ประกันสังคม (อันขมขื่น)

เหตุเกิดกับน้องชายของผม ใช้สิทธิประกันสังคมเข้ารับการรักษาใน ร.พ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เมื่อ 16 มิ.ย. 57 โดยมีอาการไข้ขึ้นสูงและหนาวสั่น จนญาติที่นำตัวไปรักษารู้สึกกระวนกระวายใจเนื่องจากเป็นห่วงอาการของคนไข้ เพราะเจ้าหน้าที่ให้รอคิวในการเข้ารับการตรวจรักษาเช่นเดียวกับคนไข้ปวดหัวตัวร้อนทั่วไป หลังรอคิวกว่าสองชั่วโมง แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นไข้หวัดใหญ่ ฉีดยา รับยา แล้วให้กลับไปพักผ่อนที่บ้าน

เมื่อกลับมาบ้านอาการก็ไม่ทุเลาขึ้นแต่กลับแย่ลงเรื่อย ๆ ญาติจึงตัดสินใจเปลี่ยนโรงพยาบาล โดยใช้สิทธิผู้ป่วยเข้ารับการรักษาในกรณีฉุกเฉิน (เพราะคนไข้เกือบจะช๊อคจากพิษไข้อยู่รอมมะร่อแล้ว) โดยออกเงินค่ารักษาพยาบาลเองส่วนตัวก่อน และจะเบิกคืนจากสำนักงานประกันสังคมในภายหลัง โดยใช้สิทธิดังกล่าว

แพทย์ที่โรงพยาบาลแห่งใหม่เข้าตรวจและวินิจฉัยโรคโดยละเอียด ผลจากการตรวจเลือดปรากฏว่าเป็นไข้เลือดออก ต้องแอดมิตนานถึงเจ็ดวันเพื่อทำการรักษาและสังเกตความเข้มข้นของเกล็ดเลือด เนื่องจากเชื้อโรคทำลายเกล็ดเลือดจนลดลงมาต่ำมาก

หลังออกจากโรงพยาบาล ผู้ป่วยได้ไปยื่นเรื่องเพื่อขอชดเชยสิทธิ ณ สำนักงานประกันสังคม (สปส) ตามสิทธิอันพึงได้ และรอหนังสือแจ้งจาก สปส  หลังจากนั้น 25 ส.ค. ก็มีหนังสือแจ้งจาก สปส. ฉบับนี้



ข้อสังเกต
1. เข้ารับการรักษาด้วยโรคไข้เลือดออก แต่ สปส ปฏิเสธการจ่ายเงินชดเชย โดยระบุว่าเป็นโรคเบาหวาน
2. เข้ารับการรักษาเมื่อ 16 มิ.ย. ได้รับหนังสือแจ้งลงวันที่ 13 ส.ค. โดยในหนังสือระบุว่าได้รับยาไปแล้วเมื่อ 31 ธ.ค. (วันที่อนาคต ขัดแย้งอย่างรุนแรง)

เพื่อน ๆ มีความเห็นใดต่อกรณีนี้ และควรแนะนำให้น้องชายผมดำเนินการเช่นไรต่อไป ขอคำแนะนำด้วยครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่