ปลดฟ้าผ่า "ปิยสวัสดิ์" พ้นเก้าอี้ดีดีการบินไทย อ้างสื่อสารกับกรรมการไม่เข้าใจทั้งที่ประเมินผลงานผ่าน ดัน "โชคชัย ปัญญายงค์" รักษาการแทน สรรหาคนใหม่ใน 2-3 เดือน เจ้าตัวงงเหตุผลแปลกประหลาด ประธานสหภาพฯ โวยการเมืองแทรกแซง พร้อมร่อนหนังสือถึง รมว.คลัง-คมนาคม-ผู้ตรวจการฯ แจงเหตุผล "กรณ์" ชี้คนดีไม่มีที่ยืนมากขึ้นเรื่อยๆ "เอกยุทธ” ย้อนที่มา ว.5 ชั้น 7 เป็นเรื่องจริง
    เมื่อวันจันทร์ นายอำพน กิตติอำพน เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการ(บอร์ด) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน ) เปิดเผยภายหลังการประชุมบอร์ดว่า ที่ประชุมมีมติเห็นชอบป็นเอกฉันท์ให้บอกเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ จากตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (ดีดี) บมจ.การบินไทย แม้ว่าผลประเมินการทำงานของปี 2554 จะสอบผ่านก็ตาม แต่ในด้านการทำงานแล้วนายปิยสวัสดิ์มีปัญหาในด้านการสื่อสารกับคณะกรรมการและผู้บริหาร ทำให้การทำงานขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ต่างๆ ไม่เป็นเอกภาพ นอกจากนี้ บอร์ดยังมีมติเห็นชอบให้เริ่มกระบวนการสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ภายใน 2-3 เดือนจากนี้
    เขาบอกว่า การเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์จะต้องจ่ายเงินเดือนชดเชย 6 เดือน ซึ่งนายปิยสวัสดิ์ได้รับค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 9 แสนบาท รวมเป็นเงินประมาณ 6 ล้านบาท โดยจะแจ้งให้นายปิยสวัสดิ์รับทราบล่วงหน้า 1 เดือนตามเงื่อนไขสัญญาจ้าง และแต่งตั้งนายโชคชัย ปัญญายงค์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายกลยุทธ์และพัฒนาธุรกิจ เข้ามาทำหน้าที่รักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ จนกว่าจะได้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
    ประธานบอร์ด บมจ.การบินไทยระบุว่า สาเหตุที่เลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ เพราะในช่วงที่ผ่านมาการสื่อสารระหว่างคณะกรรมการการบินไทยกับนายปิยสวัสดิ์ไม่เป็นเอกภาพเท่าที่ควร โดยมีข้อขัดแย้งและถกเถียงกันในเรื่องของยุทธศาสตร์การดำเนินงานของการบินไทย โดยเฉพาะยุทธศาสตร์ด้านการตลาด รวมทั้งประเด็นการสื่อสารกับพนักงานภายในองค์กร และเพื่อให้ผลการดำเนินงานของการบินไทยในปี 2555 เป็นไปตามเป้าหมาย คือมีกำไรประมาณ 6-7 พันล้านบาท จึงต้องเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์
    "ยืนยันว่าเป็นการจากกันด้วยดี ไม่ใช่ว่านายปิยสวัสดิ์ไม่มีความสามารถ ทำงานให้การบินไทยสำเร็จมาแล้วหลายเรื่อง แต่เพื่อให้การบินไทยบรรลุเป้าหมายจึงต้องเลิกจ้าง เพื่อหาผู้บริหารที่สามารถสื่อสารกับพนักงาน เพื่อผลักดันยุทธศาสตร์ต่างๆ ให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ พร้อมกันนี้ได้แต่งตั้งนายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานสรรหาดีดีคนใหม่โดยเร็ว คาดว่าจะใช้เวลา 2-3 เดือน" นายอำพนกล่าว
    ส่วนการประเมินผลการทำงานในรอบปี 2554 ของนายปิยสวัสดิ์ คณะกรรมการประเมินผลรายงานว่า นายปิยสวัสดิ์ได้คะแนน 4.3 ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งได้ 4.6 จากคะแนนเต็ม 5 แต่ถือว่าผ่านการประเมินผลงาน
    นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะบอร์ด บมจ.การบินไทย กล่าวว่า หลังจากนี้จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการสรรหาฯ เพื่อรับทราบหน้าที่ และกำหนดคุณสมบัติของผู้ที่จะสมัครเข้าชิงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ คาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้จะมีข้อสรุปที่ชัดเจน กรณีบอร์ดมีมติเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ มีเหตุผลที่สมควรและชัดเจนแล้ว ยืนยันว่าการดำเนินการทุกอย่างเป็นไปด้วยความโปร่งใส ไม่มีเรื่องทางการเมือง หรือเรื่องเกี่ยวกับการทุจริตคอรัปชั่นเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างแน่นอน
    ทั้งนี้ นายปิยสวัสดิ์ได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.การบินไทย เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.52 ในสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี โดยดำรงตำแหน่งจนถึงวันนี้รวม 2 ปี 7 เดือน ซึ่งก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวมาตลอดว่าจะถูกเลิกจ้าง
    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามพนักงานภายใน บมจ.การบินไทย พบว่าส่วนใหญ่จะเห็นด้วยกับกรณีที่บอร์ดมีมติเห็นชอบปลดนายปิยสวัสดิ์พ้นจากตำแหน่งดีดี โดยให้เหตุผลว่าส่วนหนึ่งมาจากการเมืองเปลี่ยนขั้ว และอีกส่วนหนึ่งมาจากการบริหารงานของนายปิยสวัสดิ์ที่ไม่เป็นธรรมาภิบาล และบริหารงานไม่เป็น โดยที่ผ่านมาการที่การบินไทยมีผลกำไรไม่ได้เกิดจากการบริหารงาน แต่เกิดมาจากการที่นายปิยสวัสดิ์ตัดงบค่าใช้จ่ายเท่านั้น ซึ่งเห็นได้จากปัจจุบันการให้บริการภายในเครื่องบิน โดยเฉพาะชั้นประหยัดนั้นแย่มาก ซึ่งการบินไทยได้รับเรื่องร้องเรียนเยอะมาก  
    แหล่งข่าวจาก บมจ.การบินไทยเปิดเผยว่า สาเหตุที่มีมติปลดนายปิยสวัสดิ์ เป็นเพราะนโยบายของฝ่ายการเมือง ที่ไม่ต้องการให้นายปิยสวัสดิ์นั่งในตำแหน่งดังกล่าว เพราะเห็นว่านายปิยสวัสดิ์เข้ามารับตำแหน่งในช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาล นอกจากนี้ นางอานิก อัมระนันทน์ ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ ก็เป็นภรรยาของนายปิยสวัสดิ์ สำหรับบุคคลที่คาดการณ์ว่าจะถูกส่งมาดำรงตำแหน่งยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน แต่ในเบื้องต้นมีหลายคนที่อยู่ระหว่างการพิจารณา เช่น นายสรจักร เกษมสุวรรณ และนายพฤทธิ์ บุปผาคำ อดีตรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่การบินไทย
    ด้านนายปิยสวัสดิ์กล่าวว่า การให้ออกมีเงื่อนไขคือ แจ้งให้ทราบ 1 เดือน, จ่ายชดเชย 6 เดือน แต่เหตุผลที่บอร์ดแจ้งไม่ชัดเจน หากประเด็นที่บอกว่าคุยกับบอร์ดไม่ตรงกัน ต้องถามบอร์ดว่าหมายความว่าอย่างไร หรืออาจจะเป็นเรื่องที่มีความเห็นไม่ตรงกัน คือเรื่องการลงโทษทางวินัยกับพนักงานบางคน เพราะพนักงานมีเยอะทั้งคนดีและไม่ดี อาจมีการไปวิ่งเต้น หรือเรื่องที่มีการสอบสวนแล้วพบว่ามีการทุจริต อาจจะทำให้คนผิดกลัวก็ได้
    “เหตุผลที่บอร์ดชี้แจงเป็นเหตุผลที่แปลกประหลาด ถึงแม้มีเงื่อนไข แต่บอร์ดต้องชี้แจงว่าเลิกจ้างเพราะอะไร ควรให้เหตุผลที่ชัดเจน ยอมรับกับการเปลี่ยนแปลง เข้าใจการปลดเป็นเรื่องไม่แปลกในการเมืองไทย หากการปลดโดยที่ทำให้บริษัทเสียหายหรือทุจริตก็ไม่ติดใจ และหวังว่าในอนาคตการบินไทยจะเดินหน้าต่อไปได้ หากไม่มีเรื่องของการขาดธรรมมาภิบาล ถ้าปล่อยให้มีการแทรกแซงก็จะไม่มีการพัฒนา“ นายปิยสวัสดิ์กล่าว
    ส่วนนางแจ่มศรี สุกโชติรัตน์ ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย กล่าวว่า สงสัยว่าเลิกจ้างด้วยสาเหตุอะไร สหภาพฯ มองว่าการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ครั้งนี้ไม่มีความเป็นธรรม มีการเมืองเข้ามาแทรกแซงในการบินไทย โดยได้มีการสอบถามนายปิยสวัสดิ์แล้ว พบว่าไม่รู้มาก่อนว่าจะมีวาระนี้เข้าบอร์ด หลังจากนี้จะส่งหนังสือไปถึงรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม, กระทรวงการคลัง และสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ให้ชี้แจงถึงสาเหตุของการเลิกจ้างนายปิยสวัสดิ์ โดยจะเรียกร้องให้คณะกรรมการการบินไทยเปิดเวทีสาธารณะต่อพนักงานและผู้ถือหุ้นของการบินไทย เพื่อชี้แจงเหตุผล รวมทั้งขณะนี้สหภาพฯ อยู่ระหว่างการประชุม ซึ่งจะมีการกำหนดท่าทีเคลื่อนไหวในเรื่องนี้ต่อไป
    ขณะที่นายกรณ์ จาติกวณิช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า  ภายในหนึ่งอาทิตย์ รัฐบาลได้ปลดสองท่านที่เป็นที่ยอมรับทั้งทางด้านฝีมือ และที่สำคัญคือทางด้านความซื่อสัตย์สุจริต คือ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล จากตำแหน่งประธานแบงก์ชาติ และมีมติฟ้าผ่าให้นายปิยสวัสดิ์ออกจากตำเเหน่งผู้บริหารการบินไทย เพื่อเปิดทางให้กับคนที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล ซึ่งปัญหาของทั้งสองท่านนี้คือ ไม่เคยยอมเป็นคนของใคร ตนอยากรู้จริงๆ ว่านอกจากจะเป็นเรื่องของงบจัดซื้อมหาศาลของการบินไทยแล้ว มีสาเหตุอะไรที่ต้องมีคนของตัวเองอยู่ในตำแหน่งนี้ ดูเหมือนยุคนี้คนดีหาที่ยืนยากขึ้นเรื่อยๆ
    นายศิริโชค โสภา ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในเรื่องเดียวกันว่า ขอแสดงความเสียใจกับคุณปิยสวัสดิ์ หลังจากที่บอร์ดการบินไทยสั่งปลดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แม้ว่าผลการประเมิน KPI (ประสิทธิภาพการทำงาน) จะได้ถึง 86% แต่เพราะผลการประเมินของฝ่ายการเมืองไม่ผ่านต่างหาก
    ส่วนนายเอกยุทธ อัญชันบุตร เจ้าของเว็บไซต์ไทยอินไซเดอร์ โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า ย้อนกลับไปดู 10 ก.พ.55 ตนเคยพูดไว้ตอนหนึ่งว่า สำหรับกรณีที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไปทำภารกิจลับ ว.5 ชั้น 7 โรงแรมโฟซีซั่นส์ ทั้งที่เป็นเวลาราชการ ซึ่งจะไปพบใคร นักธุรกิจคนใด ก็เป็นเรื่องที่นายกฯ ต้องชี้แจงให้สังคมหายสงสัย เพราะมีข่าวว่าใครบางคนพยายามวิ่งเต้นซื้อที่ดินทำฟลัดเวย์ และต้องการเปลี่ยนตัวดีดีการบินไทย มาวันนี้ 21 พ.ค.55 บอร์ดการบินไทยสั่งปลดนายปิยสวัสดิ์พ้นเก้าอี้ดีดีการบินไทยแล้ว ทั้งที่ผลการประเมินเคพีไอได้ถึง 86% ตกลงใครควรจะไม่ผ่านการประเมินกันแน่ และต้องติดตามต่อไปว่าใครคนนั้นจะมาเป็นดีดีการบินไทย หรือจะส่งคนของตัวเองมานั่งแทนเพื่อมิให้โฉ่งฉ่างเกินไป
    ขณะที่นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ซึ่งตกเป็นข่าวกรณี ว.5 ชั้น 7 ให้สัมภาษณ์กับไทยรัฐออนไลน์ถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนเพิ่งเดินทางกลับจากต่างประเทศ จึงเพิ่งทราบข่าวการปลดนายปิยสวัสดิ์ ส่วนกระแสข่าวการขายหุ้นของตนเอง เพื่อเตรียมเข้ารับตำแหน่งแทนนายปิยสวัสดิ์นั้น ยืนยันว่าไม่เคยเข้าไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าว


ทำไม่พวกแดงต้องโทษแต่สลิ่มทั้งทั่ไม่เคยโทษพวกตัวเอง
นังปูเน่า ไอแม้ว ที่เอาคนไม่มีฝีมืออย่างสรจักรมาบริหารการบินไทย