Chapter 1
นี่คือเรื่องราวปรัมปราเกี่ยวกับทวยเทพ เรื่องเล่าและตำนานเทพปกรณัม ที่เล่าขานสืบต่อกันมา
เมื่อพูดถึงทวยเทพในยุคแรกเริ่ม ย่อมมีชื่อของซีอุส โพไซดอน และฮาเดส ติดอยู่ในนั้น ..นั่นคือยุคแห่งการเริ่มต้นของตำนาน
หลังจากสงครามไททันสิ้นสุดลง เหล่าทวยเทพก็ได้แบ่งปันอาณาจักรในการปกครอง โดยซีอุสซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ปกครองโอลิมปัสและสวรรค์ ส่วนเทพโพไซดอน ได้ปกครองผืนน้ำและมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล ในขณะที่ฮาเดสได้ปกครองยมโลกและใต้พิภพ รวมถึงทรัพย์สมบัติภายใต้ผืนดิน
เรื่องราวของเหล่าท่วยเทพ มักจะมีเรื่องราวความรักของพวกเขารวมอยู่ด้วย
และดูเหมือนเรื่องราวความรักของเทพบางองค์น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวีรกรรมของพวกเขา
แม้แต่เทพที่มุ่งมั่น จริงจัง อย่างฮาเดส ซึ่งหน้าตาถทึงอยู่เป็นนิตย์ จนทำให้เป็นที่น่าเกรงขาม ก็ยังไม่วายมีเรื่องราว และตำนานความรักที่น่าประทับใจ
เรื่องราวความรักของฮาเดสเริ่มขึ้น เมื่อวันหนึ่ง อสูรเอนซาลาดัสซึ่งถูกซีอุสล่ามด้วยโซ่แล้วคุมขังไว้ใต้ภูเขาเอตนา ได้พยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ จนทำให้แผ่นดินสั่นไหวไปจนถึงยมโลก
ฮาเดสเกรงว่ายมโลกจะแตกร้าว จึงขับรถม้าสีดำขึ้นไปตรวจดู และขณะนั้นเอง กามเทพอีรอสได้โอกาส จึงแผลงศรไปปักอกฮาเดส ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถวิลหาความรัก
ปกติฮาเดสจะเป็นเทพที่รักสงบ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร จึงไม่ค่อยได้ออกจากยมโลก กามเทพจึงไม่มีโอกาสได้ชักนำความรักให้เขา
ดินแดนของฮาเดสอยู่ลึกสุดกู่ อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ปกคลุมด้วยหมอกที่หนาวเย็น และมีลมพัดแรงตลอดเวลา
ด้วยการที่ดินแดนของฮาเดสคือยมโลก จึงทำให้แม้แต่กามเทพก็ไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะไม่สามารถลงไปใต้ยมโลกเพื่อแผลงศรใส่เขา
ครั้นเมื่อได้โอกาสที่ฮาเดสออกมาสำรวจเบื้องบนครั้งนี้ ทำให้เป็นโอกาสของกามเทพที่จะชักนำเขาให้ได้พบกับเพอร์เซโฟนี ..เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิ
ขณะที่ฮาเดสขับรถม้าสำรวจไปเรื่อยๆ นั้น บังเอิญได้พบเห็นกลุ่มเทพธิดาเก็บดอกไม้อยู่
สายตาเขาสะดุด ไม่อาจละไปมองใคร เมื่อได้พบเห็นเทพีเพอร์เซโฟนี ..ผู้มีความงามที่เป็นเลิศ
ขณะนั้นเอง ซีอุสได้ลงมาสมทบกับฮาเดส เพื่อดูฤทธิ์ของอสูรกายซาลาดัส แต่ปรากฏว่า ทุกอย่างได้เงียบสงบลงแล้ว
ซีอุสมองไปยังกลุ่มเทพีที่ลงมาเก็บดอกไม้ยังโลก ก่อนจะส่ายหน้ากับความซุกซนของพวกนาง
“ลงมาเก็บดอกไม้ถึงที่นี่เลยหรือ”ซีอุสมองไปยังบุตรีของตน
“รู้จักนางหรือ”ฮาเดสถาม ขณะทีมองไปยังเพอร์เซโฟนี
“ลูกสาวข้าเอง จะไม่ให้รู้จักได้อย่างไร”ซีอุสกล่าว
“ข้าอยากแต่งงานกับนาง”ฮาเดสบอก
นั่นเองที่ทำให้ซีอุสหันมามองด้วยความแปลกใจ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเทพอย่างฮาเดสจะรักชอบใคร
“พูดเล่นใช่ไหม”ซีอุสถาม
“ข้าพูดจริง”ฮาเดสตอบ
“ข้าเองก็อยากจะยกให้ แต่มันติดตรงที่ ..แม่นางหวงเสียยิ่งกว่าอะไร ไม่ว่าเทพองค์ใดไปสู่ขอ ก็โดนไล่กลับไปทุกราย”ซีอุสบอก
“ข้าอยากแต่งงานกับนางจริงๆ”ฮาเดสยืนกราน
“เอาอย่างนี้”ซีอุสนึกแผนการได้ “ข้าแนะนำให้ฉุด”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฮาเดสก็หันมามองซีอุสเพื่อความแน่ใจว่า ที่พูดมาเป็นเรื่องล้อเล่นหรือไม่
“พูดจริงใช่ไหม”ฮาเดสถาม
“แน่นอน”ซีอุสยิ้มให้
*___________________________________________*
หลังจากที่ซีอุสกลับไปยังโอลิมปัสแล้ว ฮาเดสก็ขับรถม้าของเขากลับไปทางเดิม โดยฉุดเพอร์เซโฟนีให้กลับไปยังยมโลก เพื่อเป็นเจ้าสาวของเขา
“ช่วยด้วย”เพอร์เซโฟนีร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อโดนชายแปลกหน้าฉุดนางขึ้นรถม้า ทว่า ไม่มีใครสามารถช่วยได้
รถม้าสีดำของฮาเดสวิ่งไวยิ่งกว่าพายุที่พัดผ่าน จึงเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะมีใครฉุดรั้ง
“ท่านเป็นใคร” เฟอร์เซโฟนีหันมามองเขา “จะพาข้าไปไหน”
“จะให้ข้าตอบคำถามไหนก่อน”ฮาเดสถามกลับ
“ท่านเป็นใคร”นางสงสัย
“ฮาเดสคือนามของข้า”เขาตอบ
“ท่านจะพาข้าไปที่ใด”เพอร์เซโฟนีถามต่อ
“ยมโลก”ฮาเดสกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พอๆ กับใบหน้าที่ไม่รู้สึกร้อนหนาวใดๆ
“ข้ายังไม่อยากตาย”นางพยายามจะลงจากรถม้า แต่ถูกเขารวบตัวไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่งแค่เพียงแขนเดียว
“ข้าไม่ได้พาเจ้าไปตาย”ฮาเดสบอก “ข้าจะพาเจ้าไปแต่งงานต่างหาก”
“อะไรนะ”เพอร์เซโฟนีตะลึง มองเขาตาค้าง
“เจ้าจะเป็นเจ้าสาวของข้า”ฮาเดสย้ำให้ฟังอย่างชัดเจน
“ไม่ ข้าไม่ไป”เพอร์เซโฟนีพยายามดิ้นรนขัดขืน ไม่ปรารถนาจะไปเยือนยมโลก
“นั่งนิ่งๆ ไม่เช่นนั้นข้าจะปล้ำเจ้าเสียตรงนี้ ไม่ต้องรอการแต่งงานอะไรทั้งนั้น”เขาขู่ แต่ก็พร้อมจะทำจริงๆ หากนางยังแผลงฤทธิ์ไม่เลิก
“ท่าน ..”เพอร์เซโฟนีต้องตะลึงกับเขาอีกครั้ง
*___________________________________________*
เมื่อรถม้าของฮาเดสวิ่งมาถึงแม่น้ำไซเอนี แม่น้ำได้เกิดความปั่นป่วน ราวกับจะพยายามคัดค้านไม่ให้เขานำตัวเพอร์เซโฟนีไปยังยมโลก
ฮาเดสมองแม่น้ำทีท่วมเอ่อ ขัดขวางการวิ่งของรถม้า จึงเกิดความไม่พอใจ เขาโกรธจนใช้คทากระแทกลงบนพื้น ทำให้ดินแยกออกจากกัน สายน้ำเลยแห้งเหือดไปในทันตา
เพอร์เซโฟนีดึงสายรัดเอวของตัวเองออกมา แล้วโยนลงสู่แม่น้ำ เพื่อฝากให้แม่น้ำช่วยบอกข่าวของนางแก่ผู้เป็นมารดา
หลังจากจัดการกับแม่น้ำที่ขัดขวางแล้ว ฮาเดสก็ทรงรถม้าสีดำดิ่งสู่ยมโลก
“ไม่”เพอร์เซโฟนีหลับตาด้วยความกลัว เมื่อข้างหน้ามีเพียงความมืดมิด และเสียงลมที่พัดแรง
ฮาเดสรั้งนางเข้ามากอด ราวกับจะบอกให้รู้ว่า ไม่มีสิ่งใดน่ากลัว หากอยู่ในการดูแลของเขา
เพอร์เซโฟนีจำต้องซุกหน้าไว้กับอกของฮาเดส เพราะสายลมที่พัดแรง ทำให้กลัวว่าจะมีสิ่งใดปลิวมากระทบหน้า จึงหาที่กำบังเพื่อความปลอดภัย
ฮาเดสยิ้มน้อยๆ ด้วยความพึงพอใจ รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ใช้เส้นทางนี้ แทนที่จะใช้เส้นทางลัดที่เร็ว สะดวก และไม่น่ากลัว
เมื่อผ่านความมืดและที่ลมพัดแรงมาแล้ว เพอร์เซโฟนีก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เพื่อมองสรรพสิ่งรอบข้าง
“นั่นมัน ..”นางมองไปยังทะเลเพลิงที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา
“นั่นคือสายธารแห่งลาวา ซึ่งจะไหลไปรวมกันยังใจกลางโลก”เขาบอก ขณะที่รถม้ายังคงขับเคลื่อนด้วยความเร็ว
เพอร์เซโฟนีรู้สึกกลัว เมื่อรถม้าควบไปบนสะพานข้ามทะเลเพลิง ซึ่งเมื่อมองลงไป ทำให้ใจหวิว
*___________________________________________*
ฮาเดส ..พิศวาสรักจากเทพ เสพซึ้งตรึงใจ
Chapter 1
นี่คือเรื่องราวปรัมปราเกี่ยวกับทวยเทพ เรื่องเล่าและตำนานเทพปกรณัม ที่เล่าขานสืบต่อกันมา
เมื่อพูดถึงทวยเทพในยุคแรกเริ่ม ย่อมมีชื่อของซีอุส โพไซดอน และฮาเดส ติดอยู่ในนั้น ..นั่นคือยุคแห่งการเริ่มต้นของตำนาน
หลังจากสงครามไททันสิ้นสุดลง เหล่าทวยเทพก็ได้แบ่งปันอาณาจักรในการปกครอง โดยซีอุสซึ่งเป็นเทพเจ้าแห่งสายฟ้า ปกครองโอลิมปัสและสวรรค์ ส่วนเทพโพไซดอน ได้ปกครองผืนน้ำและมหาสมุทรที่กว้างใหญ่ไพศาล ในขณะที่ฮาเดสได้ปกครองยมโลกและใต้พิภพ รวมถึงทรัพย์สมบัติภายใต้ผืนดิน
เรื่องราวของเหล่าท่วยเทพ มักจะมีเรื่องราวความรักของพวกเขารวมอยู่ด้วย
และดูเหมือนเรื่องราวความรักของเทพบางองค์น่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าวีรกรรมของพวกเขา
แม้แต่เทพที่มุ่งมั่น จริงจัง อย่างฮาเดส ซึ่งหน้าตาถทึงอยู่เป็นนิตย์ จนทำให้เป็นที่น่าเกรงขาม ก็ยังไม่วายมีเรื่องราว และตำนานความรักที่น่าประทับใจ
เรื่องราวความรักของฮาเดสเริ่มขึ้น เมื่อวันหนึ่ง อสูรเอนซาลาดัสซึ่งถูกซีอุสล่ามด้วยโซ่แล้วคุมขังไว้ใต้ภูเขาเอตนา ได้พยายามดิ้นรนให้หลุดจากพันธนาการ จนทำให้แผ่นดินสั่นไหวไปจนถึงยมโลก
ฮาเดสเกรงว่ายมโลกจะแตกร้าว จึงขับรถม้าสีดำขึ้นไปตรวจดู และขณะนั้นเอง กามเทพอีรอสได้โอกาส จึงแผลงศรไปปักอกฮาเดส ทำให้เขาเริ่มรู้สึกถวิลหาความรัก
ปกติฮาเดสจะเป็นเทพที่รักสงบ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร จึงไม่ค่อยได้ออกจากยมโลก กามเทพจึงไม่มีโอกาสได้ชักนำความรักให้เขา
ดินแดนของฮาเดสอยู่ลึกสุดกู่ อาณาเขตกว้างใหญ่ไพศาล ปกคลุมด้วยหมอกที่หนาวเย็น และมีลมพัดแรงตลอดเวลา
ด้วยการที่ดินแดนของฮาเดสคือยมโลก จึงทำให้แม้แต่กามเทพก็ไม่สามารถทำหน้าที่ของตัวเอง เพราะไม่สามารถลงไปใต้ยมโลกเพื่อแผลงศรใส่เขา
ครั้นเมื่อได้โอกาสที่ฮาเดสออกมาสำรวจเบื้องบนครั้งนี้ ทำให้เป็นโอกาสของกามเทพที่จะชักนำเขาให้ได้พบกับเพอร์เซโฟนี ..เทพธิดาแห่งฤดูใบไม้ผลิ
ขณะที่ฮาเดสขับรถม้าสำรวจไปเรื่อยๆ นั้น บังเอิญได้พบเห็นกลุ่มเทพธิดาเก็บดอกไม้อยู่
สายตาเขาสะดุด ไม่อาจละไปมองใคร เมื่อได้พบเห็นเทพีเพอร์เซโฟนี ..ผู้มีความงามที่เป็นเลิศ
ขณะนั้นเอง ซีอุสได้ลงมาสมทบกับฮาเดส เพื่อดูฤทธิ์ของอสูรกายซาลาดัส แต่ปรากฏว่า ทุกอย่างได้เงียบสงบลงแล้ว
ซีอุสมองไปยังกลุ่มเทพีที่ลงมาเก็บดอกไม้ยังโลก ก่อนจะส่ายหน้ากับความซุกซนของพวกนาง
“ลงมาเก็บดอกไม้ถึงที่นี่เลยหรือ”ซีอุสมองไปยังบุตรีของตน
“รู้จักนางหรือ”ฮาเดสถาม ขณะทีมองไปยังเพอร์เซโฟนี
“ลูกสาวข้าเอง จะไม่ให้รู้จักได้อย่างไร”ซีอุสกล่าว
“ข้าอยากแต่งงานกับนาง”ฮาเดสบอก
นั่นเองที่ทำให้ซีอุสหันมามองด้วยความแปลกใจ เพราะไม่อยากจะเชื่อว่าเทพอย่างฮาเดสจะรักชอบใคร
“พูดเล่นใช่ไหม”ซีอุสถาม
“ข้าพูดจริง”ฮาเดสตอบ
“ข้าเองก็อยากจะยกให้ แต่มันติดตรงที่ ..แม่นางหวงเสียยิ่งกว่าอะไร ไม่ว่าเทพองค์ใดไปสู่ขอ ก็โดนไล่กลับไปทุกราย”ซีอุสบอก
“ข้าอยากแต่งงานกับนางจริงๆ”ฮาเดสยืนกราน
“เอาอย่างนี้”ซีอุสนึกแผนการได้ “ข้าแนะนำให้ฉุด”
เมื่อได้ยินอย่างนั้น ฮาเดสก็หันมามองซีอุสเพื่อความแน่ใจว่า ที่พูดมาเป็นเรื่องล้อเล่นหรือไม่
“พูดจริงใช่ไหม”ฮาเดสถาม
“แน่นอน”ซีอุสยิ้มให้
*___________________________________________*
หลังจากที่ซีอุสกลับไปยังโอลิมปัสแล้ว ฮาเดสก็ขับรถม้าของเขากลับไปทางเดิม โดยฉุดเพอร์เซโฟนีให้กลับไปยังยมโลก เพื่อเป็นเจ้าสาวของเขา
“ช่วยด้วย”เพอร์เซโฟนีร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อโดนชายแปลกหน้าฉุดนางขึ้นรถม้า ทว่า ไม่มีใครสามารถช่วยได้
รถม้าสีดำของฮาเดสวิ่งไวยิ่งกว่าพายุที่พัดผ่าน จึงเคลื่อนไปอย่างรวดเร็วเกินกว่าจะมีใครฉุดรั้ง
“ท่านเป็นใคร” เฟอร์เซโฟนีหันมามองเขา “จะพาข้าไปไหน”
“จะให้ข้าตอบคำถามไหนก่อน”ฮาเดสถามกลับ
“ท่านเป็นใคร”นางสงสัย
“ฮาเดสคือนามของข้า”เขาตอบ
“ท่านจะพาข้าไปที่ใด”เพอร์เซโฟนีถามต่อ
“ยมโลก”ฮาเดสกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พอๆ กับใบหน้าที่ไม่รู้สึกร้อนหนาวใดๆ
“ข้ายังไม่อยากตาย”นางพยายามจะลงจากรถม้า แต่ถูกเขารวบตัวไว้ด้วยอ้อมแขนแข็งแกร่งแค่เพียงแขนเดียว
“ข้าไม่ได้พาเจ้าไปตาย”ฮาเดสบอก “ข้าจะพาเจ้าไปแต่งงานต่างหาก”
“อะไรนะ”เพอร์เซโฟนีตะลึง มองเขาตาค้าง
“เจ้าจะเป็นเจ้าสาวของข้า”ฮาเดสย้ำให้ฟังอย่างชัดเจน
“ไม่ ข้าไม่ไป”เพอร์เซโฟนีพยายามดิ้นรนขัดขืน ไม่ปรารถนาจะไปเยือนยมโลก
“นั่งนิ่งๆ ไม่เช่นนั้นข้าจะปล้ำเจ้าเสียตรงนี้ ไม่ต้องรอการแต่งงานอะไรทั้งนั้น”เขาขู่ แต่ก็พร้อมจะทำจริงๆ หากนางยังแผลงฤทธิ์ไม่เลิก
“ท่าน ..”เพอร์เซโฟนีต้องตะลึงกับเขาอีกครั้ง
*___________________________________________*
เมื่อรถม้าของฮาเดสวิ่งมาถึงแม่น้ำไซเอนี แม่น้ำได้เกิดความปั่นป่วน ราวกับจะพยายามคัดค้านไม่ให้เขานำตัวเพอร์เซโฟนีไปยังยมโลก
ฮาเดสมองแม่น้ำทีท่วมเอ่อ ขัดขวางการวิ่งของรถม้า จึงเกิดความไม่พอใจ เขาโกรธจนใช้คทากระแทกลงบนพื้น ทำให้ดินแยกออกจากกัน สายน้ำเลยแห้งเหือดไปในทันตา
เพอร์เซโฟนีดึงสายรัดเอวของตัวเองออกมา แล้วโยนลงสู่แม่น้ำ เพื่อฝากให้แม่น้ำช่วยบอกข่าวของนางแก่ผู้เป็นมารดา
หลังจากจัดการกับแม่น้ำที่ขัดขวางแล้ว ฮาเดสก็ทรงรถม้าสีดำดิ่งสู่ยมโลก
“ไม่”เพอร์เซโฟนีหลับตาด้วยความกลัว เมื่อข้างหน้ามีเพียงความมืดมิด และเสียงลมที่พัดแรง
ฮาเดสรั้งนางเข้ามากอด ราวกับจะบอกให้รู้ว่า ไม่มีสิ่งใดน่ากลัว หากอยู่ในการดูแลของเขา
เพอร์เซโฟนีจำต้องซุกหน้าไว้กับอกของฮาเดส เพราะสายลมที่พัดแรง ทำให้กลัวว่าจะมีสิ่งใดปลิวมากระทบหน้า จึงหาที่กำบังเพื่อความปลอดภัย
ฮาเดสยิ้มน้อยๆ ด้วยความพึงพอใจ รู้สึกว่าตัวเองคิดถูกที่ใช้เส้นทางนี้ แทนที่จะใช้เส้นทางลัดที่เร็ว สะดวก และไม่น่ากลัว
เมื่อผ่านความมืดและที่ลมพัดแรงมาแล้ว เพอร์เซโฟนีก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้น เพื่อมองสรรพสิ่งรอบข้าง
“นั่นมัน ..”นางมองไปยังทะเลเพลิงที่ลุกโชนอยู่ตลอดเวลา
“นั่นคือสายธารแห่งลาวา ซึ่งจะไหลไปรวมกันยังใจกลางโลก”เขาบอก ขณะที่รถม้ายังคงขับเคลื่อนด้วยความเร็ว
เพอร์เซโฟนีรู้สึกกลัว เมื่อรถม้าควบไปบนสะพานข้ามทะเลเพลิง ซึ่งเมื่อมองลงไป ทำให้ใจหวิว
*___________________________________________*