ผู้ต้องหากรณีรับส่วยหน้าวัดหัวลำโพง เจออาถรรพ์ห้องขังกองปราบปรามหลังถูกคุมตัวในห้องขัง โดยระบุว่า เขาเห็นวิญญาณชายสวมเสื้อสีแดง และวิญญาณผู้หญิงปรากฏตัว ช่วง 4 ทุ่ม เรื่องราวความอาถรรพ์ของห้องควบคุมผู้ต้องหา หรือห้องขังภายในกองปราบปราม ซึ่งเคยเป็นข่าวหลายต่อหลายครั้งถึงเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นถูกกล่าวถึงอีก โดยล่าสุด นายประเสริฐ พรมมิ เลขานุการมูลนิธิอุปถัมภ์บางรัก ที่ถูกผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพง
กล่าวหาว่าเรียกเก็บค่าคุ้มครอง จนถูกทหารคุมตัวมาขังที่กองปราบปราม เล่าว่า ขณะถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องขังได้พบเห็นวิญญาณผู้เสียชีวิตสวมเสื้อสีแดง ทำให้ไม่ได้นอนทั้งคืน โดยวิญญาณของชายคนดังกล่าว ขอร้องให้นายประเสริฐบอกกับผู้ต้องขังคนอื่น ให้นอนเรียงหัวชนกัน อย่านอนขวางเป็นแถวยาวปิดช่องทางเดิน เพราะถ้าวิญญาณเดินข้ามคนนอน จะทำให้มีบาปเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิญญาณของผู้หญิงอีก 1 คน ที่เดินวนเวียนไปมาตอนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ทุกคืน โดยเธอสวมใส่เสื้อผ้าชุดขาวดำ จะพบเห็นทุกคืนตอนช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม
จากคำบอกเล่าดังกล่าวทีมข่าวได้สอบถามไปยังหนึ่งใน ตำรวจที่เคยปฏิบัติหน้าที่ดูแลการคุมตัวผู้ต้องหา โดยเขาระบุว่า ความอาถรรพ์ของห้องขังกองปราบปราม เกิดขึ้นตั้งแต่กรณี นายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราหลานสาววัย 11 ปี ก่อเหตุผูกคอตายภายในห้องขัง โดยสวมเสื้อสีแดง รวมทั้งกรณีของ นายศักดิ์ชัย อุตตะละ อายุ 50 ปี อาจารย์ระดับประถมศึกษาโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดสกลนคร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำชำเราลูกศิษย์ตัวเอง พยายามผูกคอตายในห้องขังแห่งนี้ ซึ่งตำรวจช่วยไว้ได้ทัน แต่สุดท้ายก็กลับไปก่อเหตุผูกคอตายที่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัวในห้องขังหลายราย ได้พบเจอชายที่ไม่รู้จักใส่เสื้อสีแดง มาชักชวนให้ผูกคอตายหลายต่อหลายครั้ง กลายเป็นเรื่องเล่า ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ต้องขัง และตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่
ก่อนหน้านี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเคยถูกคุมตัวในห้องขัง เล่าเหตุการณ์ประหลาดที่พบเจอ โดยระบุว่า ขณะที่นอนหลับรู้สึกเหมือนมีคนสะกิดที่ขา จึงหรี่ตาดู ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่ง มานั่งที่ปลายเท้าและพยายามพูดชักชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน พร้อมทั้งสั่งให้ลุกไปอาบน้ำแปรงฟัน แต่ระหว่างนั้นนึกขึ้นได้ว่า ในห้องขังไม่มีคนอื่นอยู่ จึงคิดว่าฝันไป แต่เมื่อล้มตัวลงนอนอีกครั้งก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า ให้ไปนับซี่ลูกกรง เลือกเอาว่าจะเอาซี่ไหน ก่อนจะสอนวิธีการผูกคอตายเพื่อให้พ้นผิด จากคำบอกเล่านี้ทำให้ผู้ต้องขังหลายคนถึงกับหวาดกลัว เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 เคยมีการนิมนต์สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม พร้อมคณะสงฆ์มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ และพรมน้ำมนต์ ห้องทำงานภายในอาคารเพื่อเป็นศิริมงคล รวมถึงห้องควบคุมผู้ต้องหาดังกล่าวด้วย แต่แม้ว่าจะมีการทำพิธีไปแล้ว หลังจากนั้นก็ยังคงมีผู้ต้องหาอีกหลายรายที่เล่าว่าพบเจอเหตุการณ์อาถรรพ์อยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นนายประเสริฐ พรมมิ ผู้ต้องหารายล่าสุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.bugaboo.tv/watch/138373/
ผู้ต้องหาหลอนเจอวิญญาณชายสวมเสื้อแดงในห้องขังกองปราบเฮี้ยน
ผู้ต้องหากรณีรับส่วยหน้าวัดหัวลำโพง เจออาถรรพ์ห้องขังกองปราบปรามหลังถูกคุมตัวในห้องขัง โดยระบุว่า เขาเห็นวิญญาณชายสวมเสื้อสีแดง และวิญญาณผู้หญิงปรากฏตัว ช่วง 4 ทุ่ม เรื่องราวความอาถรรพ์ของห้องควบคุมผู้ต้องหา หรือห้องขังภายในกองปราบปราม ซึ่งเคยเป็นข่าวหลายต่อหลายครั้งถึงเหตุการณ์ลึกลับที่เกิดขึ้นถูกกล่าวถึงอีก โดยล่าสุด นายประเสริฐ พรมมิ เลขานุการมูลนิธิอุปถัมภ์บางรัก ที่ถูกผู้ค้าบริเวณหน้าวัดหัวลำโพง
กล่าวหาว่าเรียกเก็บค่าคุ้มครอง จนถูกทหารคุมตัวมาขังที่กองปราบปราม เล่าว่า ขณะถูกคุมตัวอยู่ที่ห้องขังได้พบเห็นวิญญาณผู้เสียชีวิตสวมเสื้อสีแดง ทำให้ไม่ได้นอนทั้งคืน โดยวิญญาณของชายคนดังกล่าว ขอร้องให้นายประเสริฐบอกกับผู้ต้องขังคนอื่น ให้นอนเรียงหัวชนกัน อย่านอนขวางเป็นแถวยาวปิดช่องทางเดิน เพราะถ้าวิญญาณเดินข้ามคนนอน จะทำให้มีบาปเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ยังมีวิญญาณของผู้หญิงอีก 1 คน ที่เดินวนเวียนไปมาตอนเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ทุกคืน โดยเธอสวมใส่เสื้อผ้าชุดขาวดำ จะพบเห็นทุกคืนตอนช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม
จากคำบอกเล่าดังกล่าวทีมข่าวได้สอบถามไปยังหนึ่งใน ตำรวจที่เคยปฏิบัติหน้าที่ดูแลการคุมตัวผู้ต้องหา โดยเขาระบุว่า ความอาถรรพ์ของห้องขังกองปราบปราม เกิดขึ้นตั้งแต่กรณี นายฉลาด เสนารัตน์ อายุ 40 ปี ผู้ต้องหาคดีข่มขืนกระทำชำเราหลานสาววัย 11 ปี ก่อเหตุผูกคอตายภายในห้องขัง โดยสวมเสื้อสีแดง รวมทั้งกรณีของ นายศักดิ์ชัย อุตตะละ อายุ 50 ปี อาจารย์ระดับประถมศึกษาโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จังหวัดสกลนคร ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหากระทำชำเราลูกศิษย์ตัวเอง พยายามผูกคอตายในห้องขังแห่งนี้ ซึ่งตำรวจช่วยไว้ได้ทัน แต่สุดท้ายก็กลับไปก่อเหตุผูกคอตายที่บ้าน ซึ่งที่ผ่านมามีผู้ต้องหาที่ถูกคุมตัวในห้องขังหลายราย ได้พบเจอชายที่ไม่รู้จักใส่เสื้อสีแดง มาชักชวนให้ผูกคอตายหลายต่อหลายครั้ง กลายเป็นเรื่องเล่า ที่สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้ต้องขัง และตำรวจซึ่งปฏิบัติหน้าที่
ก่อนหน้านี้ ยังมีผู้ต้องหาอีกรายซึ่งเคยถูกคุมตัวในห้องขัง เล่าเหตุการณ์ประหลาดที่พบเจอ โดยระบุว่า ขณะที่นอนหลับรู้สึกเหมือนมีคนสะกิดที่ขา จึงหรี่ตาดู ปรากฏว่ามีชายคนหนึ่ง มานั่งที่ปลายเท้าและพยายามพูดชักชวนให้ไปอยู่ด้วยกัน พร้อมทั้งสั่งให้ลุกไปอาบน้ำแปรงฟัน แต่ระหว่างนั้นนึกขึ้นได้ว่า ในห้องขังไม่มีคนอื่นอยู่ จึงคิดว่าฝันไป แต่เมื่อล้มตัวลงนอนอีกครั้งก็ได้ยินเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า ให้ไปนับซี่ลูกกรง เลือกเอาว่าจะเอาซี่ไหน ก่อนจะสอนวิธีการผูกคอตายเพื่อให้พ้นผิด จากคำบอกเล่านี้ทำให้ผู้ต้องขังหลายคนถึงกับหวาดกลัว เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2552 เคยมีการนิมนต์สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม พร้อมคณะสงฆ์มาสวดเจริญพระพุทธมนต์ และพรมน้ำมนต์ ห้องทำงานภายในอาคารเพื่อเป็นศิริมงคล รวมถึงห้องควบคุมผู้ต้องหาดังกล่าวด้วย แต่แม้ว่าจะมีการทำพิธีไปแล้ว หลังจากนั้นก็ยังคงมีผู้ต้องหาอีกหลายรายที่เล่าว่าพบเจอเหตุการณ์อาถรรพ์อยู่บ่อยครั้ง อย่างเช่นนายประเสริฐ พรมมิ ผู้ต้องหารายล่าสุด
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้