พ่อผมอายุ แปดสิบแล้ว เมื่อช่วงต้นปีที่แล้ว พ่อไปตรวจร่างกายประจำปี และส่องกล้องทางเดินอาหารที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่ง ตามคำแนะนำของหมอ หมอพบว่ามีก้อนเนื้อที่กระเพาะอาหารประมาณสองเซ็นติเมตร หมอแนะนำให้ผ่าตัดรักษา
บังเอิญมีเพื่อนแนะนำให้ไปรักษากับหมอที่อีก รพ.หนึ่งแถวปิ่นเกล้าที่มีคนแนะนำว่าเป็นหมอศัลย์ระบบทางเดินอาหารที่เก่งมากอันดับต้นๆ ลูกๆเลยตัดสินใจพาพ่อมาทำการรักษาแห่งนี้ และได้รับการผ่าตัดช่วงเดือน กพ.
ผลการผ่าตัดหมอบอกว่าสามารถตัดออกไปได้หมด โดยเหลือกระเพาะอาหารประมาณ 10% ซึ่งเนื้องอกยังลุกลามแค่ชั้นกล้ามเนื้อ พักฟื้นราวเดือนหนึ่งก็ให้กลับบ้านได้ โดยไม่ต้องให้คีโม
ระหว่างนั้นหลังผ่าตัดพ่อก็ยังคงแข็งแรงอยู่มากสามารถเดินไปไหนไกลๆได้ เพียงแต่จะแน่นท้อง อาเจียนบ้าง และก็จะถ่ายบ่อย บางครั้งถ่ายออกมาเป็นอาหารที่กินเข้าไปเลย ซึ่งเวลาแจ้งหมอๆ ก็บอกว่าต้องให้ร่างกายค่อยปรับตัวเอง สองสามเดือนถัดมาการขับถ่ายก็ดีขึ้นจริงๆแต่ก็ไม่มาก
แต่หลังจากนั้นร่างกายพ่อก็ดูแย่ลงเรื่อยๆ แม้เรื่องกินจะกินดีขึ้น แต่น้ำหนักตัวก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ค่าโปรตีนก็ตกลงไปมาก จนเกือบไม่มีแรงจะเดินเลย
ช่วงเดือน พค.มีอาการชักร่วมด้วย ญาติเลยพาเข้าแอดมิดที่รพ แต่หมอที่ผ่าตัดไม่รับเป็นเจ้าของไข้บอกว่าไม่สะดวก พยาบาลเลยติดต่อหมอท่านอื่นมาเป็นเจ้าของไข้แทน นอนให้อัลบูมินอยู่อาทิตย์กว่าก็ดีขึ้น หมอเลยให้ออกจาก รพ.ได้
ทั้งนี้เวลาหมอที่ผ่าตัดนัดลูกๆก็พาพ่อก็ไปตามนัดตลอด บางทีก็ก่อนนัด ทุกครั้งหมอก็บอกว่าต้องให้ร่างกายค่อยๆปรับตัว เดี่ยวก็ดีขึ้นเอง
พอถึงช่วงเดือน พค.ญาติเห็นว่าไม่ไหวแล้วเลยขอพบหมอก่อนนัดอีกครั้ง หมอเลยนัดให้ใส่สายฟีดอาหารทางจมูกให้แต่ผลกลับเป็นว่าพอฟีดอาหารแล้วพ่อจะถ่ายออกมาเลยเป็นนมที่ฟีดเข้าไปเลย
ญาติๆเห็นว่าดูเหมือนหมอจะไม่ได้ให้เวลาหรือตรวจคนไข้ละเอียดเท่าไหร่ เลยตัดสินใจย้ายกลับไปพบหมอที่ รพ.เอกชนเดิม ซึ่งหมอก็ให้ความใส่ใจมาก พยายามค้นหาสาเหตุอยู่อาทิตย์หนึ่ง จนพบว่า กระเพาะที่ผ่าตัดไปนั้นมันกลับไปเชื่อมกับลำไส้เล็กส่วนปลายแทนที่จะเป็นส่วนเจจูนั่ม ต้องผ่าตัดแก้ไข โดยต้องกลับมาให้หมอที่ผ่าตัดแก้ไขเอง ซึ่งหมอก็น่ารักมาก ขอเบอร์หมอผ่าตัดไปแล้วประสานให้จนได้กลับมารักษาที่ รพ.เดิม
เมื่อกลับมาที่ รพ.เดิม หมอก็ให้นอนให้สารอาหารทางเส้นเลือดดำกับ อัลบูมินอยู่สามเดือนจนได้ผ่าตัดราวปลายปีที่แล้ว ผลการผ่าตัดแก้ไขก็ดูเหมือนจะโอเคดี
แต่หลังผ่าตัดคราวนี้ร่างกายพ่อก็แย่ลงไปมาก ออกจาก รพ.คราวนี้ก็เดินไม่ค่อยไหวแล้ว ต้องมีคนคอยช่วยเหลือตลอด ก็ต้องค่อยๆฟื้นฟูกันหลายเดือน น้ำหนักถึงเพิ่มขึ้นมาบ้าง
จนมาสองเดือนที่แล้วพ่อเริ่มปวดท้องไม่ถ่ายหลายวันติดต่อกัน ญาติเห็นว่าไม่ค่อยดีอีกแล้วเลยพามาพบหมอ ผลตรวจก็พบว่าเป็นลำไส้อุดตันเพราะผังพืดไปพันลำไส้ ก็ต้องนอนอยู่ราวสองอาทิตย์ถึงได้กลับบ้านได้
แต่ว่ากลับบ้านคราวนี้ลูกๆสังเกตุว่าพ่อมีอาการแปลกไปจากเดิม คือ เริ่มท้องอืด พะอืดพะอม กินอาหารได้น้อยลง บางทีกินๆอยู่ก็อาเจียนออกมา แล้วก็เริ่มบ่อยมากขึ้นๆ จนเป็นเกือบทั้งวัน และทุกวัน
ลูกๆเลยตัดสินใจกลับมาพบหมอก่อนนัดอีกครั้ง โดยพึ่งนัดได้ต้นเดือน สค.นี้เอง เพื่อขอตรวจร่างกายอย่างส่องกล้อง ทำ ct scan หรือตรวจอย่างอื่นอย่างละเอียดดีกว่า หมอก็เลยให้แอดมิดเพื่อส่องกล้องทางเดินอาหารและทำ ct scan ช่องท้อง
หลังตรวจ ผลตรวจส่องกล้องนั้นไม่พบอะไร แต่ผลทำ ct scan กลับพบก้อนเนื้อหลายก้อนที่เยื่อบุช่องท้อง และในตับ หมอที่ผ่าตัดก็แจ้งว่าคงต้องทำใจ และก็แนะนำให้ปรึกษาหมอคีโมดูว่าจะรักษาต่อยังไง
ตอนนี้ลูกๆหนักใจมากเลยครับ เพราะพ่อเริ่มจะท้อแล้ว บ่นว่าไม่อยากรักษาแล้ว หาหมอผิดหรือเปล่า รักษาไม่หายสักที ไม่รู้เป็นอะไร ไม่อยากอยู่แล้วทรมาน คลื่นไส้ แน่นท้องตลอดเวลา
ผมเลยอยากขอคำปรึกษาหน่อยครับว่าผมควรจะทำยังไงดี ผลตรวจนี้ต้องมีการตรวจด้วยวิธีอื่นเพื่อยืนยันไหม ควรบอกพ่อไหม และควรเข้ารับการรักษาด้วยคีโมต่อไหมครับ มีวิธีรักษาแบบอื่นอีกไหม ถ้ารักษาต่อด้วยคีโม ควรต้องรู้อะไรที่จำเป็นบ้างครับ
ขอบคุณมากครับ
ขอปรึกษาเรื่องแนวทางการรักษามะเร็งของพ่อหน่อยครับ
บังเอิญมีเพื่อนแนะนำให้ไปรักษากับหมอที่อีก รพ.หนึ่งแถวปิ่นเกล้าที่มีคนแนะนำว่าเป็นหมอศัลย์ระบบทางเดินอาหารที่เก่งมากอันดับต้นๆ ลูกๆเลยตัดสินใจพาพ่อมาทำการรักษาแห่งนี้ และได้รับการผ่าตัดช่วงเดือน กพ.
ผลการผ่าตัดหมอบอกว่าสามารถตัดออกไปได้หมด โดยเหลือกระเพาะอาหารประมาณ 10% ซึ่งเนื้องอกยังลุกลามแค่ชั้นกล้ามเนื้อ พักฟื้นราวเดือนหนึ่งก็ให้กลับบ้านได้ โดยไม่ต้องให้คีโม
ระหว่างนั้นหลังผ่าตัดพ่อก็ยังคงแข็งแรงอยู่มากสามารถเดินไปไหนไกลๆได้ เพียงแต่จะแน่นท้อง อาเจียนบ้าง และก็จะถ่ายบ่อย บางครั้งถ่ายออกมาเป็นอาหารที่กินเข้าไปเลย ซึ่งเวลาแจ้งหมอๆ ก็บอกว่าต้องให้ร่างกายค่อยปรับตัวเอง สองสามเดือนถัดมาการขับถ่ายก็ดีขึ้นจริงๆแต่ก็ไม่มาก
แต่หลังจากนั้นร่างกายพ่อก็ดูแย่ลงเรื่อยๆ แม้เรื่องกินจะกินดีขึ้น แต่น้ำหนักตัวก็ค่อยๆลดลงเรื่อยๆ ค่าโปรตีนก็ตกลงไปมาก จนเกือบไม่มีแรงจะเดินเลย
ช่วงเดือน พค.มีอาการชักร่วมด้วย ญาติเลยพาเข้าแอดมิดที่รพ แต่หมอที่ผ่าตัดไม่รับเป็นเจ้าของไข้บอกว่าไม่สะดวก พยาบาลเลยติดต่อหมอท่านอื่นมาเป็นเจ้าของไข้แทน นอนให้อัลบูมินอยู่อาทิตย์กว่าก็ดีขึ้น หมอเลยให้ออกจาก รพ.ได้
ทั้งนี้เวลาหมอที่ผ่าตัดนัดลูกๆก็พาพ่อก็ไปตามนัดตลอด บางทีก็ก่อนนัด ทุกครั้งหมอก็บอกว่าต้องให้ร่างกายค่อยๆปรับตัว เดี่ยวก็ดีขึ้นเอง
พอถึงช่วงเดือน พค.ญาติเห็นว่าไม่ไหวแล้วเลยขอพบหมอก่อนนัดอีกครั้ง หมอเลยนัดให้ใส่สายฟีดอาหารทางจมูกให้แต่ผลกลับเป็นว่าพอฟีดอาหารแล้วพ่อจะถ่ายออกมาเลยเป็นนมที่ฟีดเข้าไปเลย
ญาติๆเห็นว่าดูเหมือนหมอจะไม่ได้ให้เวลาหรือตรวจคนไข้ละเอียดเท่าไหร่ เลยตัดสินใจย้ายกลับไปพบหมอที่ รพ.เอกชนเดิม ซึ่งหมอก็ให้ความใส่ใจมาก พยายามค้นหาสาเหตุอยู่อาทิตย์หนึ่ง จนพบว่า กระเพาะที่ผ่าตัดไปนั้นมันกลับไปเชื่อมกับลำไส้เล็กส่วนปลายแทนที่จะเป็นส่วนเจจูนั่ม ต้องผ่าตัดแก้ไข โดยต้องกลับมาให้หมอที่ผ่าตัดแก้ไขเอง ซึ่งหมอก็น่ารักมาก ขอเบอร์หมอผ่าตัดไปแล้วประสานให้จนได้กลับมารักษาที่ รพ.เดิม
เมื่อกลับมาที่ รพ.เดิม หมอก็ให้นอนให้สารอาหารทางเส้นเลือดดำกับ อัลบูมินอยู่สามเดือนจนได้ผ่าตัดราวปลายปีที่แล้ว ผลการผ่าตัดแก้ไขก็ดูเหมือนจะโอเคดี
แต่หลังผ่าตัดคราวนี้ร่างกายพ่อก็แย่ลงไปมาก ออกจาก รพ.คราวนี้ก็เดินไม่ค่อยไหวแล้ว ต้องมีคนคอยช่วยเหลือตลอด ก็ต้องค่อยๆฟื้นฟูกันหลายเดือน น้ำหนักถึงเพิ่มขึ้นมาบ้าง
จนมาสองเดือนที่แล้วพ่อเริ่มปวดท้องไม่ถ่ายหลายวันติดต่อกัน ญาติเห็นว่าไม่ค่อยดีอีกแล้วเลยพามาพบหมอ ผลตรวจก็พบว่าเป็นลำไส้อุดตันเพราะผังพืดไปพันลำไส้ ก็ต้องนอนอยู่ราวสองอาทิตย์ถึงได้กลับบ้านได้
แต่ว่ากลับบ้านคราวนี้ลูกๆสังเกตุว่าพ่อมีอาการแปลกไปจากเดิม คือ เริ่มท้องอืด พะอืดพะอม กินอาหารได้น้อยลง บางทีกินๆอยู่ก็อาเจียนออกมา แล้วก็เริ่มบ่อยมากขึ้นๆ จนเป็นเกือบทั้งวัน และทุกวัน
ลูกๆเลยตัดสินใจกลับมาพบหมอก่อนนัดอีกครั้ง โดยพึ่งนัดได้ต้นเดือน สค.นี้เอง เพื่อขอตรวจร่างกายอย่างส่องกล้อง ทำ ct scan หรือตรวจอย่างอื่นอย่างละเอียดดีกว่า หมอก็เลยให้แอดมิดเพื่อส่องกล้องทางเดินอาหารและทำ ct scan ช่องท้อง
หลังตรวจ ผลตรวจส่องกล้องนั้นไม่พบอะไร แต่ผลทำ ct scan กลับพบก้อนเนื้อหลายก้อนที่เยื่อบุช่องท้อง และในตับ หมอที่ผ่าตัดก็แจ้งว่าคงต้องทำใจ และก็แนะนำให้ปรึกษาหมอคีโมดูว่าจะรักษาต่อยังไง
ตอนนี้ลูกๆหนักใจมากเลยครับ เพราะพ่อเริ่มจะท้อแล้ว บ่นว่าไม่อยากรักษาแล้ว หาหมอผิดหรือเปล่า รักษาไม่หายสักที ไม่รู้เป็นอะไร ไม่อยากอยู่แล้วทรมาน คลื่นไส้ แน่นท้องตลอดเวลา
ผมเลยอยากขอคำปรึกษาหน่อยครับว่าผมควรจะทำยังไงดี ผลตรวจนี้ต้องมีการตรวจด้วยวิธีอื่นเพื่อยืนยันไหม ควรบอกพ่อไหม และควรเข้ารับการรักษาด้วยคีโมต่อไหมครับ มีวิธีรักษาแบบอื่นอีกไหม ถ้ารักษาต่อด้วยคีโม ควรต้องรู้อะไรที่จำเป็นบ้างครับ
ขอบคุณมากครับ