ต่อจากกระทู้เก่า พฤติกรรมบำบัดสำหรับโรคซึมเศร้า

ตามที่ผมได้โพสไว้ในกระทู้นี้  http://ppantip.com/topic/32510881    "ผมต้องหายจากโรคซึมเศร้า แบ่งปันประสบการณ์"
ผมจะโพสต่อเรื่องพฤติกรรมบำบัดนะครับ
ขออนุญาติไม่ใช้ศัพท์วิชาการ
ความรู้เหล่านี้ผมได้มาจากการคุยกับหมอ,อ่านหนังสือ,คุยกับผู้ป่วยโรคซึมเศร้าคนอื่นๆ,ทดลองด้วยตนเอง

ก่อนที่จะทำพฤติกรรมบำบัด
ผมแนะนำให้ไปพบหมอและขอยากิน  ก่อนเลยครับ
ต้องกินยาให้ครบตามหมอสั่งด้วย
ไปพบหมอตามกำหนดทุกครั้ง

การรักษาโรคซึมเศร้าโดยไม่พึ่งหมอ จะทำให้เสียเวลาไปเปล่าๆ  และอาการอาจหนักยิ่งขึ้น
เหมือนที่ผมเสียเวลาไปแล้ว 14 ปี

ถ้าตั้งใจจะไม่ไปพบหมอ  อย่าอ่านกระทู้นี้เลยครับเสียเวลาเปล่า


1.ออกกำลัง
ส่วนตัวผมใช้วิธีวิ่งในสวนสาธารณะที่มีต้นไม้เยอะๆครับ
เพราะมันมีงานวิจัยจากต่างประเทศว่า  ต้นไม้มีส่วนช่วยในการบำบัดโรคซึมเศร้า
มีหมอหลายท่านแนะนำให้ผู้ป่วยปลูกต้นไม้ด้วย
แต่ถ้าใครจะชอบปั่นจักรยาน  หรือว่ายน้ำ  ก็ว่ากันตามความชอบนะครับ

ผมแนะนำเลยว่าถ้าร่างกายแข็งแรงดี
ออกกำลังให้เกิน 1 ชั่วโมงไปเลยครับ  และให้ออกกำลังทุกวัน
ออกกำลังให้เยอะ  ออกกำลังให้หนัก  เอาให้เหนื่อยจนลิ้นห้อย   เหงี่อท่วมตัวยิ่งดี
สมองจะได้ผลิตสารเคมีดีๆออกมา
ผมมีสโลแกนประจำตัวว่า  "เหนื่อยจนหัวใจวาย  ดีกว่าต้องมาตายเพราะโรคซึมเศร้า"
การออกกำลังที่ดีต้องมีบัดดี้ด้วยครับ   จะได้คอยกระตุ้นกัน  คอยช่วยเหลือกัน

2.เขียนไดอารี่
หมอจะแนะนำให้คนไข้เขียนไดอารี่ทุกๆวันครับ
เพื่อเป็นการระบาย  และทบทวนตัวเองในหลายๆเรื่อง
ผมขอแนะนำเพิ่มเติมด้วยว่าให้เขียน "ไดอารี่แห่งการขอบคุณ"
ตัวอย่างเช่น  ขอบคุณที่วันนี้ได้เจอคุณหมอที่ดี, ขอบคุณที่พนักงานจ่ายยาหน้าตาน่ารักจัง(ฮา)
ทำไปเรื่อยๆจะมีเรื่องให้ขอบคุณมากยิ่งขึ้นครับ  ผมรับรอง


3.ปฏิบัติธรรม
ตามที่ผมแนะนำในกระทู้เก่า  ปฏิบัติธรรมเป็นเรื่องที่ดีครับ
แต่คุณต้องผ่านการพบหมอและกินยาจนดีขึ้นแล้วในระดับหนึ่ง   จึงค่อยเข้าวัดปฏิบัติธรรม
ถ้าทำได้อย่างนี้การปฏิบัติธรรมจะช่วยเสริมให้คุณหายเร็วขึ้นนะครับ

ถ้าใครเคยเข้าวัด หรือสถานปฏิบัติธรรมแล้วเจอคนเอ๋อๆ  คนแปลกๆ  คนเพี้ยนๆ
นั่นแหละครับ  คนป่วยจิตแทนที่จะไปหาหมอ  ดันไปหาพระ  คราวนี้เลยเพี้ยนยิ่งกว่าเก่าเลย
สงสารพระท่านเถอะครับ  ^^

ตามความเห็นส่วนตัวของผม พยายามหลีกเลี่ยงพวกสำนักคนทรงเจ้า เข้าผี  ผู้วิเศษ
ขืนเข้าไปได้เพี้ยนกว่าเก่าแน่ๆ
ผมขอแนะนำ  คอร์สคุณแม่สิริ กรินชัย,คอร์สวิปัสสนา ท่านโกเอ็นก้า, วัดป่าสุคะโต,สวนโมกข์
เลือกเอาตามสะดวกนะครับ


4.พยายามออกจากสภาพแวดล้อมเก่าๆที่ทำให้เราทุกข์ใจ   (ถ้าทำได้)
จากที่ผมโพสไว้ในกระทู้เก่า  ผมเลือกกรวดน้ำ คว่ำขัน ให้คนพวกนั้นครับ
ไม่ขอยุ่งเกี่ยวกันอีกตลอดไป
เราไม่ได้เกิดมาเพื่อจะเป็นทุกข์
ของบางอย่างกำเอาไว้ก็บาดมือ บาดใจเสียเปล่าๆ  เขวี้ยงมันทิ้งไปเถอะครับ

ช่วงที่ผมซึมเศร้าหนักๆก็เสียแฟนไปด้วย
เชื่อไหมวันที่ผมไปขอยากินจากหมอ
พอออกจากโรงพยาบาลปุ๊บ  ผมเจอแม่ค้าขายมะม่วงปั่นหน้าตาน่ารัก
ผมอุดหนุนเธอและชวนเธอคุยเลยนะ
ผมไม่ได้บอกว่าให้จีบดะ  หรือให้เฟิร์สไปทั่ว
แต่ให้พยายามคุยกับเพื่อนต่างเพศให้เยอะเข้าไว้
บอกกับตัวเองว่า  ยังมีคนดีๆ  สังคมดีๆ รอเราอยู่อีกเยอะ


5.อาหารลดซึมเศร้า
นี่เลยครับ  กล้วยน้ำว้า
หาง่าย  กินง่าย  ราคาถูก   กินแล้วถ่ายคล่อง  หลับสบายยยยยยยยยย
กินตามสูตรนี้  3ลูกก่อนอาหารเช้า และ 3ลูกก่อนอาหารเย็น

ใบบัวบกก็ช่วยครับ  (แต่ทานเยอะไปไม่ดี  สมดุลธาตุในตัวจะเสีย)
ผมแนะนำให้ทาน 2 ใบต่อวันก็พอครับ
ใบบัวบกมีสรรพคุณบำรุงสมอง  ช่วยเรื่องความจำด้วยนะครับ


6.ภาพยนตร์บำบัด
ในต่างประเทศภาพยนตร์บำบัดสำหรับผู้ป่วยจิตเวช จะเป็นที่นิยมกันมาก
It's A Wonderful Life
Life Is Beautiful
Shawshank Redemption
Seabiscuit
Rocky1
Ground Hog Day
Dead Poets Society
Patch Adams
Peaceful  Warrior
etc.
รายชื่อหนังข้างบน เป็นหนังให้กำลังใจ
ถ้ามันหาดูยากมาก  ผมขอแนะนำ "ชินจัง"ครับ
ดูกี่รอบก็ตลก
หลีกเลี่ยงพวกเพลงโง่ๆ  ทำไมเธอไม่รักช้าน   ช้านมันไร้ค่า  แทงข้างหลังทะลุถึงต่อมหมวกไต



7.เลี้ยงน้องหมา  น้องแมว  ปลูกต้นไม้
อันนี้หมอหลายท่านแนะนำมา
ถ้าไม่สะดวกจริงๆใช้วิธีแบบผมก็ได้  เอาเศษอาหารไปเลี้ยงหมา แมว จรจัด
อันนี้ก็ช่วยได้นะครับ


8.หาคนระบาย (ที่เชื่อใจได้)
ระบายให้เพื่อนสนิทฟัง  
ผมเชื่อว่ามันจะปลดปล่อยหลายๆอย่างที่หมักหมมอยุ่ในตัวได้
จากที่ผมได้โพสไว้ในกระทู้ที่แล้ว  เรื่องการโดนหักหลัง  มันเลยทำให้ผมไว้ใจคนลำบากครับ  เจ็บแล้วรู้จักจำ
ผมเลยตัดปัญหา  ระบายให้พระท่านฟังซะเลย  (ฮา)
ได้คำสอน  ได้ปัญญามาเป็นของแถมด้วยครับ


9.หางานอดิเรกทำ  จะได้พบกับสังคมใหม่ๆ
ยุคนี้ social network ช่วยได้เยอะครับ
ใครชอบวิ่ง ก็หาเพื่อนในนั้นได้  จะได้รวมกลุ่มกันวิ่ง
ใครชอบเชียร์บอล ก็รวมตัวกันดูบอลก็ได้  (แต่อย่าตีกันครับ)
หรือจะไปเป็นจิตอาสา ช่วยเด็กกำพร้า  ช่วยเก็บศพ  ช่วยผู้ป่วยอนาถา   ช่วยอ่านหนังสือให้คนตาบอด
จะได้เห็นโลกกว้างขึ้น  จะได้รู้ว่าคนที่ทุกข์กว่าเราก็มีตั้งเยอะ


10.และข้อสุดท้าย สำคัญที่สุดคือ "ทัศนคติในเชิงบวก"
ผมชอบดูบอลมาก  ขอเปรียบเทียบให้ฟังนะ
ฟุตบอลมี 90 นาที   เล่นครึ่งละ 45 นาที
อายุถัวเฉลี่ยของคนในยุคนี้คือ 70 ปี    ตอนนี้ผมอายุย่าง 33 ปี
นี่มันยังไม่จบครึ่งแรกเลย
ผมยังมีครึ่งหลังให้แก้ตัว
ตอนนี้ผมแค่เจ็บ  ต้องออกมาปฐมพยาบาลข้างสนาม
ยังมีครึ่งหลังให้กลับไปลุยอีก
วางแผนให้ดีๆ  และอย่าเพิ่งถอดใจ
รีบตีเสมอให้เร็วที่สุด  และจบ 90 นาที  ผมต้องเป็นผู้ชนะ

คนที่เคยหักหลังผมไว้   คนที่เคยทำร้ายคุณผู้อ่าน
ตามไปแก้แค้นก็เท่านั้นล่ะครับ  ไม่มีอะไรดีขึ้น
สู้เอาเวลามาทำชีวิตให้ดีขึ้นดีกว่า
อย่างที่สุภาษิตฝรั่งสอนไว้
"Live  well.  It's the greatest revenge."
ทำชีวิตให้ดียอดเยี่ยม  เพราะนี่คือการล้างแค้นที่ดีที่สุดแล้ว


บทความนี้จบแล้วครับ
อยากให้ผู้ป่วยซึมเศร้าทุกๆคนได้อ่าน
พวกเราจะหายจากโรคนี้  ไปด้วยกันนะครับ
ถ้าขาดตกบกพร่องไปตรงไหน  ผมก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่