วันสืบ นาคะเสถียร 1 กันยายน



“ใบแรกร่วงหล่นลงพื้น ใบอื่นร่วงตามทับถม กลบมิดใบเก่าเจ้าจม ทับถมเป็นทางให้เดิน”

       การทำงานใหญ่ จะทำคนเดียวไม่ได้ ต้องอาศัยความร่วมแรงรวมใจกัน

ในวันนั้น สืบ นาคะเสถียร ชายคนหนึ่งที่พยายามจะบอกให้สังคมรู้ว่า ป่าเหลือน้อย สืบพูดเอาไว้ว่า...
       “ในความรู้สึกของผม เราไม่ต้องมาเถียงกันหรอกว่า เราจะใช้ป่าไม้อย่างไร เพราะมันเหลือน้อยมากจนไม่ควรใช้ จึงควรจะรักษาส่วนนี้เอาไว้ เพื่อให้เราได้ประโยชน์ที่เป็นประโยชน์ทางอ้อม...
มันจะต้องทำความเข้าใจให้ถูกต้องว่า การอนุรักษ์ การใช้ประโยชน์ จะต้องมองว่ามีการใช้ทั้งทางตรง ทางอ้อม ป่าที่เก็บไว้ในรูปเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและอุทยานแห่งชาติ ควรจะใช้ประโยชน์ในทางอ้อม”

(ประโยชน์ทางตรง หมายถึง การใช้ประโยชน์จากเนื้อไม้ เนื้อสัตว์ ประโยชน์ทางอ้อม หมายถึง เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร แหล่งฟอกอากาศ ทำให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล)

       สมัยที่สืบเป็นหัวหน้าโครงการอพยพสัตว์ป่าที่เขื่อนเชี่ยวหลาน จ.สุราษฎร์ธานี สืบต้องทำงานแข่งกับระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จากการสร้างเขื่อน จนสามารถช่วยชีวิตสัตว์เอาไว้ได้ 1,364 ตัว แต่สืบรู้ดีว่ามีสัตว์อีกนับจำนวนมหาศาลที่ตายจากการสร้างเขื่อนในครั้งนั้น
สืบไม่เห็นด้วยกับการสร้างเขื่อนใหญ่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ จึงได้ต่อสู้คัดค้านการสร้างเขื่อนน้ำโจน จ.กาญจนบุรี สืบชี้ให้เห็นถึงบทเรียนจากการสร้างเขื่อนเชี่ยวหลาน เขาจะเริ่มต้นการอภิปรายทุกครั้งว่า “ผมขอพูดในนามของสัตว์ป่า”

       สืบ พยายามคัดค้านการให้สัมปทานป่าไม้ ในยุคก่อนที่จะมี พรบ. ปิดป่าเกิดขึ้น โดยแสดงความคิดเห็นตรงไปตรงมา อย่างไม่เกรงกลัวว่า... “คนที่อยากอนุญาตให้ทำไม้ก็คนกรมป่าไม้ คนที่จะรักษาก็เป็นกรมป่าไม้เหมือนกัน”

       สืบ ได้พยายามผลักดันให้มีการจัดการพื้นที่ป่ากันชน ซึ่งเป็นป่าสงวนแห่งชาติ ตามแนวป่ากันชนด้านตะวันออกของห้วยขาแข้ง แต่ก็ไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เพราะไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใหญ่และคนในพื้นที่

       สืบ ให้ความสำคัญกับงานเผยแพร่มาก เขาลงมือทำด้วยตนเอง ทั้งออกแบบนิทรรศการ เขียนโปสเตอร์ เขียนบอร์ด ตัดภาพ เขาควักกระเป๋าออกเงินเป็นค่าอัดขยายภาพเอง ออกไปขอเวลาบรรยายตามโรงเรียน ตามที่ชุมชนต่างๆ เก็บข้าวของเครื่องมือ ฉายสไลด์เอง ทำเองทุกอย่าง ตั้งแต่เช้าจนค่ำ อย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

       สืบ พยายามจะบอกให้สังคมทราบถึงความสำคัญของผืนป่าตะวันตก สืบเคยกล่าวเอาไว้ว่า...
“ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและห้วยขาแข้ง เปรียบเสมือนเป็นหัวใจของผืนป่าตะวันตก ถ้าจะรักษาป่าทุ่งใหญ่นเรศวรและห้วยขาแข้งไว้ให้ได้ ก็จะต้องรักษาป่าอนุรักษ์ที่อยู่รายล้อมไว้ให้ได้ด้วย”

       ครั้นเมื่อสืบ นาคะเสถียรเข้ารับตำแหน่งหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง ได้พบปัญหามากมาย อาทิเช่น การตัดไม้ทำลายป่า การล่าสัตว์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าถูกยิงเสียชีวิต สืบรู้ดีว่าปัญหาเหล่านี้ไม่สามารถแก้ไขได้โดยคนเพียงไม่กี่คน แต่ต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ในการกำหนดมาตรการและนโยบาย สืบพยายามที่จะบอกให้สังคมรับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับป่า และเรื่องนี้สำคัญมากแค่ไหนที่เราต้องรีบแก้ไข

       สืบ จึงพยายามจัดประชุมให้เกิดความร่วมมือระหว่างข้าราชการฝ่ายปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ ทหาร ตำรวจ ผู้นำชุมชน ฯลฯ เพื่อขอความร่วมมือในการกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการบุกรุกทำลายป่า สืบส่งหนังสือเรียนเชิญทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้มาเข้าร่วมประชุม แต่ก็ไม่ค่อยได้รับความร่วมมือ สืบก็ยังพยายามจัดประชุมอยู่อย่างนี้เป็นสิบครั้ง

       แต่แล้ว เสียงที่เขาพยายามตะโกนออกไป ไม่มีใครได้ยิน ไม่มีใครตอบกลับ ทุกคนเมินเฉย ไม่มีใครอยากที่จะมารับรู้และให้ความสนใจ จึงเป็นที่มาของเสียงปืนพร้อมจดหมายลาตายในวันที่ 1 กันยายน 2533

       ชีวิตก่อนความตาย สืบเคยรวบรวมข้อมูลของผืนป่าห้วยขาแข้งและทุ่งใหญ่นเรศวร ส่งให้ยูเนสโก้พิจารณาให้เป็นมรดกโลก เพื่อเป็นการันตีให้ผืนป่าตะวันตกได้รับความคุ้มครองจากองค์กรสากลโลก

       การตายของสืบ ทำให้เกิดกระแสสังคม สื่อมวลชนประโคมข่าว ข้าราชการจัดประชุมเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหา ห้วยขาแข้งได้รับการประกาศเป็นมรดกโลก นักการเมืองออกมาให้สัมภาษณ์ ศิลปินแต่งเพลง นักเรียน นิสิตนักศึกษา และประชาชนเดินขบวน นับเป็นการจุดประกายการอนุรักษ์ขึ้นในเมืองไทย

       สืบ นาคะเสถียร จึงกลายเป็นไอดอลของใครหลายๆ คน เป็นต้นแบบของนักอนุรักษ์ชาวไทย
ความรักและความจริงใจที่สืบมีให้กับป่า กลายเป็นความศรัทธาที่ถูกส่งต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น เป็นที่มาของคำว่า “หนึ่งคนตาย ล้านคนตื่น”

ขอคาราวะดวงวิญญาณของนักอนุรักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้จุดประกายให้เกิดวงการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

.................................................................................

อย่าปล่อยให้ความดีสูญเปล่า อย่าปล่อยให้เรื่องราวเหล่านี้เลือนหายตามกาลเวลา
       ในยุคเครือข่ายสังคมออนไลน์ ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมกันแชร์ MV เพลงสืบทอดเจตนา (สืบ นาคะเสถียร) เพื่อบอกเล่าเรื่องราวให้คนรุ่นใหม่ ได้รู้จักสืบมากยิ่งขึ้น

MV เพลง สืบทอดเจตนา (สืบ นาคะเสถียร) By คาราบาว : http://youtu.be/j9j_3vrTyyQ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



.................................................................................

สำหรับท่านที่สะดวก หรือมีเวลาว่าง สามารถร่วมงานวันสืบ นาคะเสถียร ได้ดังนี้
- งานรำลึก 24 ปี สืบ นาคะเสถียร วันที่ 30 ส.ค. – 1 ก.ย. 2557 ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จ.อุทัยธานี
- งานนิทรรศการเส้นทางอนุรักษ์บนร่างสืบ (ครั้งที่ 21) วันที่ 1-2 ก.ย. 2557 ณ อาคารจักรพันธ์เพ็ญศิริ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (บางเขน)

.................................................................................

แหล่งข้อมูลอ้างอิง
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี th.wikipedia.org
มูลนิธิสืบนาคะเสถียร www.seub.or.th
เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง www.huaikhakhaeng.net

.................................................................................

เรียบเรียงเนื้อหาโดย
อาสาสมัครพิทักษ์สิ่งแวดล้อม (EPV) http://www.facebook.com/EPV.or.th
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่