กระแสภาพยนตร์เรื่องBegin Again ทำให้หลายๆคนก็กลับมาพูดถึงภาพยนตร์เรื่องonce ภาพยนตร์เรื่องก่อนหน้าจากผกก.คนเดียวกัน
บางคนอาจจะไม่ทราบว่าonceได้ถูกนำมาสร้างเป็นละครเพลงด้วย
ซึ่งจขกท.ก็ได้ไปดูmusicalเรื่องนี้ที่London
เห็นช่วงนี้คนพูดถึงonceกัน เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ
(จริงๆอยากเขียนเป็นรีวิวแต่จขกท.ไม่เคยเขียนอะไรยาวๆมาก่อน นอกจากเรียงความส่งอาจารย์55
ไม่รู้เรียกรีวิวได้รึเปล่า เอาเป็นเล่าปสก.แล้วกัน ตรงไหนแปลกๆก็ขอโทษด้วยน้า)
ต้องบอกก่อนว่าจขกท.ชอบละครเวทีมากๆค่ะ ถึงจะเพิ่งเริ่มดูได้ปีสองก็ตาม
ปีที่แล้วจขกท.ได้ไปเที่ยวอังกฤษ
สำหรับคอละครเวทีสิ่งที่พลาดไม่ได้ถ้าไปอังกฤษเลยคือ west endค่ะ
จขกท.จองตั๋วละครเวทีไว้สองเรื่องคือ Billy Elliot the Musical และ Macbeth ที่เจมส์ แม็คอะวอยแสดง(ติ่งค่ะติ่ง55)
ทั้งสองเรื่องน่าประทับใจสุดๆ
ถ้าใครเคยไปอังกฤษจะเห็นตามสถานีunderground ว่าตามทางมีแต่ป้ายโฆษณาละครเวทีเรื่องต่างๆ
จขกท.รู้จักเรื่องonceก็เพราะป้ายโฆษณานี่แหละค่ะ เห็นแล้วรู้สึกว่าน่าดูมากๆ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามีภาพยนตร์มาก่อน
พอเห็นปุ๊บก็รีบจองตัวเลยค่ะ แต่ปรากฏว่าใกล้เต็มแล้วและเหลือแต่ที่แพงๆ ตอนนั้นอีกไม่กี่วันก็กลับไทยแล้ว+งบจะหมด ก็เลยล้มเลิกไป แต่ก็ยังติดใจมาตลอดว่าอยากดูมาก
โปสเตอร์แบบนี้ค่ะ แต่จะมีเขียนบอกด้วยว่าเรื่องนี้ได้รางวัลบลาๆๆ
เหมือนโชคชะตาจะเป็นใจ
ต้นปีที่ผ่านมาคุณแม่จขกท.มาบอกว่าอยากไปเที่ยวอังกฤษ
ได้ยินอย่างนั้น สิ่งที่จขกท.ทำอย่างแรกเลยคือ ดูรอบแสดงmusicalเรื่องonce(ก่อนหาตั๋วเครื่องบิน เตรียมเอกสารทำวีซ่าฯลฯอีกค่ะ55)
สุดท้ายจขกท.ก็ได้ดูมิวสิคัลเรื่องนี้ในวันที่12เม.ย. รอบบ่ายค่ะ
Once, a new musical แสดงอยู่ที่Phoenix Theatre, London
โรงละครนี้เป็นโรงละครเล็กๆ ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการแต่สำหรับจขกท.แล้ว โรงละครเล็กๆแบบนี้จะให้ความรู้สึกใกล้ชิดและเข้าถึงการแสดงได้มากกว่า
รวมถึงการใส่ลูกเล่นแปลกใหม่ เล่นกับผู้ชมได้มากกว่าด้วยค่ะ
ความประทับใจแรกจากมิวสิคคัลเรื่องนี้คือ
ขณะเราเดินเข้าไปในโรงละครจะได้ยินเสียงดนตรีแว่วมา ซึ่งปกติโรงละครจะไม่เปิดเพลงก่อนแสดงอยู่แล้วนะคะ
จขกท.ก็คิดว่าหรือเขาเริ่มแสดงแล้วก็รีบเดินเลยค่ะ55
เข้าไปในโรงละครก็เห็นนักแสดงกำลังร้องเพลงเล่นดนตรีกันเต็มเวที
แต่เอ๊ะ ไฟยังเปิดให้คนเดินอยู่ ที่นั่งก็ว่างเยอะมาก ตกลงมันเริ่มรึยัง หรือยังไง
จขกท.ที่งงๆก็เข้าไปนั่งที่ตัวเอง พอนั่งแล้วก็ได้สังเกตชัดๆค่ะ
บนเวทีไม่ได้มีแค่นักแสดงที่กำลังร้องเล่นดนตรีอย่างสนุกสนาน แต่มีผู้ชมที่ขึ้นไปร่วมด้วย ข้างหลังกลุ่มคนที่ร้องเล่นดนตรีเป็นบาร์ ผู้ชมสามารถขึ้นไปซื้อsnackหรือเครื่องดื่ม แล้วยืนชมการแสดงดนตรีอย่าใกล้ชิดรวมถึงพูดคุยสนทนากับนักแสดง
บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเองแบบนี้ สร้างความประทับใจให้คนดูตั้งแต่ก่อนเริ่มแสดงเสียอีก ถึงแม้จขกท.จะไม่กล้าขึ้นไปแต่แค่ได้เห็นก็รู้สึกดีสุดๆ
ปกติแล้วบาร์ขายsnackและเครื่องดื่มจะอยู่ข้างนอกโรง แต่ที่นี่เรียกได้ว่าใช้สถานที่ได้คุ้มและสร้างสรรค์มากๆเพราะนอกจากจะให้ขายของก่อนเริ่มและช่วงพักแล้ว บาร์นี้ก็เป็นฉากของเรื่องด้วย
เมื่อจะเริ่มแสดงก็จะมีเจ้าหน้าที่เชิญคนดูลงจากเวที และเมื่อทุกอย่างเข้าที่ก็ปิดไฟและเริ่มแสดง
ละครเวทีที่นี่จะต่างจากที่ไทยตรงที่เมื่อถึงเวลาจะเริ่มแสดงเลย ไม่มีเกริ่นนำอะไรทั้งนั้น
ตอนนั้นเองจขกท.สังเกตเห็นอีกอย่างนึงคือ เวทีนี้ไม่มีม่านค่ะ(จริงๆก็น่าจะรู้อยู่แล้วเพราะโรงละครเล็กส่วนใหญ่ก็ไม่มีม่าน55)
อีกอย่างนึงคือ เรื่องนี้ ไม่มีวงออเคสตราหรือวงดนตรีอะไรทั้งนั้นอยู่ในหลุม ดนตรีก็เล่นกันสดๆเลยค่ะ หมายถึงนั่งเล่นให้คนดูเห็นสดๆอยู่ริมสองฝั่งของเวที ซึ่งนักดนตรีก็คือนักแสดงนี่แหละค่ะ สลับกันเล่นสลับกันนั่งไปมา
นักแสดงเรื่องนี้มีไม่เยอะ เปลี่ยนฉากทีก็เอานักแสดงนี่แหละเข็นฉากออกมา บางครั้งก็เอานักแสดงที่เล่นดนตรีอยู่สองฝั่งเวทีมาดึงดูดความสนใจขณะเปลี่ยนฉาก
ซึ่งก็ทำได้กลมกลืนและลื่นไหล ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงเลยค่ะ
Once มีการนำเสนอที่แปลกใหม่
เราจะเห็นได้ว่าฉากหลังนั้นเต็มไปด้วยกระจกเอียงๆหลายบาน
ลองจิตนาการดูนะคะ เมื่อนักแสดงเล่นดนตรี กระจกแต่ละบานจะสะท้อนหลายมุมที่ต่างกันออกไป เราจะเห็นใบหน้าในมุมต่างๆ เห็นนิ้วมือที่เคลื่อนไหวไปตามแป้นเปียโนอย่างชัดเจน มันเป็นอะไรที่...ละเอียดอ่อน หาคำอธิบายไม่ค่อยถูก แต่มันงดงามมากๆ ทำให้ความรู้สึกถูกถ่ายทอดมายังคนดูได้เป็นอย่างดี
เนื้อเรื่องของmusicalจะต่างจากในภาพยนตร์เล็กน้อย เช่นในmusical แฟนเก่าพระเอกอยู่NY ลำดับเนื้อเรื่องต่างกันนิดหน่อย เพื่อมุกตลกเข้าไป มีตัวละครเพิ่ม เพลงเพิ่มฯลฯ
การกระทำเช่นนี้ทำให้เนื้อเรื่องลื่นไหลมากขึ้น คนดูสนุกสนาน
เรื่องเต็มไปด้วยสเน่ห์ ลงตัวและกลมกล่อมกับเพลงเพราะๆจากภาพยนตร์ต้นฉบับ
Once, a new musical ไม่ได้เป็นแค่มิวสิคเคิลน้องใหม่ แต่เป็นมิวสิคเคิลสดใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่ฉีกแนวไปจากมิวสิคเคิลแบบเดิมๆที่เน้นความอลังการ
ใครที่ชื่นชอบการดูมิวสิคเคิล หรือชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องonce หากมีโอกาส อยากให้ลองไปชมmusicalเรื่องนี้กันนะคะ (ไม่ใช่หน้าม้าแต่อวยเต็มที่เลย แฮะๆ)
ปล.รูปจขกท.เอามาจากเน็ตนะคะ บางรูปเป็นของบรอดเวย์ อเมริกาด้วย แฮะๆ
เพิ่มเติม
-musical เรื่องนี้ชนะสองรางวัล Olivier Award, แปดรางวัลTony® Award และหนึ่งรางวัล Grammy Award
เล่า+รีวิว Once the Musical, London
บางคนอาจจะไม่ทราบว่าonceได้ถูกนำมาสร้างเป็นละครเพลงด้วย
ซึ่งจขกท.ก็ได้ไปดูmusicalเรื่องนี้ที่London
เห็นช่วงนี้คนพูดถึงonceกัน เลยอยากมาเล่าประสบการณ์ให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ
(จริงๆอยากเขียนเป็นรีวิวแต่จขกท.ไม่เคยเขียนอะไรยาวๆมาก่อน นอกจากเรียงความส่งอาจารย์55
ไม่รู้เรียกรีวิวได้รึเปล่า เอาเป็นเล่าปสก.แล้วกัน ตรงไหนแปลกๆก็ขอโทษด้วยน้า)
ต้องบอกก่อนว่าจขกท.ชอบละครเวทีมากๆค่ะ ถึงจะเพิ่งเริ่มดูได้ปีสองก็ตาม
ปีที่แล้วจขกท.ได้ไปเที่ยวอังกฤษ
สำหรับคอละครเวทีสิ่งที่พลาดไม่ได้ถ้าไปอังกฤษเลยคือ west endค่ะ
จขกท.จองตั๋วละครเวทีไว้สองเรื่องคือ Billy Elliot the Musical และ Macbeth ที่เจมส์ แม็คอะวอยแสดง(ติ่งค่ะติ่ง55)
ทั้งสองเรื่องน่าประทับใจสุดๆ
ถ้าใครเคยไปอังกฤษจะเห็นตามสถานีunderground ว่าตามทางมีแต่ป้ายโฆษณาละครเวทีเรื่องต่างๆ
จขกท.รู้จักเรื่องonceก็เพราะป้ายโฆษณานี่แหละค่ะ เห็นแล้วรู้สึกว่าน่าดูมากๆ ทั้งๆที่ไม่รู้ว่ามีภาพยนตร์มาก่อน
พอเห็นปุ๊บก็รีบจองตัวเลยค่ะ แต่ปรากฏว่าใกล้เต็มแล้วและเหลือแต่ที่แพงๆ ตอนนั้นอีกไม่กี่วันก็กลับไทยแล้ว+งบจะหมด ก็เลยล้มเลิกไป แต่ก็ยังติดใจมาตลอดว่าอยากดูมาก
โปสเตอร์แบบนี้ค่ะ แต่จะมีเขียนบอกด้วยว่าเรื่องนี้ได้รางวัลบลาๆๆ
เหมือนโชคชะตาจะเป็นใจ
ต้นปีที่ผ่านมาคุณแม่จขกท.มาบอกว่าอยากไปเที่ยวอังกฤษ
ได้ยินอย่างนั้น สิ่งที่จขกท.ทำอย่างแรกเลยคือ ดูรอบแสดงmusicalเรื่องonce(ก่อนหาตั๋วเครื่องบิน เตรียมเอกสารทำวีซ่าฯลฯอีกค่ะ55)
สุดท้ายจขกท.ก็ได้ดูมิวสิคัลเรื่องนี้ในวันที่12เม.ย. รอบบ่ายค่ะ
Once, a new musical แสดงอยู่ที่Phoenix Theatre, London
โรงละครนี้เป็นโรงละครเล็กๆ ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่อลังการแต่สำหรับจขกท.แล้ว โรงละครเล็กๆแบบนี้จะให้ความรู้สึกใกล้ชิดและเข้าถึงการแสดงได้มากกว่า
รวมถึงการใส่ลูกเล่นแปลกใหม่ เล่นกับผู้ชมได้มากกว่าด้วยค่ะ
ความประทับใจแรกจากมิวสิคคัลเรื่องนี้คือ
ขณะเราเดินเข้าไปในโรงละครจะได้ยินเสียงดนตรีแว่วมา ซึ่งปกติโรงละครจะไม่เปิดเพลงก่อนแสดงอยู่แล้วนะคะ
จขกท.ก็คิดว่าหรือเขาเริ่มแสดงแล้วก็รีบเดินเลยค่ะ55
เข้าไปในโรงละครก็เห็นนักแสดงกำลังร้องเพลงเล่นดนตรีกันเต็มเวที
แต่เอ๊ะ ไฟยังเปิดให้คนเดินอยู่ ที่นั่งก็ว่างเยอะมาก ตกลงมันเริ่มรึยัง หรือยังไง
จขกท.ที่งงๆก็เข้าไปนั่งที่ตัวเอง พอนั่งแล้วก็ได้สังเกตชัดๆค่ะ
บนเวทีไม่ได้มีแค่นักแสดงที่กำลังร้องเล่นดนตรีอย่างสนุกสนาน แต่มีผู้ชมที่ขึ้นไปร่วมด้วย ข้างหลังกลุ่มคนที่ร้องเล่นดนตรีเป็นบาร์ ผู้ชมสามารถขึ้นไปซื้อsnackหรือเครื่องดื่ม แล้วยืนชมการแสดงดนตรีอย่าใกล้ชิดรวมถึงพูดคุยสนทนากับนักแสดง
บรรยากาศสนุกสนานเป็นกันเองแบบนี้ สร้างความประทับใจให้คนดูตั้งแต่ก่อนเริ่มแสดงเสียอีก ถึงแม้จขกท.จะไม่กล้าขึ้นไปแต่แค่ได้เห็นก็รู้สึกดีสุดๆ
ปกติแล้วบาร์ขายsnackและเครื่องดื่มจะอยู่ข้างนอกโรง แต่ที่นี่เรียกได้ว่าใช้สถานที่ได้คุ้มและสร้างสรรค์มากๆเพราะนอกจากจะให้ขายของก่อนเริ่มและช่วงพักแล้ว บาร์นี้ก็เป็นฉากของเรื่องด้วย
เมื่อจะเริ่มแสดงก็จะมีเจ้าหน้าที่เชิญคนดูลงจากเวที และเมื่อทุกอย่างเข้าที่ก็ปิดไฟและเริ่มแสดง
ละครเวทีที่นี่จะต่างจากที่ไทยตรงที่เมื่อถึงเวลาจะเริ่มแสดงเลย ไม่มีเกริ่นนำอะไรทั้งนั้น
ตอนนั้นเองจขกท.สังเกตเห็นอีกอย่างนึงคือ เวทีนี้ไม่มีม่านค่ะ(จริงๆก็น่าจะรู้อยู่แล้วเพราะโรงละครเล็กส่วนใหญ่ก็ไม่มีม่าน55)
อีกอย่างนึงคือ เรื่องนี้ ไม่มีวงออเคสตราหรือวงดนตรีอะไรทั้งนั้นอยู่ในหลุม ดนตรีก็เล่นกันสดๆเลยค่ะ หมายถึงนั่งเล่นให้คนดูเห็นสดๆอยู่ริมสองฝั่งของเวที ซึ่งนักดนตรีก็คือนักแสดงนี่แหละค่ะ สลับกันเล่นสลับกันนั่งไปมา
นักแสดงเรื่องนี้มีไม่เยอะ เปลี่ยนฉากทีก็เอานักแสดงนี่แหละเข็นฉากออกมา บางครั้งก็เอานักแสดงที่เล่นดนตรีอยู่สองฝั่งเวทีมาดึงดูดความสนใจขณะเปลี่ยนฉาก
ซึ่งก็ทำได้กลมกลืนและลื่นไหล ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงเลยค่ะ
Once มีการนำเสนอที่แปลกใหม่
เราจะเห็นได้ว่าฉากหลังนั้นเต็มไปด้วยกระจกเอียงๆหลายบาน
ลองจิตนาการดูนะคะ เมื่อนักแสดงเล่นดนตรี กระจกแต่ละบานจะสะท้อนหลายมุมที่ต่างกันออกไป เราจะเห็นใบหน้าในมุมต่างๆ เห็นนิ้วมือที่เคลื่อนไหวไปตามแป้นเปียโนอย่างชัดเจน มันเป็นอะไรที่...ละเอียดอ่อน หาคำอธิบายไม่ค่อยถูก แต่มันงดงามมากๆ ทำให้ความรู้สึกถูกถ่ายทอดมายังคนดูได้เป็นอย่างดี
เนื้อเรื่องของmusicalจะต่างจากในภาพยนตร์เล็กน้อย เช่นในmusical แฟนเก่าพระเอกอยู่NY ลำดับเนื้อเรื่องต่างกันนิดหน่อย เพื่อมุกตลกเข้าไป มีตัวละครเพิ่ม เพลงเพิ่มฯลฯ
การกระทำเช่นนี้ทำให้เนื้อเรื่องลื่นไหลมากขึ้น คนดูสนุกสนาน เรื่องเต็มไปด้วยสเน่ห์ ลงตัวและกลมกล่อมกับเพลงเพราะๆจากภาพยนตร์ต้นฉบับ
Once, a new musical ไม่ได้เป็นแค่มิวสิคเคิลน้องใหม่ แต่เป็นมิวสิคเคิลสดใหม่ของคนรุ่นใหม่ ที่ฉีกแนวไปจากมิวสิคเคิลแบบเดิมๆที่เน้นความอลังการ
ใครที่ชื่นชอบการดูมิวสิคเคิล หรือชื่นชอบภาพยนตร์เรื่องonce หากมีโอกาส อยากให้ลองไปชมmusicalเรื่องนี้กันนะคะ (ไม่ใช่หน้าม้าแต่อวยเต็มที่เลย แฮะๆ)
ปล.รูปจขกท.เอามาจากเน็ตนะคะ บางรูปเป็นของบรอดเวย์ อเมริกาด้วย แฮะๆ
เพิ่มเติม
-musical เรื่องนี้ชนะสองรางวัล Olivier Award, แปดรางวัลTony® Award และหนึ่งรางวัล Grammy Award