เปิดผลศึกษาทีดีอาร์ไอ ระบุจำนำข้าว 5 รอบการผลิตรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขาดทุนทางบัญชีพุ่ง 5.19 แสนล้าน
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และคณะได้ทำการศึกษาวิจัย
เรื่อง
"การคอร์รัปชันกรณีการศึกษา : โครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด"
นำเสนอสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
โดยรายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาพฤติกรรมการทุจริต
ในโครงการรับจำนำข้าว 5 รอบการผลิตตั้งแต่ ปี 2554/55 ถึงปี 2556/57
และประมาณการมูลค่าการทุจริตในการระบายข้าว
รายงานศึกษาพฤติกรรมการทุจริตและประมาณการมูลค่าการทุจริต
ในการระบายข้าว 4 ประเภท คือ
> ปัญหาข้าวหายจากโกดังกลาง
> การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ
> การขายข้าวให้ผู้เสนอราคาซื้อแบบลับๆ
>และโครงการข้าวถุงราคาถูกของกระทรวงพาณิชย์
โดยวิเคราะห์หลักฐานที่บ่งชี้ว่าการทุจริตในการระบายข้าว
อาจมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง
ผู้มีอำนาจตัดสินใจระบายข้าว จากหลักฐานทางราชการ
ชี้ขาดทุนทางบัญชี 5.19 แสนล้าน
> โครงการรับจำนำข้าว 5 ฤดูมีการรับจำนำข้าวเปลือก 54.35 ล้านตัน
> มีค่าใช้จ่ายรวม 9.85 แสนล้าน เป็นเงินซื้อข้าว 8.57 แสนล้านบาท
> เงินที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเงินนอกงบประมาณที่กู้จากสถาบันการเงินของรัฐ
โดยรัฐบาลไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา
โครงการมีการขาดทุนทางบัญชีสูงถึง 5.19 แสนล้านบาท
(หรือเกือบ 53% ของค่าใช้จ่าย)
ต้นตอของการขาดทุนจำนวนมหาศาล เกิดจากการรับจำนำในราคาสูง
แต่ขายข้าวในราคาต่ำ เพื่อมิให้ผู้บริโภคซื้อข้าวราคาแพง
และการทุจริตโดยขายข้าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก
ผลศึกษาระบุว่า
ชาวนาทั่วประเทศได้รับผลประโยชน์ส่วนเกินสุทธิสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท
จากโครงการรับจำนำข้าว
แต่ประโยชน์ส่วนใหญ่ตกเป็นของชาวนารายกลางและรายใหญ่
ซึ่งอาศัยในเขตชลประทานของภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง
แต่มีข้อค้นพบสำคัญ คือ
หากเรานับรวมผลประโยชน์และต้นทุนที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ในโครงการรับจำนำ ปรากฏว่า
ต้นทุนสวัสดิการ (welfare cost หรือความเสียหายสุทธิต่อสังคม)
สูงถึง 1.23 แสนล้านบาท
ซึ่งเป็นความสูญเสียต่อสังคมสูงกว่าประโยชน์ที่ตกแก่ชาวนาและผู้บริโภค
"ความสูญเสียไม่นับรวมความเสียหายที่วัดไม่ได้ เช่น
... ชื่อเสียงและคุณภาพข้าวไทย
... การถลุงทรัพยากรจากพฤติกรรมแสวงหาค่าเช่า
... และการค้าข้าวแบบพรรคพวกที่ทำลายระบบการค้าแบบแข่งขัน
ดังนั้นวาทะกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่อ้างว่าโครงการเป็นประโยชน์ต่อชาวนา
จึงเป็นเพียงความพยายามกลบเกลื่อนความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสังคม
แบบขาดความรับผิดชอบ"
............................................................................................
เครดิต : bangkokbiznews 23/08/2557
............................................................................................
TDRI โดย ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ได้ทำการวิจัยและศึกษา “โครงการจำนำข้าว”
โดยละเอียด ได้เปิดเผยผลศึกษาให้สาธารณชนได้รับรู้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้ตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการนี้
โดยได้เชิญสภาวิชาชีพบัญชีร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปิดบัญชีด้วย
การปิดบัญชีเมื่อเสร็จสิ้น จะทำให้ประชาชนทราบตัวเลขความเสียหาย
ทั้งหมดของโครงการ “จำนำข้าวทุกเมล็ด” ได้จริงจังซะที
รอดูผลอยู่ค่ะ
<><> เปิดผลศึกษาจำนำข้าวขาดทุนพุ่ง5.1แสนล้าน <><>
เปิดผลศึกษาทีดีอาร์ไอ ระบุจำนำข้าว 5 รอบการผลิตรัฐบาลยิ่งลักษณ์
ขาดทุนทางบัญชีพุ่ง 5.19 แสนล้าน
นายนิพนธ์ พัวพงศกร นักวิชาการเกียรติคุณ
สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) และคณะได้ทำการศึกษาวิจัย
เรื่อง "การคอร์รัปชันกรณีการศึกษา : โครงการรับจำนำข้าวทุกเม็ด"
นำเสนอสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.)
โดยรายงานฉบับนี้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาพฤติกรรมการทุจริต
ในโครงการรับจำนำข้าว 5 รอบการผลิตตั้งแต่ ปี 2554/55 ถึงปี 2556/57
และประมาณการมูลค่าการทุจริตในการระบายข้าว
รายงานศึกษาพฤติกรรมการทุจริตและประมาณการมูลค่าการทุจริต
ในการระบายข้าว 4 ประเภท คือ
> ปัญหาข้าวหายจากโกดังกลาง
> การขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ
> การขายข้าวให้ผู้เสนอราคาซื้อแบบลับๆ
>และโครงการข้าวถุงราคาถูกของกระทรวงพาณิชย์
โดยวิเคราะห์หลักฐานที่บ่งชี้ว่าการทุจริตในการระบายข้าว
อาจมีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับนักการเมืองและข้าราชการระดับสูง
ผู้มีอำนาจตัดสินใจระบายข้าว จากหลักฐานทางราชการ
ชี้ขาดทุนทางบัญชี 5.19 แสนล้าน
> โครงการรับจำนำข้าว 5 ฤดูมีการรับจำนำข้าวเปลือก 54.35 ล้านตัน
> มีค่าใช้จ่ายรวม 9.85 แสนล้าน เป็นเงินซื้อข้าว 8.57 แสนล้านบาท
> เงินที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นเงินนอกงบประมาณที่กู้จากสถาบันการเงินของรัฐ
โดยรัฐบาลไม่ต้องขออนุมัติจากรัฐสภา
โครงการมีการขาดทุนทางบัญชีสูงถึง 5.19 แสนล้านบาท
(หรือเกือบ 53% ของค่าใช้จ่าย)
ต้นตอของการขาดทุนจำนวนมหาศาล เกิดจากการรับจำนำในราคาสูง
แต่ขายข้าวในราคาต่ำ เพื่อมิให้ผู้บริโภคซื้อข้าวราคาแพง
และการทุจริตโดยขายข้าวในราคาต่ำกว่าราคาตลาดมาก
ผลศึกษาระบุว่า
ชาวนาทั่วประเทศได้รับผลประโยชน์ส่วนเกินสุทธิสูงถึง 5.6 แสนล้านบาท
จากโครงการรับจำนำข้าว
แต่ประโยชน์ส่วนใหญ่ตกเป็นของชาวนารายกลางและรายใหญ่
ซึ่งอาศัยในเขตชลประทานของภาคกลาง และภาคเหนือตอนล่าง
แต่มีข้อค้นพบสำคัญ คือ
หากเรานับรวมผลประโยชน์และต้นทุนที่เกิดขึ้นกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
ในโครงการรับจำนำ ปรากฏว่า
ต้นทุนสวัสดิการ (welfare cost หรือความเสียหายสุทธิต่อสังคม)
สูงถึง 1.23 แสนล้านบาท
ซึ่งเป็นความสูญเสียต่อสังคมสูงกว่าประโยชน์ที่ตกแก่ชาวนาและผู้บริโภค
"ความสูญเสียไม่นับรวมความเสียหายที่วัดไม่ได้ เช่น
... ชื่อเสียงและคุณภาพข้าวไทย
... การถลุงทรัพยากรจากพฤติกรรมแสวงหาค่าเช่า
... และการค้าข้าวแบบพรรคพวกที่ทำลายระบบการค้าแบบแข่งขัน
ดังนั้นวาทะกรรมของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ที่อ้างว่าโครงการเป็นประโยชน์ต่อชาวนา
จึงเป็นเพียงความพยายามกลบเกลื่อนความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อสังคม
แบบขาดความรับผิดชอบ"
............................................................................................
เครดิต : bangkokbiznews 23/08/2557
............................................................................................
TDRI โดย ดร.นิพนธ์ พัวพงศกร ได้ทำการวิจัยและศึกษา “โครงการจำนำข้าว”
โดยละเอียด ได้เปิดเผยผลศึกษาให้สาธารณชนได้รับรู้
อย่างไรก็ตาม กระทรวงการคลังได้ตั้งคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการนี้
โดยได้เชิญสภาวิชาชีพบัญชีร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปิดบัญชีด้วย
การปิดบัญชีเมื่อเสร็จสิ้น จะทำให้ประชาชนทราบตัวเลขความเสียหาย
ทั้งหมดของโครงการ “จำนำข้าวทุกเมล็ด” ได้จริงจังซะที
รอดูผลอยู่ค่ะ