อ่านข่าวนี้แล้ว...สะอึกกับความคิดของคนเป็นพ่อของนักแสดงคนนี้



ทำเอาใครต่อใครหลายคนตราหน้าว่าไม่แมน ไม่รับผิดชอบ ให้อดีตภรรยา "ตุ๊ก ชนกวนันท์" ผ่อนบ้านที่เป็นเรือนหอราคาเหยียบ 29 ล้าน ต่อเพียงลำพัง นอกจากนี้ยังมีกระแสข่าวที่เจ้าตัวไม่ได้ส่งค่าเลี้ยงดูให้ลูกทั้งสองคนอีก ซึ่งที่ผ่านมาหนุ่ม "บ๊วย เชษฐวุฒิ" ก็ไม่เคยออกมาพูดหรืออธิบายให้กับใครฟังเลย

จนล่าสุดมีโอกาสได้เจอหนุ่มบ๊วยจึงได้สอบถามถึงข้อเท็จจริงกับประเด็นกระแสข่าวที่เกิดขึ้น งานนี้เจ้าตัวก็ได้เผยให้ฟังแบบหมดเปลือกทันทีว่า....

ถามเรื่องบ้านที่ให้พี่ตุ๊กผ่อนต่อ ?
"โอ๊ย อย่าใช้คำว่าพี่ตุ๊กผ่อนต่อสิครับ แต่ก็โอเคจะเรียกว่าตุ๊กผ่อนต่อก็ได้ครับ คือตุ๊กตัดสินใจที่จะเอาบ้านไว้ เพราะตามที่เราตกลงคุยกันตั้งแต่แรกคือขาย ถ้าไม่เอาชื่อตุ๊กกับบ๊วยออกนะ ก็เอาชื่อบ๊วยออกไป เหมือนบริษัทที่ทำธุรกิจด้วยกันแล้วตกลงไม่ทำธุรกิจด้วยกันแล้วแยกออกไป ฉะนั้นบริษัทก็ต้องขาย พอขายเสร็จแล้วมีหุ้นส่วนนึงตัดสินใจเอาบริษัทเข้ามา ขอซื้อบริษัทเอง ก็ต้องรับผิดชอบไป ก็ตามนั้นครับปกติไง"

พอเราไม่ออกมาพูดคนก็มองว่าเราโยนภาระให้ตุ๊ก ?
"ก็เค้าตัดสินใจแบบนั้น เราก็เตือนเค้ามานานแล้วนะ ไม่ใช่ไม่บอก แต่ถ้าพูดถึงในแง่บริษัท ในเมื่อเค้าต้องการซื้อเอง เราก็บอกว่ามันหนัก แต่เค้าก็จะบอกว่าเพื่อลูกก็ยินดี ลองมอง 2 มุมมองสิครับ หุ้นส่วนที่แยกออกมาที่ไม่เอาบ้านไว้ เค้ารู้ว่าทุ่มแล้วเป็นยังไง ช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเป็นยังไง ชีวิตโดนโทรทวงหนี้ต้องจ่ายดอกเบี้ยไม่ได้จ่ายต้นเป็นยังไง คนเรามันเริ่มต้นใหม่ได้สบายมากเลย แต่ต้องรอเราเบา ๆ ก่อน ก็บอกแบบนั้น"

มีคนเม้าท์มาว่าเรื่องค่าเลี้ยงดูไม่ได้ให้แล้ว ?
"คือตุ๊กเค้าเอาบ้านไว้เองใช่ไหมครับ บ้านเป็นของผมครึ่งนึงเพราะมีส่วนของผมครึ่งนึงเป็นก้อนใหญ่พอสมควรเลย มันอยู่ในหลังนั้นไปแล้ว ทีนี้ทำไงล่ะในเมื่อแยกกันแล้ว มันก็เหมือนเราให้เงินตรงนั้นล่วงหน้าไปไง ก็เป็นเงินก้อนใหญ่พอสมควร คือตอนนี้การดูแลไม่ใช่ตัดขาดกันในรูปแบบที่ชัดเจน ในสัญญาเราทำแบบนั้น แต่ถามว่าในเรื่องการดูแลจริง ๆ มันไม่ได้ว่าทิ้งกัน ตัดขาดแบบนั้น ความสัมพันธ์ยังมีอยู่แหละครับ แต่เน้นในความชัดเจน คือไม่ว่าใครจะเป็นยังไง แต่ความชัดเจนคือเป็นแบบนี้ ผมมีเงินก้อนในนั้น 11 ล้าน ยกตัวอย่างสมมติเรามีบ้านแต่ไม่เอาบ้าน เราจะเอาครึ่งนึงของเรา 11 ล้าน แต่เราไม่ได้เอาเงินคืนไง เราก็ต้องจัดการหนี้ของเรา หนี้เราก็มีนะ หนี้ที่ต้องดูแลในครอบครัวก็มีเหมือนกัน มีความรับผิดชอบเหมือนกัน"

ตอนแรกที่มีข่าวออกไปคนก็มองว่าเราไม่แมน ?
"ผมว่ามันมี 2 อย่างครับ อากาศกับข้อคิดเห็นเป็นของฟรี ฉะนั้นเราแก้ทุกอย่างไม่ได้ เรารู้ว่าเราชัดเจนยังไง ผมมั่นใจว่าผมรักลูก เวลาผมว่างก็ไปหาลูก สิ่งที่ผมยังต้องจ่ายอยู่คือค่าเทอมลูก ค่าประกันลูกเวลาเจ็บป่วยผมก็จ่ายครับ จะให้ผมมานั่งแจกแจงว่าจ่ายอะไรบ้าง มันมีมากกว่านี้อีกแต่ผมไม่พูดดีกว่า ผมก็เคลียร์ข้อสงสัยดีกว่าเนอะ รู้สึกแย่มั้ย ก็ไม่ครับ ผมเปลี่ยนไปแล้วครับ จริงๆ ผมเก็ทว่าผมเป็นคนยังไง อนาคตมีให้ผมพุ่งไปอีกเยอะครับ ผมไม่มานั่งแก้ปัญหาอดีตที่ผ่านมา มันจบไปแล้ว เราเริ่มต้นยังไงดี เป็นเพื่อนยังไงให้ลูกมีความสุข ใครจะมองยังไงก็ได้ เราเคยมองว่าจะซ่อมแซมลูกยังไง คิดว่าลูกมีปัญหาแน่เลยเพราะหย่าร้าง แต่เราก็คิดว่าจริงๆ แล้วคนที่มีปัญหาไม่ใช่ลูก 2 คน แต่ตัวพ่อนี่แหละที่คิดว่าลูกมีปัญหาไง ฉะนั้นผมมองว่าลูกยอดเยี่ยมอยู่แล้ว ผมก็ปฏิบัติกับเค้าเป็นเด็กธรรมดา แค่พ่อแม่แยกกันอยู่เท่านั้นเอง ก็ยังได้เจอกับลูกครับ"

ตอนนี้ยังมีหนี้อะไรในส่วนตัวเราที่ต้องจัดการบ้างไหม ?
"ก็มีหนี้โอดี ก็ต้องจัดการ เร็ว ๆ นี้น่าจะเคลียร์หมด แต่ก็เป็นหลักหลายล้านเหมือนกัน ผมมีหนี้ที่ต้องจัดการ และหนี้จะหายไปเร็ววันนี้เพราะผมมีศักยภาพเพียงพอ ผมรู้ว่าจะต้องทำอะไรในอนาคตครับ ถ้าปลดหนี้หมดแล้วจะช่วยตุ๊กจ่ายค่าบ้านมั้ย อันนี้เป็นเรื่องของอนาคตครับ ลูกคือลูก ตุ๊กคือตุ๊กครับ ความสัมพันธ์เรามีตรงนั้นอยู่ ถ้าถามเรื่องอนาคตผมตอบไม่ได้หรอก เป็นเคสบายเคสดีกว่า ส่วนค่าเรียนจะส่งจนลูกเรียนจบมั้ย ก็แล้วแต่ความสามารถของลูกครับ ลูกอยากเรียนอะไรผมก็ส่งแบบนั้นครับ"

เครดิต: http://news.sanook.com/1656943/%E0%B8%9A%E0%B9%8A%E0%B8%A7%E0%B8%A2-%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%A5%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B9%89%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%94-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%95%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%9C%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%9A%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99-29%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%84%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A7/

คหสต... ความรับผิดชอบต่อลูกเปรียบเทียบได้กับการเปิดบริษัท การทำธุรกิจ ตัวเลขเพ๊ะๆ นี่หรือคือความคิดของคนเป็นพ่อ
คราวก่อนก็เรื่องพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันอยู่แล้ว พูดออกมาได้ไงวะ หรือเค้าคิดดีแต่พูดไม่เป็น (พยายามโลกสวยแต่มันทำใจให้สวยไม่ได้จริงๆ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่