรูปก็ไม่เอาอ่าว และผมเป็นคนไม่ละเอียด ไปเที่ยวแต่ละทีก็ไปเลยไม่ค่อยมีแผนหรือ ไม่ค่อยจำอะไร สรุป จบข่าว ...

หลังจากนั้นก็เริ่มเขียนเรื่องทั่วไปครับ ดินฟ้าอากาศ เห็นอะไรก็เล่าไปเรื่อยๆ แต่ที่เริ่มเขียนแบบจริงจังและต่อเนื่องก็คือ การเล่าเรื่องราวของร้านกิ๊ฟช็อปที่ชื่อ “ร้านทอรุ้ง” ผมเล่าเรื่องราวของร้านกิ๊ฟช็อปทอรุ้งกว่า 30 กระทู้ในระยะเวลา 2 ปี มีครบทุกรสขายไม่ได้ ขายดี ไม่มีเงิน กลยุทธ์ต่างๆ สารพัดสารพันเรื่องเล่า ในหลายๆกระทู้ไม่มีตนเม้นเลยสักคนเดียว แต่ก็ยังหน้ามึนเขียนมาเรื่อยๆ 555+ … มีคนอ่านบ้างไม่มีบ้างมีคนเข้ามาคุยบ้าง สอบถามบ้าง ให้กำลังใจบ้าง ... และก็หยุดเขียนเมื่อผมย้ายร้านและเปลี่ยนชื่อร้านใหม่

หลังจากนั้นผมหันมาเขียนเรื่องทั่วๆเน้นไปที่เรื่องการประกอบกิจการ เรื่องเงินทองๆ เป็นหลัก และ ก็เริ่มเขียนเรื่อง “การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์” ... หลังจากเขียนมาหลายปีเมล็ดพันธ์ที่ปลูกไว้เริ่มผิลดอกออกผล ... เมื่อผมลงกระทู้ที่ชื่อว่า


ทำกำไรได้ 250,000 จากซากปรักหักพัง!!!
http://ppantip.com/topic/32010769


ซึ่งกระทู้นี้ บก.ของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งได้เข้ามาอ่าน และ สนใจเรื่องราวการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของผม ... เรื่องราวของการเขียนหนังสือจึงเริ่มขึ้น จนเป็นรูปเล่มและวางแผงในที่สุด ....

การเขียนนั้นดีและมีประโยชน์จริงๆนะเชื่อผมเหอะ!!!! ... โดยเฉพาะการเขียนลงในบร์อดสาธารณะอย่างพันทิป เป็นการสื่อสารแบบสองทาง “ผู้เขียน” กับ “ผู้อ่าน” คุยตอบกลับกันได้ ในพันทิปมี “เซียน” หลากหลายสาขาวิชาชีพแฝงตัวอยู่เยอะมาก และ หลายๆท่านพร้อมที่จะให้คำปรึกษาหรือเสนอแนะถ้าเราเล่าเรื่องราวได้ดีหรือถามได้ถูกจุด เพื่อที่เราจะได้นำไปปรับปรุงให้ดียิ่งๆขึ้น ... ในแง่ของการเขียน การเขียนลงในบร์อดสาธารณะเป็นที่ลับฝีมืออย่างดี ... ทำให้เรารับรู้ผลตอบรับที่ตามมาทันทีได้ กระทู้นี้ไม่มีคนเข้าเลยทำไม? หัวเรื่องไม่จูงใจ ... เนื้อกระทู้ไม่โดน ... เขียนไม่ดี ... เขียนไปก็สังเกตไป ปรับปรุงพัฒนาไปเรื่อยๆ ...


หลายปีก่อนผมเคยโดนถามว่า ... เขียนเล่าเรื่องราวในอินเตอร์เน็ตแบบนี้ได้อะไร?


สำหรับผมการเขียนนั้นมีประโยชน์มากครับ ผมขอยกตัวอย่างข้อดีของการเขียนสัก 4 ประเด็น


1. เป็นการบันทึกความทรงจำ
จำไว้ในสมองอย่างเดียวผมเชื่อว่าเรื่องราวหนึ่งร้อยสิบปีผ่านไปจำได้ไม่ถึงสิบ เวลาผ่านไปความทรงจำเหล่านี้ก็จะลืมเลือนไปตามกาลเวลา ถ้าเราไม่บันทึกมัน ดังนั้นการเขียนจึงเป็นการเก็บความทรงจำไว้ ... ทั้งที่ดี ทั้งที่เลวร้าย ทั้งเรื่องราวต่างๆมากมาย


2. การเขียนนั้นเป็นการเรียบเรียงความคิดที่ดีที่สุดอย่างหนึ่ง
สมัยก่อนผมเคยคิดโปรเจคเรื่องๆเดียวคิดอยู่เป็นเดือนก็ไม่จบ เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างมันพรั่งพรูออกมาจากสมอง แต่พอจับมาเขียนลงกระดาษจริงๆกลับเขียนได้เพียงแค่ 2 หน้ากระดาษ!!! การคิดอยู่แต่ในสมองบางทีมันคิดเรื่องเดิมซ้ำๆวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น เหมือนงูกินหาง ... เทคนิคของผม คือ คิดแล้วให้เขียนบันทึกลงไป ... ข้อนี้ผ่านโอเค แล้วก็ค่อยข้ามไปคิดหัวข้ออื่นต่อไป ... ผลก็คือ การจัดเรียงความคิดของผมเป็นระบบขึ้นเยอะ การวางแผนมีประสิทธิภาพมากขึ้นเยอะ


3. ความอิ่มเอมที่ได้รับ และ แรงบันดาลใจที่อยากส่งต่อ
เรารู้เรื่องใดเรื่องหนึ่งหรือมีประสบการณ์ เราก็อยากเล่าต่อเพื่อให้คนอื่นได้รับรู้ และ ผู้ที่อ่านก็ชอบในสิ่งที่เราเขียน มันเป็นความอิ่มเอมใจที่สัมผัสได้ เช่นในชีวิตของผมพานพบเรื่องราวที่สร้างแรงบันดาลใจให้ตัวเอง และ หลายๆครั้งก็อย่างส่งต่อแรงบันดาลใจเหล่านี้


4. สร้างรายได้
สำหรับผมตัวนี้เป็นผลพลอยได้ล้วนๆครับ ... เพราะเขียนจากความชื่นชอบและอยากแบ่งปันจาก 3 ข้อด้านบนล้วนๆ


ในอนาคตส่วนตัวผมเองต่อไปก็คงเขียนแชร์ประสบการณ์ลงพันทิปไปเรื่อยๆเช่นเดิมครับ คงไม่หนีหายไปไหน


ในท้ายที่สุดนี้ต้องขอบคุณพันทิปและเพื่อนๆสมาชิกอีกครั้งครับ

ขอบคุณครับ ขอบคุณ ขอบคุณ ...

มาม่ากับปลากระป๋อง

…[^_^]…