ผมขอตั้งข้อสังเกตุดังนี้
เป็นไปได้เหรอครับ   คนมีสติปัญญาปกติ    จะกล้าเอาเงินสองล้านใส่ถุงขนมหิ้วขึ้นไปบนศาล
แล้วเรียกคนนั้นคนนี้มารับ
โดยที่ไม่ได้มีการนัดแนะกันมาก่อน   
กรณีนี้  จึงมีการนัดแนะกันมาก่อนอย่างแน่นอน ( ข้อสังเกตุที่ 1)

เมื่อมีการนัดแนะกัน  ไม่ว่าจะเกิดจาก   ฝ่ายทนายทักษิณ
หรือ  พนักงานศาล  เป็นผู้เริ่มยื่นข้อเสนอก่อน
ทําไมถึงต้องไม่รับมอบกันบนศาล   ทั้งๆที่มีสถานที่ข้างนอกที่ปลอดภัยกว่าเยอะแยะ (ข้อสังเกตุที่2)

คราวนี้มาไขบริศนากัน  จากข้อสังเกตุที่ 1 เมื่อมีการนัดแนะมาก่อน
เรื่องก็ไม่น่าจะแดงขึ้น
แต่ทําไมเรื่องจึงแดงขึ้น
เพราะผู้นัดแนะ  ไม่ใช่ตัวจริงไงครับ  แต่มีการสวมรอยแอบอ้าง (  เหมือนการล่อซื้อยาเสพติด )
ติดต่อนัดแน่ะ   เพื่อเรียกรับเงิน  
เมื่อผู้ให้หลงกล  จึงมีการสะกิดให้พนังงานเข้าจับกุมดําเนินคดี

ไขบริศนา จากข้อสังเกตุที่2   ทําไมถึงต้องไม่รับมอบกันบนศาล
ทั้งที่มีสถานที่อื่นข้างนอกที่ปลอดภัยกว่า
เพราะจะได้ตั้งข้อหาละเมิดอํานาจศาลได้ ไงครับ (  คือไม่ต้องมีผู้รับ  ก็สามารถเอาผิดได้ )

หากไปนัดแนะรับมอบกันข้างนอก  ความผิดจะสําเร็จได้    ก็จะต้องมีทั้งผู้ให้ และ ผู้รับ
( แน่นอนว่า  คงไม่มีนกต่อ  หรือ ผู้แอบอ้างคนไหน    กล้าเอาตัวไปเสี่ยงกับคุกตาราง  )

จะเห็นว่าทั้งหมดที่ผมตั้งข้อสังเกตุมานี้    เมื่อนํามาต่อเป็นจิ๊กซอว์  มันลงตัวพดี

ส่วนใครเป็นผู้วางแผนการเรื่องนี้   คงไม่ต้องเฉลยน่ะครับ
ก็เวลานั้นเห็นขึ้นไปแย้วๆกันอยู่บนเวที   ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

***เรื่องอย่างนี้ ทักษิณ  คงไม่ไปเกี่ยวข้อง   เป็นเรื่องการทํางาน  การตัดสินใจ  ของทีมทนายเอง
     แม้จะไม่ถูกต้อง   แต่หากยอมรับความจริง  ในวงการทนาย  ค่านําร้อนนํ้าชา  ค่าอํานวยความสะดวก
     ในการทําคดีแบบนี้    คงไม่ใช่เรื่องผิดปกติมากมายน่ะครับ