แม้จะมีหูและขนแมวอยู่บนสองแก้ม แต่การประกาศว่า Hello Kitty แท้จริงแล้วเป็นเด็กผู้หญิงชาวอังกฤษ นำไปสู่การโต้เถียงเรื่องตัวตนของตัวการ์ตูนที่ผู้คนรู้จักในฐานะแมวแสนน่ารักจากญี่ปุ่นมานานถึง 40 ปี
กว่า 40 ปีที่ Hello Kitty ตัวการ์ตูนดังของญี่ปุ่น ใช้ความน่ารักครองใจแฟนๆทั่วโลกจนสร้างรายได้ถึงปีละ 7,000 ล้านดอลลาร์ แต่ความรู้สึกเอ็นดูที่ผู้คนมีต่อ Hello Kitty ไม่ต่างจากลูกแมวตัวหนึ่ง กลับเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกเข้าใจผิดมาตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อมีการเปิดเผยผ่านสื่อว่าแท้จริงแล้ว Hello Kitty ไม่ใช่แมว
ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์แอลเอไทม์ ที่อ้างคำพูดของ คริสติน อาร์ ยาโนะ นักมนุษยวิทยา ผู้ศึกษาอิทธิพลของ Hello Kitty มีต่อปรากฎการณ์ทางสังคมและกำลังเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานฉลอง 40 ปี Hello Kitty ในสหรัฐฯ โดยเธอเผยว่าได้รับการแก้ไขข้อมูลจากทางซานริโอ้ บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ว่าแท้จริงแล้ว Hello Kitty คือ คิตตี้ ไวท์ เด็กหญิงชั้นประถม ผู้อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองของลอนดอน มีน้องสาวฝาแฝดและมีสัตว์เลี้ยงอย่าง "Charmmy Kitty" เป็นแมวตัวโปรด ซึ่งการที่เธอยืนสองขาและไม่เคยคลานสี่เท้า คือสิ่งยืนยันว่า Hello Kitty ไม่ใช่แมวอย่างที่หลายคนเข้าใจ
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวสร้างข้อถกเถียงบนโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม โดยมีการโต้แย้งผ่านทวิตเตอร์กว่า 8 หมื่นครั้งและมีแฟนๆเข้าไปแก้ไขประวัติ Hello Kitty บนวิกิพิเดียบ่อยครั้ง จนทางเว็บไซต์ต้องจำกัดการแก้ไขข้อมูลเป็นเวลาครึ่งเดือน ซึ่งคนดังไม่น้อยก็ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วย ตั้งแต่ ไมค์ ชิโนดะ แห่งวง linkin park ผู้ยอมรับว่าข่าวนี้ทำใจยากกว่าตอนที่รู้ว่าพลูโตไม่ใช่ดาวเคราะห์เสียอีก ส่วนนักร้องเสียงนุ่มอย่าง จอช โกรบัน ก็สงสัยว่า Hello Kitty ไม่ใช่แมวได้อย่างไร เมื่อเธอมีขนแมวอยู่บนหน้าอย่างชัดเจน
ล่าสุดทางสำนักงานใหญ่ของซานริโอ้ ออกมาชี้แจงว่า ข้อความที่ระบุว่า Hello Kitty ไม่ใช่แมว เป็นสิ่งที่สื่อนำไปขยายความให้เกินจริง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทชี้แจงว่า Hello Kitty คือหนึ่งในตัวการ์ตูนประเภท โมเอ้ กิจินกะ ซึ่งเป็นการสร้างตัวการ์ตูนที่ใส่ลักษณะความเป็นมนุษย์ลงไปในสัตว์หรือสิ่งของ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ตัวการ์ตูนมีความน่ารักยิ่งขึ้น
การนำรูปลักษณ์ของมนุษย์ไปใช้กับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ หรือ มานุษยรูปนิยม ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายนับแต่อดีต ตั้งแต่การบรรยายให้เทพเจ้าอยู่ในรูปลักษณ์ของมนุษย์ จนถึงการนำสัตว์ชนิดต่างๆมาสร้างเป็นตัวการ์ตูนชื่อดังมากมาย ตั้งแต่ โดนัล ดั๊ก ของวอลต์ ดิสนีย์, ดัฟฟี ดั๊ก ของรูนนี่ตูน ซึ่งทางซานริโอ้เปรียบเทียบว่า มิกกี้ เมาส์ เองก็ดูไม่เหมือนคนพอๆกับที่ดูไม่เหมือนหนูทั่วๆไป ไม่ต่างจาก Hello Kitty ที่ไม่ใช่ทั้งคนหรือแมว แต่เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาโดยมีแมวเป็นต้นแบบเท่านั้น
การออกแบบ Hello Kitty ยังสร้างความสับสนในหลายประเด็น ทั้งสาเหตุของการไม่มีปากที่นำมาซึ่งคำอธิบายที่หลากหลาย โดย ยูโกะ ยามากูชิ ผู้ออกแบบ Hello Kitty คนปัจจุบันอธิบายว่า การไร้ปากของ Hello Kitty ทำให้เธอไม่ผูกติดกับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง คิตตี้จะดูสนุกสนานเมื่อเจ้าของมีความสุข หรือจะดูหงอยเหงาเมื่อเจ้าของอยู่ในอาการซึมเศร้า ซึ่งนั่นจะทำให้ Hello Kitty สามารถสื่อสารกับผู้คนผ่านหัวใจได้อย่างแท้จริง
ขอบคุณข้อมูลจาก
ข้อถกเถียงเรื่องตัวตนของ Hello Kitty
กว่า 40 ปีที่ Hello Kitty ตัวการ์ตูนดังของญี่ปุ่น ใช้ความน่ารักครองใจแฟนๆทั่วโลกจนสร้างรายได้ถึงปีละ 7,000 ล้านดอลลาร์ แต่ความรู้สึกเอ็นดูที่ผู้คนมีต่อ Hello Kitty ไม่ต่างจากลูกแมวตัวหนึ่ง กลับเป็นสิ่งที่คนทั่วโลกเข้าใจผิดมาตลอด 4 ทศวรรษที่ผ่านมา เมื่อมีการเปิดเผยผ่านสื่อว่าแท้จริงแล้ว Hello Kitty ไม่ใช่แมว
ข้อมูลดังกล่าวถูกเผยแพร่โดยเว็บไซต์ของหนังสือพิมพ์แอลเอไทม์ ที่อ้างคำพูดของ คริสติน อาร์ ยาโนะ นักมนุษยวิทยา ผู้ศึกษาอิทธิพลของ Hello Kitty มีต่อปรากฎการณ์ทางสังคมและกำลังเตรียมข้อมูลเพื่อใช้ในงานฉลอง 40 ปี Hello Kitty ในสหรัฐฯ โดยเธอเผยว่าได้รับการแก้ไขข้อมูลจากทางซานริโอ้ บริษัทเจ้าของลิขสิทธิ์ว่าแท้จริงแล้ว Hello Kitty คือ คิตตี้ ไวท์ เด็กหญิงชั้นประถม ผู้อาศัยอยู่ในย่านชานเมืองของลอนดอน มีน้องสาวฝาแฝดและมีสัตว์เลี้ยงอย่าง "Charmmy Kitty" เป็นแมวตัวโปรด ซึ่งการที่เธอยืนสองขาและไม่เคยคลานสี่เท้า คือสิ่งยืนยันว่า Hello Kitty ไม่ใช่แมวอย่างที่หลายคนเข้าใจ
การเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวสร้างข้อถกเถียงบนโลกออนไลน์อย่างล้นหลาม โดยมีการโต้แย้งผ่านทวิตเตอร์กว่า 8 หมื่นครั้งและมีแฟนๆเข้าไปแก้ไขประวัติ Hello Kitty บนวิกิพิเดียบ่อยครั้ง จนทางเว็บไซต์ต้องจำกัดการแก้ไขข้อมูลเป็นเวลาครึ่งเดือน ซึ่งคนดังไม่น้อยก็ร่วมแสดงความไม่เห็นด้วย ตั้งแต่ ไมค์ ชิโนดะ แห่งวง linkin park ผู้ยอมรับว่าข่าวนี้ทำใจยากกว่าตอนที่รู้ว่าพลูโตไม่ใช่ดาวเคราะห์เสียอีก ส่วนนักร้องเสียงนุ่มอย่าง จอช โกรบัน ก็สงสัยว่า Hello Kitty ไม่ใช่แมวได้อย่างไร เมื่อเธอมีขนแมวอยู่บนหน้าอย่างชัดเจน
ล่าสุดทางสำนักงานใหญ่ของซานริโอ้ ออกมาชี้แจงว่า ข้อความที่ระบุว่า Hello Kitty ไม่ใช่แมว เป็นสิ่งที่สื่อนำไปขยายความให้เกินจริง โดยฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทชี้แจงว่า Hello Kitty คือหนึ่งในตัวการ์ตูนประเภท โมเอ้ กิจินกะ ซึ่งเป็นการสร้างตัวการ์ตูนที่ใส่ลักษณะความเป็นมนุษย์ลงไปในสัตว์หรือสิ่งของ โดยมีจุดประสงค์เพื่อทำให้ตัวการ์ตูนมีความน่ารักยิ่งขึ้น
การนำรูปลักษณ์ของมนุษย์ไปใช้กับสิ่งที่ไม่ใช่มนุษย์ หรือ มานุษยรูปนิยม ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายนับแต่อดีต ตั้งแต่การบรรยายให้เทพเจ้าอยู่ในรูปลักษณ์ของมนุษย์ จนถึงการนำสัตว์ชนิดต่างๆมาสร้างเป็นตัวการ์ตูนชื่อดังมากมาย ตั้งแต่ โดนัล ดั๊ก ของวอลต์ ดิสนีย์, ดัฟฟี ดั๊ก ของรูนนี่ตูน ซึ่งทางซานริโอ้เปรียบเทียบว่า มิกกี้ เมาส์ เองก็ดูไม่เหมือนคนพอๆกับที่ดูไม่เหมือนหนูทั่วๆไป ไม่ต่างจาก Hello Kitty ที่ไม่ใช่ทั้งคนหรือแมว แต่เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นมาโดยมีแมวเป็นต้นแบบเท่านั้น
การออกแบบ Hello Kitty ยังสร้างความสับสนในหลายประเด็น ทั้งสาเหตุของการไม่มีปากที่นำมาซึ่งคำอธิบายที่หลากหลาย โดย ยูโกะ ยามากูชิ ผู้ออกแบบ Hello Kitty คนปัจจุบันอธิบายว่า การไร้ปากของ Hello Kitty ทำให้เธอไม่ผูกติดกับอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่ง คิตตี้จะดูสนุกสนานเมื่อเจ้าของมีความสุข หรือจะดูหงอยเหงาเมื่อเจ้าของอยู่ในอาการซึมเศร้า ซึ่งนั่นจะทำให้ Hello Kitty สามารถสื่อสารกับผู้คนผ่านหัวใจได้อย่างแท้จริง