Les Miserables ผลงานการกำกับของทอม ฮูปเปอร์ ที่ร่วมกับ คาเมรอน แมคอินทอช เจ้าของโปรดักชั่นละครเพลงสุดยิ่งใหญ่เรื่องนนี้ที่โด่งดังและขึ้นแท่นเป็น World Run longing The Musical หรือละครเวทีที่แสดงติดต่อยาวนานมากที่สุดถูกนำมาสร้างเป็นภาพยนตร์เพลงโดยการยกบทละครเพลงและเพลงทั้งหมดของมิวสิคัลเรื่องนี้มาไว้ในรูปแบบหนังผ่านการแสดงอันยอดเยี่ยมของนักแสดงชั้นนำที่ใครหลายๆคนเรียกหนังเรื่องนี้ว่าหนังรวมดารา
สำหรับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ Les Miserables ดัดแปลงมาจากละครเพลงซึ่งทำให้การเดินเรื่องทั้งหมดเป็นการร้องเพลงและมีส่วนของการพูดแค่ไม่กี่ประโยคนอกจากนี้เพลงที่ใช้ยังเป็นเพลงที่อยู่ในบทละครเพลงดั้งเดิมที่ประพันธ์โดย Claude-Michel Schönberg หนึ่งในผู้ที่ประพันธ์เพลงและบทละครให้กับมิสไซง่อน
หนังแตกออกเป็นหลายประเด็นเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ผ่านเรื่องราวทั้งหมด โดยมีทั้งประเด็นเกี่ยวกับความฝัน ความรัก การให้อภัย การเสียสละ มิตรภาพ การสำนึกผิด หน้าที่ สภาพการเมืองและการปฏิวัติฝรั่งเศส จากการที่บทละครเพลงดั้งเดิมมีความซับซ้อนอยู่แล้วและแตกประเด็นออกไปหลากหลายอีก อาจจะทำให้คนที่ไม่เคยดูฉบับมิวสิคัลอาจจะต้อง งง ถึง งงมากกับการแสดงในบางฉาก ในส่วนของการแสดงของนักแสดงต้องเรียกได้ว่าสอบผ่านเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะ Hugh jackman Ann Hathaway Samantha Barks (ที่ได้รับบทเอโปนีนทั้งในเวอร์ชั่นละครเวทีและภาพยนตร์ คาเมรอนบอกว่าเธอคือ Castที่ยอดเยี่ยมที่สุด )
ในส่วนของการเพิ่มเติมจากเวอร์ชั่นละครเวทีก็จะมีการเพิ่มเพลงใหม่ขึ้นมาบ้างและการจัดเรียงลำดับเพลงและฉากใหม่เพื่อเชื่อมโยงอารมณ์ให้กับคนดู โดยเฉพาะฉาก i dreamed a dream ที่ดูในละครเวทีไม่เคยจะร้องไห้เลยแต่ในเวอร์ชั่นนี้น้ำตาแตกตั้งแต่ต้นเรื่อง,on my own, a little fall of rain,Drink with me ที่แอบทำให้คนดูน้ำตาซึมตามไปด้วย ในส่วนของระบบเสียงที่อัดสดนั้นมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคือการมันทำให้สัมผัสถึงอารมณ์นักแสดงแบบสดๆเหมือนการได้ดูรูปแบบละครเวทีเลย แต่ข้อด้วยคือนักแสดงบางคนเสียงร้องยังไม่ค่อยเวิร์คมากเท่าไหร่ทำให้มีคนวิจารณ์มาบ้างว่าควรจะเปลี่ยนไปอัดทับแบบเดิมดีกว่า ซึ่งข้อแนะนำของการจะไปดู Les Mis ผู้ชมควรจะมีการอ่านเรื่องย่อไปก่อนเพราะไม่งั้นอาจจะจับต้นชนปลายยาก หรือ ควรทำการบ้านเพิ่มด้วยการฟังเพลงให้ติดหูไว้บ้างจะรู้สึกร่วมกับหนังมากขึ้น ซึ่งหลังจากชมมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนดูว่าเคยสัมผัสกับ Les Mis มามากน้อยแค่ไหน ถ้าคนที่เคยดูละครเวทีแล้วจะรู้สึกว่าอิ่มเอมกับเวอร์ชั่นนี้มาก แต่ถ้าคนที่ไม่เคยสัมผัสเลยอาจจะประทับใจหรือไม่ประทำใจก็ได้
” Take my hand And lead me to salvation
Take my love For love is everlasting
And remember The truth that once was spoken
To love another person is to see the face of god “
(Les Miserables Finale)
คุยกันต่อเกี่ยวกับหนังและมิวสิคัลได้ที่ twitter @Sanookos
Les Miserables….หัวใจเปี่ยมไปด้วยเพลง (รีวิว No สปอยล์)
สำหรับเวอร์ชั่นภาพยนตร์ของ Les Miserables ดัดแปลงมาจากละครเพลงซึ่งทำให้การเดินเรื่องทั้งหมดเป็นการร้องเพลงและมีส่วนของการพูดแค่ไม่กี่ประโยคนอกจากนี้เพลงที่ใช้ยังเป็นเพลงที่อยู่ในบทละครเพลงดั้งเดิมที่ประพันธ์โดย Claude-Michel Schönberg หนึ่งในผู้ที่ประพันธ์เพลงและบทละครให้กับมิสไซง่อน
หนังแตกออกเป็นหลายประเด็นเกี่ยวกับชีวิตมนุษย์ผ่านเรื่องราวทั้งหมด โดยมีทั้งประเด็นเกี่ยวกับความฝัน ความรัก การให้อภัย การเสียสละ มิตรภาพ การสำนึกผิด หน้าที่ สภาพการเมืองและการปฏิวัติฝรั่งเศส จากการที่บทละครเพลงดั้งเดิมมีความซับซ้อนอยู่แล้วและแตกประเด็นออกไปหลากหลายอีก อาจจะทำให้คนที่ไม่เคยดูฉบับมิวสิคัลอาจจะต้อง งง ถึง งงมากกับการแสดงในบางฉาก ในส่วนของการแสดงของนักแสดงต้องเรียกได้ว่าสอบผ่านเกินร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยเฉพาะ Hugh jackman Ann Hathaway Samantha Barks (ที่ได้รับบทเอโปนีนทั้งในเวอร์ชั่นละครเวทีและภาพยนตร์ คาเมรอนบอกว่าเธอคือ Castที่ยอดเยี่ยมที่สุด )
ในส่วนของการเพิ่มเติมจากเวอร์ชั่นละครเวทีก็จะมีการเพิ่มเพลงใหม่ขึ้นมาบ้างและการจัดเรียงลำดับเพลงและฉากใหม่เพื่อเชื่อมโยงอารมณ์ให้กับคนดู โดยเฉพาะฉาก i dreamed a dream ที่ดูในละครเวทีไม่เคยจะร้องไห้เลยแต่ในเวอร์ชั่นนี้น้ำตาแตกตั้งแต่ต้นเรื่อง,on my own, a little fall of rain,Drink with me ที่แอบทำให้คนดูน้ำตาซึมตามไปด้วย ในส่วนของระบบเสียงที่อัดสดนั้นมีทั้งข้อดีและข้อด้อย ข้อดีคือการมันทำให้สัมผัสถึงอารมณ์นักแสดงแบบสดๆเหมือนการได้ดูรูปแบบละครเวทีเลย แต่ข้อด้วยคือนักแสดงบางคนเสียงร้องยังไม่ค่อยเวิร์คมากเท่าไหร่ทำให้มีคนวิจารณ์มาบ้างว่าควรจะเปลี่ยนไปอัดทับแบบเดิมดีกว่า ซึ่งข้อแนะนำของการจะไปดู Les Mis ผู้ชมควรจะมีการอ่านเรื่องย่อไปก่อนเพราะไม่งั้นอาจจะจับต้นชนปลายยาก หรือ ควรทำการบ้านเพิ่มด้วยการฟังเพลงให้ติดหูไว้บ้างจะรู้สึกร่วมกับหนังมากขึ้น ซึ่งหลังจากชมมีหลายเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบ ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของคนดูว่าเคยสัมผัสกับ Les Mis มามากน้อยแค่ไหน ถ้าคนที่เคยดูละครเวทีแล้วจะรู้สึกว่าอิ่มเอมกับเวอร์ชั่นนี้มาก แต่ถ้าคนที่ไม่เคยสัมผัสเลยอาจจะประทับใจหรือไม่ประทำใจก็ได้
Take my love For love is everlasting
And remember The truth that once was spoken
To love another person is to see the face of god “
(Les Miserables Finale)
คุยกันต่อเกี่ยวกับหนังและมิวสิคัลได้ที่ twitter @Sanookos