ประโยชน์ของวิชาพลังลมปราณ ตามประสบการณ์ตรงของผม ที่ได้จากการฝึกวิชาพลังลมปราณ ผมพบว่า มีประโยชน์ดังนี้
1. สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคพูมิแพ้ โรคหอบ โรคหวัด เป็นต้น และทาให้อายุยืน
2. สามารถเพิ่มพลังของตนเองได้ พลังที่เกิดจากการฝึกสามารถนำออกมาใช้ได้ ซึ่งพลังที่เกิดจากการมีความแตกต่างจากพลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อและกระดูก พลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อและกระดูก เมื่อใช้จนเกิดความเมื่อยล้า พลังก็จะหมด ส่วนพลังลมปราณไม่หมด (พลังลมปราณจะสะสมตัวอยู่ที่จุด ตัน เถียน คือบริเวณท้องน้อยใต้สะดือ คือประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ถึง 3 นิ้ว ซึ่งเมื่อสะสมตัวมากขึ้นก็สามารถส่งไปหล่อเลี้ยงร่างกายส่วนต่าง ๆ ได้ เมื่อฝึกไปนาน ๆ กระดูกจะแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า)
โรคที่ผมเป็น และหายเพราะฝึกวิชาพลังลมปราณ
เมื่อปลายปีการศึกษา 2545 ผมป่วย ซึ่งมีอาการของโรค คือ ในทุก ๆ เช้า ผมตื่นมา จะมีน้ำมูกไหลมาก และจามอยู่ทุก ๆ ขณะ ไอบ้าง มีเสลดออกมากด้วย เกิดความอ่อนเพลีย มีอาการอย่างนี้ทุนวัน จนถึงเวลา 09.00 น. จึงจะหาย นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ผมจะจามทุกครั้งที่ผมประสบกับฝุ่นละออง หรือที่มีอากาศอับชื้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ผมมีอาการอย่างนี้ เป็นเวลาหลายเดือน และแล้วอาการอย่างนี้ไม่เกิดขึ้นแก่ผมอีกเลย เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ในตอนแรกผมคิดว่า “โรคคงหายไปเอง” แต่ในที่สุดโรคอย่างนี้ก็เกิดขึ้นอีกในปีการศึกษา 2547 และเป็นหนักมาก เป็นอยู่ประมาณ 2 เดือน ผมบอกกับตัวเองว่า “ถ้าเราขืนเป็นอย่างนี้ ต้องตายแน่” ผมจึงนั่งสมาธิทบทวนดูว่า ในครั้งก่อนที่ผมหายจากโรคนี้ด้วยสาเหตุใดกันแน่ ก็พบว่า ก่อนที่โรคจะหาย เป็นเวลา 1 วัน ผมได้ทำสิ่ง 2 สิ่ง คือ 1. การกลั้นหายใจในน้ำ 2. การฝึกวิชาพลังลมปราณ ท่าที่ 1 ที่ได้จากหนังสือ มวยไทเก็ก เมื่อรู้ดังนี้แล้ว ผมจึงทดลองโดยการกลั้นหายใจในน้ำ ปรากฏว่าอาการทุเลาลง แต่ไม่มาก ผมจึงฝึกวิชาพลังลมปราณ ท่าที่ 1 ซึ่งใช้เวลาฝึกไม่ถึง 5 นาที เพราะสุขภาพยังอ่อนแอ ปรากฏว่า โรคอาการดังกล่าวไม่กลับมาเป็นอีกเลย จนถึงปัจจุบัน ผมจึงทราบถึงประโยชน์ของวิชาพลังลมปราณนับตั้งแต่นั้นมา ผมได้บอกกับเพื่อนของผมที่ต่างอำเภอ ซึ่งเป็นโรคอย่างนี้เหมือนกัน แต่ท่านบอกว่า ท่านหายด้วยการทาน ผักกระเฉด แต่ทาน 1 ครั้ง หายจากโรคประมาณ 1 เดือน ก็เป็นอีก
สามารถดาวน์โหลดได้ที่
ดาวน์โหลด
ฝึกวิชาลมปราณรักษาโรค
1. สามารถรักษาโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคพูมิแพ้ โรคหอบ โรคหวัด เป็นต้น และทาให้อายุยืน
2. สามารถเพิ่มพลังของตนเองได้ พลังที่เกิดจากการฝึกสามารถนำออกมาใช้ได้ ซึ่งพลังที่เกิดจากการมีความแตกต่างจากพลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อและกระดูก พลังที่เกิดจากกล้ามเนื้อและกระดูก เมื่อใช้จนเกิดความเมื่อยล้า พลังก็จะหมด ส่วนพลังลมปราณไม่หมด (พลังลมปราณจะสะสมตัวอยู่ที่จุด ตัน เถียน คือบริเวณท้องน้อยใต้สะดือ คือประมาณ 2 นิ้วครึ่ง ถึง 3 นิ้ว ซึ่งเมื่อสะสมตัวมากขึ้นก็สามารถส่งไปหล่อเลี้ยงร่างกายส่วนต่าง ๆ ได้ เมื่อฝึกไปนาน ๆ กระดูกจะแข็งแกร่งดุจเหล็กกล้า)
โรคที่ผมเป็น และหายเพราะฝึกวิชาพลังลมปราณ
เมื่อปลายปีการศึกษา 2545 ผมป่วย ซึ่งมีอาการของโรค คือ ในทุก ๆ เช้า ผมตื่นมา จะมีน้ำมูกไหลมาก และจามอยู่ทุก ๆ ขณะ ไอบ้าง มีเสลดออกมากด้วย เกิดความอ่อนเพลีย มีอาการอย่างนี้ทุนวัน จนถึงเวลา 09.00 น. จึงจะหาย นอกจากอาการเหล่านี้แล้ว ผมจะจามทุกครั้งที่ผมประสบกับฝุ่นละออง หรือที่มีอากาศอับชื้น อากาศถ่ายเทไม่สะดวก ผมมีอาการอย่างนี้ เป็นเวลาหลายเดือน และแล้วอาการอย่างนี้ไม่เกิดขึ้นแก่ผมอีกเลย เป็นเวลาเกือบ 1 ปี ในตอนแรกผมคิดว่า “โรคคงหายไปเอง” แต่ในที่สุดโรคอย่างนี้ก็เกิดขึ้นอีกในปีการศึกษา 2547 และเป็นหนักมาก เป็นอยู่ประมาณ 2 เดือน ผมบอกกับตัวเองว่า “ถ้าเราขืนเป็นอย่างนี้ ต้องตายแน่” ผมจึงนั่งสมาธิทบทวนดูว่า ในครั้งก่อนที่ผมหายจากโรคนี้ด้วยสาเหตุใดกันแน่ ก็พบว่า ก่อนที่โรคจะหาย เป็นเวลา 1 วัน ผมได้ทำสิ่ง 2 สิ่ง คือ 1. การกลั้นหายใจในน้ำ 2. การฝึกวิชาพลังลมปราณ ท่าที่ 1 ที่ได้จากหนังสือ มวยไทเก็ก เมื่อรู้ดังนี้แล้ว ผมจึงทดลองโดยการกลั้นหายใจในน้ำ ปรากฏว่าอาการทุเลาลง แต่ไม่มาก ผมจึงฝึกวิชาพลังลมปราณ ท่าที่ 1 ซึ่งใช้เวลาฝึกไม่ถึง 5 นาที เพราะสุขภาพยังอ่อนแอ ปรากฏว่า โรคอาการดังกล่าวไม่กลับมาเป็นอีกเลย จนถึงปัจจุบัน ผมจึงทราบถึงประโยชน์ของวิชาพลังลมปราณนับตั้งแต่นั้นมา ผมได้บอกกับเพื่อนของผมที่ต่างอำเภอ ซึ่งเป็นโรคอย่างนี้เหมือนกัน แต่ท่านบอกว่า ท่านหายด้วยการทาน ผักกระเฉด แต่ทาน 1 ครั้ง หายจากโรคประมาณ 1 เดือน ก็เป็นอีก
สามารถดาวน์โหลดได้ที่
ดาวน์โหลด