มีเรื่องฝากมาเตือนเพื่อนๆเพื่อเป็นอุทาหรณ์ มาในรูปแบบต้มตุ๋นหลอกลวง เป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นสดๆร้อนๆเกิดขึ้นเมื่อ 5-6 วันที่ผ่านมาวันที่ 17/8/57 เกิดขึ้นกับครอบครัวดิฉันเอง เรื่องมีอยู่ว่าแม่ของดิฉันได้รับจดหมายฉบับหนึ่งซึ่งใจความในจดหมายก็มีอยู่ว่า ท่านได้รับรางวัลเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าจากการสุ่มจากใบรับประกันที่ท่านเคยซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่ ปี 2547-ปี 2553 แม่ของดิฉันก็ได้เดินทางไปรับรางวัลที่ในตัวเมืองพิจิตรไปรับได้ที่ร้านซัพพลายเซอวิส ซึ่งบ้านแม่ของดิฉันอยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 30 กิโล ซึ่งเดินทางไปรับเย็นวันที่ 17 ส.ค เมื่อไปถึงภายในร้านก็พบว่ามีพนักงานประมาณ4-5คน ภายในร้านมีเครื่องใช้ไฟฟ้าหลากหลายยี่ห้อเยอะแยะไปหมดร้านดูใหญ่และน่าเชื่อถือ ประมาณ2ห้องใหญ่เห็นจะได้ เมื่อครอบครัวของดิฉันเดินทางไปถึงก็มีพนักงานออกมาต้อนรับปกติ แล้วพนักงานก็บอกว่าจะให้จับฉลากเลือกรับของรางวัลแม่ของดิฉันก็เป็นคนจับปรากฎว่าแม่ของดิฉันจับฉลากได้นาฬิกาแขวนผนังธรรมดา แต่พนักงานดูท่าทางใจดีมากเป็นพิเศษบอกว่าให้โอกาสแม่ของดิฉันจับได้อีกสองครั้ง คราวนี้แม่ของดิฉันก็ให้หลานเป็นคนจับซึ่งมีหลานไปด้วย 2 คน เป็นลูกของพี่สาวดิฉันทั้งสองคนซึ่งพี่สาวของดิฉันก็ไปด้วยและมีพ่อของดิฉันไปด้วยซึ่งเป็นคนขับรถพาครอบครัวไป ส่วนลูกของพี่สาวดิฉันซึ่งเป็นหลานของดิฉันเอง คนโตเป็นเด็กผู้ชายอายุ 6 ขวบ ส่วนอีกคนเป็นเด็กผู้หญิงอายุเพียง 6 เดือนเศษๆ แต่แม่ได้ให้เด็กผู้ชายซึ่งเป็นหลานเป็นคนจับฉลากให้แทน ปรากฎว่าหลานของดิฉันจับได้ชุดลำโพง และพนักงานก็บอกว่าขอโทรศัพท์ไปถามผู้จัดการก่อนว่าจะให้ชุดลำโพงชุดไหนดี ซึ่งชุดลำโพงมี 3 ขนาดด้วยกัน มีชุดใหญ่ ชุดกลางและชุดเล็ก และพนักงานก็ได้เดินไปโทรศพท์และสักพักก็เดินกลับมาบอกว่า ขอแสดงความยินดีด้วยคุณได้ชุดลำโพงขนาดใหญ่และพนักงานทั้งหมดก็พากันตบมือแสดงความยินดี พนักงานก็บอกว่านอกจากนี้ยังได้หม้อหุงข้าว ชุดเตาแก๊สอินฟาเรตอีกด้วย ครอบครัวของดิฉันก็พากันดีใจ

                เมื่อเสร็จสิ้นการจับฉลากแล้วพนักงานยังจะขอให้หลานทั้งสองซึ่งเป็นลูกของพี่สาวถ่ายรูปเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับสินค้าอีกด้วย โดยจะได้รับเงินค่าพรีเซ็นเตอร์ 120,000 บาท และเซ็นสัญญา 3 ปี แต่ว่าจะต้องรอรับเงินค่าพรีเซ็นเตอร์วันที่ 28 ธันวา 57 สิ้นปี ทางพนักงานบอกว่าจะจัดงานเครื่องใช้ไฟฟ้าวันที่ 28 ธันวาและจะให้ขึ้ันไปรับเงินสดบนเวที และรับโทรทัศน์ 42'' ฟรีอีก1เครื่อง ครอบครัวของดิฉันก็ตกลงยอมให้หลานทั้งสองถ่ายรูปเป็นพรีเซ็นเตอร์สินค้า เมื่อได้ถ่ายรูปตกลงกันเสร็จสับ พนักงานก็บอกว่าจะต้องมีเสียค่าภาษีด้วยเนื่องจากของรางวัลที่ได้รับเกินมูลค่าของทางบริษัทเพราะของรางวัลรวมทั้งสิ้นมันหกหมื่นกว่าบาท ต้องเสียภาษีในอัตรา 30% เป็นมูลค่าที่ต้องเสีย 22,947 บาท แม่ของดิฉันก็ตกใจเมื่อรู้ว่าต้องเสียค่าภาษีด้วย และเสียเป็นเงินถึงสองหมื่นกว่าบาท พนักงานก็บอกว่ายกเลิกไม่ได้ด้วยเพราะว่ามันเป็นกฎของบริษัทว่าท่านจับฉลากแล้วเปลี่ยนแปลงหรือยกเลิกไม่ได้ แม่ฉันพยายามขอลดค่าภาษีแล้วแต่พนักงานบอกว่าไม่ได้มันเป็นกฎของบริษัท

            แม่ฉันจึงยอมตกลงที่จะจ่าย เพราะเห็นว่าได้ของมาส่วนนึงแล้วและพนักงานก็บอกว่าจะไปติดชุดลำโพงให้ที่บ้านด้วยพร้อมกับตามไปรับเงินสดที่บ้าน เมื่อตกลงกันเสร็จเรียบร้อยก็ได้เดินทางกลับไปบ้านของดิฉันซึ่งมีพนักงานขับรถตามมาด้วย 2คน เป็นหญิง 1 คน ชาย 1 คน เมื่อมาถึงที่บ้านพนักงานก็ได้ทำการติดตั้งให้เสร็จเรียบร้อย พร้อมรับเงินสดไปด้วยสองหมื่นกว่าบาทแล้วให้แม่ของดิฉันเซ็นรับสินค้าด้วย พนักงานก็ออกใบเสร็จรับเงินพร้อมเบอร์โทรไว้ให้

           แต่เมื่อเวลาผ่านไป 1วัน แม่ของดิฉันก็ได้โทรคุยกับดิฉันปกติซึ่งดิฉันทำงานอยุ่กรุงเทพแม่ของดิฉันก็เล่าเรื่องให้ฟังทั้งหมดว่าได้รับของรางวัลแบบนี้และที่ดิฉันตกใจคือแม่บอกว่าต้องเสียค่าภาษีถึงสองหมื่นกว่าบาทแล้วไหนบอกฟรีไง จึงทำให้ดิฉันเริ่มสงสัยว่ามันทำไมดูแปลกๆ จึงให้แม่ไปดูชื่อยี่ห้อเครื่องใช้ไฟฟ้าแล้วบอกว่าชื่ออะไร ดิฉันจึงได้เซิร์สอินเทอร์เน็ตดู ปรากฏว่าไม่มีชื่อยี่ห้อนี้ แล้วเปิดเข้าไปเจออยู่เว็บนึงพอดี ว่ามีคนเคยเจอแบบนี้เรย เครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อนี้ด้วย ลักษณะเดียวกันคือส่งจดหมายมาบอกว่าได้รับรางวัลแต่ไม่เหมือนกันที่โดนคนละจังหวัดเท่านั้นเอง

          ดิฉันก็ตกใจเพราะมีคนแชร์ลักษณะการโดนหลอกแบบนี้เปรี๊ยบเลย ดิฉันจึงบอกกับแม่ว่าเราโดนหลอกเอาเงินแล้วล่ะ ยี่ห้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามันเป็นของพวกจีนแดงมีมูลค่ารวมกันไม่กี่พันเอง แล้วไม่มีการจัดงานเครื่องใช้ไฟฟ้าเกิดขึ้นแน่นอน เงินค่าพรีเซ็นเตอร์ของหลานทั้งสองคนยิ่งไม่ต้องไปหวังใหญ่เลย สรุปว่าครอบครัวของดิฉันโดนหลอกเต็มๆ แม่ของดิฉันก็ตกใจ ดิฉันจึงรีบบอกให้แม่ไปแจ้งความทันทีเย็นวันที่ 18/8/57 ไปแจ้งที่ สน.ตะพานหิน แต่ตำรวจไม่รับแจ้งบอกต้องไปแจ้งในเขตพื้นที่อำเภอเมืองพิจิตร แม่ของดิฉันจึงไปที่ สน.เมืองพิจิตร แต่เมื่อไปถึงเข้าไปแจ้งความแล้วบอกว่าโดนหลอกลักษณะนี้ยังไม่ทันจะเล่ารายละเอียดหมดตำรวจนายหนึ่งก็บอกว่าไม่ต้องเล่าแล้วมีคนโดนแบบนี้มาแจ้งความหลายคนแล้ว โดนหลอก 100% แน่นอน แต่ตำรวจก็รับปากว่าจะช่วยแต่ว่าตำรวจร้อยเวรออกเวรไปแร้วจึงยังไม่สามารถทำอะไรได้ และตำรวจก็ยังบอกว่าเราก็ไม่ได้เอาของมาคืนมันด้วยจึงยังทำอะไรไม่ได้พุ่งนี้ให้กับมาใหม่พร้อมกับเอาของมาคืนมันให้หมด แล้วจะช่วยให้มันเอาเงินสองหมื่นกว่าบาทมาคืนเราให้ได้

            และวันที่ 19/8/57 ครอบครัวของดิฉันก็กลับไปใหม่พร้อมเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมด ตำรวจได้ไปตะเวนตรวจให้เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วว่ามันยังไม่ได้หนีไปไหน วันนี้ตอนเช้าก็เลยไปเชิญตัวมาที่โรงพัก แล้วมันก็หน้าเปลี่ยนสีทันที แค่ตำรวจขู่นิดเดียวมันก็ยอมคืนเงินทุกบาทให้กับครอบครัวของดิฉันและเอาของมันคืนกลับไป โดยยอมรับทุกข้อกล่าวหาด้วยและยอมรับว่าทำมาหลายครั้งแล้วและเดี๋ยวก็กำลังจะไปจากที่นี่แล้ว เพราะตึกที่เป็นร้านค้ามาเช่าชั่วคราวเท่านั้น ..............................

****และนี่ก็เป็นบทเรียนอีกบทเรียนหนึ่งที่ครอบครัวดิฉันเพิ่งได้เจอมาสดๆร้อนๆ จึงอยากมาแชร์ให้เพื่อนๆรับรู้ว่า เราสามารถโดนหลอกได้เสมอ เพราะของฟรีไม่มีในโลกถ้าครอบครัวของดิฉันรู้ตัวช้าไปสักนิดอาจจะสูญเสียทั้งเงิน ทั้งอีกหลายๆอย่างก้อเป็นได้เพราะนักต้มตุ๋นมันมาในคราบคนพูดจาดี ใจดีเสมอ จึงอยากเตือนเพื่อนเป็นอุทาหรณ์เพื่อนๆทุกคนไว้ *************************