ความรัก ยิ่งวิ่งตาม มันเหมือนยิ่งออกห่างจากตัวเรานะครับ
ผมป้วนเปี้ยนอยู่ห้องสยามมาค่อนข้างนานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ตอบหรือตั้งกระทู้อะไรเท่าไร
สักเกือบสองปีที่แล้ว เคยได้เข้ามาเป็นขาประจำเพราะคุณนิ้วแนวแท้ๆ เลย
(ใครคิดถึงคุณนิ้วแนวบ้างครับ?)
วันนั้นผมก็ได้ตั้งกระทู้คล้ายๆ ลักษณะนี้ . . .ก็ได้พบเจอพูดคุยกับเพื่อนมากมายในห้องนี้ครับ
แต่มีคนนึง เราคุยกันถูกคอ จากนานๆ คุยที กลายเป็นคุยกันทุกวัน มีช่วงหนึ่ง เขาโทรไลน์มาทุกวันเลยครับ
จากแรกๆ ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขา เป็น 0 มันค่อยๆ เพิ่มทีละนิด ทีละนิด
เราคุยกันโดยยังไม่เจอตัวจริงกันนะครับ เพราะเขามีภาระกิจอยู่ต่างประเทศ . . . เราคุยกันแบบนี้ ทุกวัน จนเกือบปี
จนสิงหาปีที่แล้ว เราได้เจอกันเป็นครั้งแรก . . . ผมกับเขาก็ไปดูหนังกัน 2 วัน . . .เรามีเวลาเจอกันแค่นั้นครับ จากนั้นเขาต้องบินกลับไปต่างประเทศ
เราก็ยังคงคุยกันผ่านไลน์เรื่อยๆมา . . . จนมารู้ตัวอีกที ผมก็รู้สึกว่าผมขาดเขาไม่ได้แล้วครับ . . . ผมรวมรวมความกล้าบอกความรู้สึกที่ผมมีต่อเขาออกไป โดยอัดเป็นคลิปเสียงส่งไปให้เขาเปิดฟัง . . . ผมคิดอยู่นานนะครับกว่าจะบอกออกไปได้
เขาได้ฟัง เขาก็ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อเขา แต่ . . . เขาไม่สามารถให้คำตอบอะไรผมได้ เพราะเขายังไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ . . .ถามว่าผมเสียใจไหม . . . ถ้าบอกว่าไม่เสียใจก็คงจะโกหกใช่ไหมครับ . . เสียใจมากครับตอนนั้น รู้สึกเหมือนอกหักเลยทีเดียว . . .แต่พอเวลาผ่านไปหลายๆ อาทิตย์ ผมก็คิดได้ว่า ทำไมผมเห็นแก่ตัวแบบนี้. . . เหมือนผมรู้สึกเองเออเองคนเดียว แล้วคิดไปเองว่าเราต้องบังคับให้เขารู้สึกแบบเดียวกับเราเลย. . .
จากวันนั้นมา คงเป็นผมเองที่เริ่มเปลี่ยนไป เราเริ่มคุยกันน้อยลงครับ . . . เรื่องต่างๆที่เราเคยคุยกันแล้วมันทำให้หัวใจพอโตนั้น ค่อยๆ เลือนหายไป เราเริ่มคุยแบบเว้นระยะมากขึ้น . . .
จนมาช่วงนึง ผมเริ่มรู้สึกว่า เขามีคนรู้จักคนใหม่ . . . คนๆ นั้น ผมก็รู้จักเช่นกันครับ . . .(ขอไม่บอกว่ารู้จักจากทางไหนก็แล้วกันนะครับ) เขาสองคนสนิทกันเร็วมาก . . . ผมเริ่มสังเกตอะไรต่างๆ มากขึ้น . . . ผมเคยถามเขาตรงๆ นะครับว่า เขาสองคนนั้น มีอะไรพิเศษๆ คุยกันอยู่หรือเปล่า. . . ตัวเขาเองก็บอกผมว่า ไม่มีนะครับ . . .บอกว่าผมคิดมากไป . . .
จนถึงวันนี้ จากหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา . . . ผมรู้สึกได้ว่า อีกคนของเขาคนนั้นได้เข้ามาแทนที่ผม. . .ที่ทีผมเคยอยู่สำหรับเขามาก่อนหน้านี้. . . ทั้งความผูกพันธ์ การพูดคุย หรืออะไรต่างๆ . . .มันทำให้ผมตอนนี้รู้สึกทิ้งระยะห่างจากเขาสองคนมากขึ้นครับ
...
เขาไม่ผิดหรอกนะครับ เพราะเรายังไม่เคยเป็นอะไรกันเกินคำว่าเพื่อนเลย . . . มันอาจจะเป็นที่ผมเอง ที่คิดเองไปคนเดียว. . . เขาเคยบอกผมว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมคือเพื่อนรักของเขาเสมอ. . .แต่ทำไมรู้ไหมครับ . . .ผมไม่สามารถคิดกับเขาเป็นแค่เพื่อนได้อีกแล้ว. . .
ผมอยากใช้เวลากับเขาให้มากกว่านี้ ผมอยากจะลองคบ อยากจะลองทำ ลองศึกษาเขาให้มากกว่านี้ แต่โอกาสนั้นสำหรับผมมันคงไม่มีแล้วล่ะครับ. . . อีกคนหนึ่งที่มาแทนที่ผม เขานิสัยดีซะด้วยสิ. . .ผมแพ้ราบคาบเลย
ตอนนี้ผมเลยพยายามที่จะออกห่างจากเขาให้ได้มากที่สุด พยายามปิดเฟสบุค ไม่คุยกับเขา . . . แต่มันอดได้ไม่เคยเกินครึ่งวันเลยครับ . . .ต้องมานั่งดูเฟสบุคเขาตลอด นั่งดูว่าเขาว่างอยู่หรือเปล่านะ เขาจะคุยกับเราไหมนะ. . ฟุ้งซ่านมากครับ. . .
อารัมภบทมาซะยาวเลย . . . ผมไม่มีที่ระบายจริงๆครับ เลยอยากพิมพ์ไว้ เผื่อมีใครกำลังอยู่ในอารมณ์เดียวกับผม เรามาให้กำลังใจกันนะครับ
ใครเหงาบ้างยกมือครับ
[Y] สมาคมคนเหงาๆ มาคุยกันไหมครับ
ผมป้วนเปี้ยนอยู่ห้องสยามมาค่อนข้างนานแล้ว แต่ไม่ค่อยได้ตอบหรือตั้งกระทู้อะไรเท่าไร
สักเกือบสองปีที่แล้ว เคยได้เข้ามาเป็นขาประจำเพราะคุณนิ้วแนวแท้ๆ เลย
(ใครคิดถึงคุณนิ้วแนวบ้างครับ?)
วันนั้นผมก็ได้ตั้งกระทู้คล้ายๆ ลักษณะนี้ . . .ก็ได้พบเจอพูดคุยกับเพื่อนมากมายในห้องนี้ครับ
แต่มีคนนึง เราคุยกันถูกคอ จากนานๆ คุยที กลายเป็นคุยกันทุกวัน มีช่วงหนึ่ง เขาโทรไลน์มาทุกวันเลยครับ
จากแรกๆ ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขา เป็น 0 มันค่อยๆ เพิ่มทีละนิด ทีละนิด
เราคุยกันโดยยังไม่เจอตัวจริงกันนะครับ เพราะเขามีภาระกิจอยู่ต่างประเทศ . . . เราคุยกันแบบนี้ ทุกวัน จนเกือบปี
จนสิงหาปีที่แล้ว เราได้เจอกันเป็นครั้งแรก . . . ผมกับเขาก็ไปดูหนังกัน 2 วัน . . .เรามีเวลาเจอกันแค่นั้นครับ จากนั้นเขาต้องบินกลับไปต่างประเทศ
เราก็ยังคงคุยกันผ่านไลน์เรื่อยๆมา . . . จนมารู้ตัวอีกที ผมก็รู้สึกว่าผมขาดเขาไม่ได้แล้วครับ . . . ผมรวมรวมความกล้าบอกความรู้สึกที่ผมมีต่อเขาออกไป โดยอัดเป็นคลิปเสียงส่งไปให้เขาเปิดฟัง . . . ผมคิดอยู่นานนะครับกว่าจะบอกออกไปได้
เขาได้ฟัง เขาก็ขอบคุณสำหรับความรู้สึกดีๆ ที่ผมมีต่อเขา แต่ . . . เขาไม่สามารถให้คำตอบอะไรผมได้ เพราะเขายังไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ . . .ถามว่าผมเสียใจไหม . . . ถ้าบอกว่าไม่เสียใจก็คงจะโกหกใช่ไหมครับ . . เสียใจมากครับตอนนั้น รู้สึกเหมือนอกหักเลยทีเดียว . . .แต่พอเวลาผ่านไปหลายๆ อาทิตย์ ผมก็คิดได้ว่า ทำไมผมเห็นแก่ตัวแบบนี้. . . เหมือนผมรู้สึกเองเออเองคนเดียว แล้วคิดไปเองว่าเราต้องบังคับให้เขารู้สึกแบบเดียวกับเราเลย. . .
จากวันนั้นมา คงเป็นผมเองที่เริ่มเปลี่ยนไป เราเริ่มคุยกันน้อยลงครับ . . . เรื่องต่างๆที่เราเคยคุยกันแล้วมันทำให้หัวใจพอโตนั้น ค่อยๆ เลือนหายไป เราเริ่มคุยแบบเว้นระยะมากขึ้น . . .
จนมาช่วงนึง ผมเริ่มรู้สึกว่า เขามีคนรู้จักคนใหม่ . . . คนๆ นั้น ผมก็รู้จักเช่นกันครับ . . .(ขอไม่บอกว่ารู้จักจากทางไหนก็แล้วกันนะครับ) เขาสองคนสนิทกันเร็วมาก . . . ผมเริ่มสังเกตอะไรต่างๆ มากขึ้น . . . ผมเคยถามเขาตรงๆ นะครับว่า เขาสองคนนั้น มีอะไรพิเศษๆ คุยกันอยู่หรือเปล่า. . . ตัวเขาเองก็บอกผมว่า ไม่มีนะครับ . . .บอกว่าผมคิดมากไป . . .
จนถึงวันนี้ จากหลายๆเหตุการณ์ที่ผ่านมา . . . ผมรู้สึกได้ว่า อีกคนของเขาคนนั้นได้เข้ามาแทนที่ผม. . .ที่ทีผมเคยอยู่สำหรับเขามาก่อนหน้านี้. . . ทั้งความผูกพันธ์ การพูดคุย หรืออะไรต่างๆ . . .มันทำให้ผมตอนนี้รู้สึกทิ้งระยะห่างจากเขาสองคนมากขึ้นครับ
...
เขาไม่ผิดหรอกนะครับ เพราะเรายังไม่เคยเป็นอะไรกันเกินคำว่าเพื่อนเลย . . . มันอาจจะเป็นที่ผมเอง ที่คิดเองไปคนเดียว. . . เขาเคยบอกผมว่า ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ผมคือเพื่อนรักของเขาเสมอ. . .แต่ทำไมรู้ไหมครับ . . .ผมไม่สามารถคิดกับเขาเป็นแค่เพื่อนได้อีกแล้ว. . .
ผมอยากใช้เวลากับเขาให้มากกว่านี้ ผมอยากจะลองคบ อยากจะลองทำ ลองศึกษาเขาให้มากกว่านี้ แต่โอกาสนั้นสำหรับผมมันคงไม่มีแล้วล่ะครับ. . . อีกคนหนึ่งที่มาแทนที่ผม เขานิสัยดีซะด้วยสิ. . .ผมแพ้ราบคาบเลย
ตอนนี้ผมเลยพยายามที่จะออกห่างจากเขาให้ได้มากที่สุด พยายามปิดเฟสบุค ไม่คุยกับเขา . . . แต่มันอดได้ไม่เคยเกินครึ่งวันเลยครับ . . .ต้องมานั่งดูเฟสบุคเขาตลอด นั่งดูว่าเขาว่างอยู่หรือเปล่านะ เขาจะคุยกับเราไหมนะ. . ฟุ้งซ่านมากครับ. . .
อารัมภบทมาซะยาวเลย . . . ผมไม่มีที่ระบายจริงๆครับ เลยอยากพิมพ์ไว้ เผื่อมีใครกำลังอยู่ในอารมณ์เดียวกับผม เรามาให้กำลังใจกันนะครับ
ใครเหงาบ้างยกมือครับ