สวัสดีชาว Pantip ทุกท่านนะครับ นี่เป็นการตั้งกระทู้รีวิวครั้งแรกของผม ก่อนอื่นก็ขอแนะนำตัวก่อนนะครับผมชื่อบี เรียนสาขาวิชาวิศวกรรมโยธา สำนักวิชาวิศวกรรมศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา ครับ

ผมเป็นนักกีฬาเรือพาย ประเภทเรือกรรเชียง ประจำมหาวิทยาลัย ปกติก็มีแข่งขันอยู่ประจำทุกปีอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทย สนาม 1 2 และ 3 รวมทั้งไฮไลท์เลยก็ คือ การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย แต่เมื่อปีที่แล้ว ช่วงเดือนตุลาคม 2556 มีโอกาสสำคัญในชีวิตที่จะได้เดินทางไปแข่งขันที่ต่างประเทศ นั่นก็คือ “ประเทศมาเลเซีย” นั่นเอง......ฮี๊วววววววววว การใช้ชีวิตในต่างบ้านต่างเมืองของผมครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ติดตามได้ใน “หนุ่มเรือพายตะลุยฝันที่ KL” ตามไปเลยครับ

นับตั้งแต่ได้ข่าวจากครูกุ้ง (ครูกุ้ง คือ คนที่ดูแลชมรมเรือพายในฐานะบุคลากรของมหาวิทยาลัย) ก็ได้เตรียมตัวฝึกซ้อมกัน ที่ มทส. สถานที่ที่ไว้ซ้อมกันก็ คือ อ่างสุระ ๒ หรือสระสามแสน เป็นสระที่มีความจุกว่าล้านลูกบาศก์เมตรและที่เรียกว่าสระสามแสนเพราะว่า เมื่อก่อนสระแห่งนี้บรรจุน้ำได้ประมาณสามแสนลูกบาศก์เมตร นักศึกษาที่นี่เลยเรียกว่าสระสามแสนตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา



ได้เวลาเก็บกระเป๋าเตรียมตัวออกเดินทาง อยากบอกว่าไม่มีความรู้เรื่องการเก็บกระเป๋าในการออกเดินทางไปต่างประเทศเลย กระเป๋าที่เอาไปอยากบอกว่าขากลับมา กระเป๋าขาดครับ แต่สิ่งที่ได้ยินจากครูกุ้งกับพี่ชมรมที่เคยไปสิงคโป คือ น้ำปลา กับน้ำพริกเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ไอ้เราก็อะไรว่ะ ทำไมต้องเอาไป

ได้เวลาเดินทางกันแล้ว!! หลายท่านคงจะจิตนาการว่า เออเก็บกระเป๋า ขึ้นเครื่อง ลงเครื่องเข้าที่พัก แต่สำหรับผมไม่ครับ…. เริ่มจากการเดินทางออกจากมหาวิทยาลัยขึ้นรถกระบะของครูกุ้งไปลงที่ บขส. แห่งที่ 2 จังหวัดนครราชสีมา



นี่ คือ ตั๋วรถทัวร์ โคราช – หาดใหญ่ ราคา 1,111 บาท ราคาสวยเชียว การเดินทางครั้งนี้เราฝากชีวิตไว้กับ ปิยะทัวร์ เดินทางจากโคราชถึงหาดใหญ่เพื่อต่อรถทัวร์จากหาดใหญ่ไป KL ประเทศมาเลเซีย ระหว่างการเดินทางไม่ค่อยได้เก็บภาพสักเท่าไหร่ เพราะว่าหลับตลอดทางเลยครับ... เริ่มออกเดินทางจากโคราช เวลา 17.00 น. เดินทางถึงหาดใหญ่เวลาประมาณ 14.00 น. ใช้เวลาเดินทางประมาณ 21 ชม. โดยประมาณ



          ถึงหาดใหญ่แล้วต่อรถทัวร์จากหาดใหญ่ไปลง KL จำไม่ได้แล้วว่าใช้บริการของบริษัทใด



นี่ คือ บริเวณด่านสะเดา จังหวัดสงขลา พอขึ้นรถทัวร์จากหาดใหญ่ออกมาสักพักก็มาเจอด่านสะเดา เราก็ทำการลงไปปั้มตราประทับเดินทางออกนอกประเทศ ของด่านฝั่งไทย ระหว่างปั้นเจอ ตม. ถามว่าจะไปไหน... ไอ้เราก็บอกว่าไปแข่งกีฬา ก่อนเดินจากมาเค้าก็ถามว่าไปแข่งบาส เหรอสูงซะขนาดนี้ ผมก็ตอบไปว่า ไปแข่งเรือพายครับ.... (ผมสูงประมาณ 188 cm) พอลงตราประทับเสร็จแล้วก็ได้เวลาข้ามพรหมแดนกันครับ





ภาพนี้ คือ โฉมหน้านักกีฬาที่ร่วมเดินทางในครั้งนี้ครับ มีทั้งหมด 11 คนรวมถึงครูกุ้ง (คนกลางเสื้อส้ม)



พอข้ามแดนมาก็เดินทางด่านสะเดามาที่จุดลงตราประทับและตรวจกระเป๋าของทางมาเลเซีย สิ่งที่น่ากลัวที่สุดของการอยู่ต่างประเทศนั่นคือ “ภาษา” ครับ.... ด้วยความที่ว่าเด็ก มทส. เรียนภาษาอังกฤษ 5 ตัว ทำให้ภาษาสำหรับพวกเราเป็นอะไรที่ เบๆ มาก..... เบบี๋ ครับ ฮ๋าๆ ..... ไปต่างประเทศครั้งนี้ รู้สึกเมื่อยมือมากครับ ชี้นุ่นชี้นี่ เหนื่อยๆ



พอลงตราประทับเข้าเมืองเสร็จก็ได้เวลานำประเป๋าขึ้นรถทัวร์... ได้เวลาเดินทางแล้ววววววว เย่.... ภาพที่เห็น คือ ภาพถนนไฮเวร์ระหว่างทางชายแดนไปเมืองหลวงของประเทศ KL อยากจะบอกว่าถนนเป็นสี่เลนส์ตั้งแต่ด่านยันเมืองหลวง นอกจากถนนแล้วที่นี่ยังมีรถไฟรางคู่เลียบถนนไฮเวร์เป็นรถไฟระหว่างเมืองยาวตั้งแต่ด่านยันเมืองหลวงเลยครับผม และแล้วความเหนื่อยล้าก็ทำให้ผมหลับ จำไม่ได้ว่าผ่านเมืองอะไรบ้างเพราะว่าหลับตลอดทางเลยจึงไปโผล่อีกทีก็ KL แล้ววววววว