ความเป็นมา....ทำงานชิปปิ้งกับลุง...ลุงเบื่อเลยให้พ่อทำต่อ..เราเลยต้องไปเรียนชิปปิ้งจนจบเพื่อช่วยพ่อ..อย่างเต็มตัว...
อยู่แต่ในออฟฟิตมีหน้าที่ทำตั๋วทั้งขาเข้าและขาออก ประสานงานกับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันเหลือลูกค้าอยู่แค่ 2 ราย
...ประสบการณ์ในการออกของน้อยมาก(เคยไปกับพวกรุ่นพี่รุ่นลุงที่ท่าเรือกรุงเทพเพื่อปล่อยสินค้าขอไม่เอ่ยนามแต่ขอเรียกว่า ชิปปิ้งขาโจ๋,ชิปปิ้งตัวพ่อ สำหรับ ชิปปิ้งขาเข้า ส่วนขาออกชิปปิ้งลายคราม และชิปปิ้งอินดี้)แต่เรื่องรายละเอียดในการปล่อยสินค้า(ค่าใช้จ่ายต่างๆกับเจ้าหน้าที่,ค่าอำนวยความสะดวกในท่าเรือ) ไม่เคยมีใครบอกเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายจริงซักคน บอกแต่ว่าเป็นค่าน้ำมัน ทั้งที่ได้เงินเดือนกันถ้วนหน้า
....ปิดjob แต่ละครั้ง ค่าอำนวยความสะดวกในท่าเรือประมาณ 1200-1500 บาท สูงไปไหม...แล้วบริษัทจะเหลืออะไร...(ตัวนี้รวมให้ค่าเหนื่อยในการดูเอกสารของ..เทพ..ในท่าเรือแล้ว)
.....ค่ารถค่าแรงงานไม่รู้ชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๊ บวกเพิ่มเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะซื้อใบเสร็จรับเงินของเจ้าอื่นมา (บอกแต่ว่า เสียค่าดำเนินการ 5% ต่อใบเสร็จหนึ่งใบ) อย่างนี้ก็บวกได้ล่ะสิ..5555(ขนาดตัวเราหลานแท้ๆลูกแท้ๆ เอง ยังอยากจะบวกเลย นับประสาอะไรกับคนอื่น...หุหุ) ...ค่าแรงงานใช้คนแถวท่าเรือใบเสร็จก็ไม่มี นั่งเทียนเขียนเองหรือเปล่า???เราไม่รู้ รู้แต่ว่า ทุกอย่างที่ทำ ทำมาก่อนที่เราจะเข้ามาซะอีก บางคนทำงานก่อนเราเข้า มัธยมด้วยซ้ำ...มันจึงเป็นวัฒนธรรมในองค์กรแล้วมั้ง....เปลี่ยนยากจริงๆ
.....อาศัยเราคนเดียวในบริษัทฯ ทำทุกอย่างก็ไม่ไหว ไหนจะทำตั๋วขาออก ไหนจะขาเข้า แค่ลูกค้ารายเดียวก็ปวดหัวแล้ว (เรือปิด load ก่อน 4โมงเย็น เอกสารจากลูกค้ามา 3โมง ครึ่ง-3โมง 50.ออกบ่อย) ต้องทำตั๋วขาออกเฉียดชิวหรือเลยเวลาเป็นอาจิณ...จะเล่นตัวก็กลัวลูกค้าหนี....เฮ้อๆๆๆเซ็งๆๆๆๆ
.....ส่วนพวกชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๋ มีหน้าที่อย่างเดียวคือ....เบิกตังค์ปล่อยสินค้าหรือไม่ก็ชิปปิ้งลายครามช่วยคิดตัวเลขในการทำตั๋วขาออกซึ่งเราทำคนเดียวก็ได้(สินค้ามีไม่กี่ชนิด พิกัดเดิมๆ )
.....เราทำงานมาเกือบ 4 ปี แล้ว เงินทุนในบริษัทฯก็เริ่มร่อยหรอ...ค่าใช้จ่ายต่อเดือนสุงลิบ เพราะจำนวนพนักงานเยอะเกิน(ตัวนี้สรรพกรยังบอกเลยว่ารายรับมีนิดเดียวทำไมพนักงานเยอะจัง..ว่ะ) ไอ่เราก็คุยกับพ่อว่าจะทำไงดี พนักงานแต่ล่ะคนภาระก็มี บางคนก็ใกล้ฝั่งเต็มที...จะลอยแพเค้าก็สงสาร...แต่ตอนนี้เริ่มสงสารตัวเองและพ่อแล้วหล่ะ....ฮิฮิ เพราะโดนสรรพกรเรียกเก็บภาษีอีก....อู้แม่เจ้าทุกข์ซ้ำ..กรรมซัด โดนไปหลายอยู่...น้ำตาตกในเลยตูกรรรรม..
......ตอนนี้เลยไม่รู้จะทำงัยดี ....คิดเอาไว้ว่า ปิดบริษัท
เลยดีกว่า...ไม่ต้องปวดหัวกับรายจ่ายที่ต้องมี แต่ถ้าปิดรายรับ..ตูหล่ะ จะเอาเงินที่ไหนส่งลูก..เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่...ไหนจะค่ารถตูอีก...แล้วลูกค้าตูก็ยังมีอยู่นี่หว่า.....ถึงจะกวนตีนบ้างบางครั้ง เงินจ่ายช้ามากๆๆ แต่มันก็ยังจ่ายตูนี่หว่า....ที่อยู่ได้ก็เพราะรายนี้แหล่ะ (ส่วนลูกค้าอีกรายสบายๆ วางบิลปุบ...เซ็นต์เช็คปัป...ค่าดีโอก็ออกเอง) จะทิ้งเค้าให้เคว้งควางได้อย่างไรเหล่า...(เหมือนพระเอกหว่ะ...ตูเนี้ย..555)....ไหนก็เป็นพระเอกหล่ะก็เลยนึกถึงขาโจ๋ ชิปปิ้งลายครามในบริษัท จะทำอย่างไรกับพวกเค้าดี....บางคนบอกว่ายิ่งแก่ยิ่งเก๋า..ยิ่งมีคุณค่า...แต่ทำมัยตูเริ่มคิดว่ายิ่งแก่...ยิ่งล้าหลังก็ไม่รู้....ปัญหาทุกอย่างทีมีในการนำเข้า (สำหรับชิปปิ้งขาเข้าเนี้ยแก้..ได้โดยแบงค์หลากสีหลากไซด์)ไม่เคยคิดที่จะหาข้อมูลใหม่ๆ มีแต่เราที่ต้องคอยดูเอกสารฟอร์มสิทธิประโยชน์เช่น Form D, Form E and Form AI เราต้องคอยดูว่าถูกต้องไหม...ไอ่บางที่เราบอกเอกสารใน form มีปัญหา เมื่อไหร่ปุ๊ป...แบงค์หลากสีทยอยออกจากกองคลังเป็นว่าเล่นเลย...หาทางแก้ไข..หรือหาข้อมูลอย่าหวังว่าชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๋จะหา..ตูทั้งนั้นนั่งโทรไปเหอะ..อาGooไปเหอะ) ยังสงสัยอยู่เหมือนกันถ้าตูไม่ตรวจหรือบอกเค้า...เค้าจะรู้ไหมหนอ...
....
ออกตัวเอี้ยดๆๆ...ไว้ก่อนเราไม่เก่งเรื่องชิปปิ้งน่ะแค่ผ่านการอบรมเป็นตัวแทนออกของกับสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทยและสอบผ่านกับกรมศุลแล้วเมื่อปี 56 รอบ สอง รู้พอหอมปากหอมคอ..บางทีต้องคอยปรึกษาอาจารย์ หรือไม่ก็เพื่อนๆพี่ในรุ่น
.....บางทีลูกค้าส่งเอกสารสลับชุดไปให้เพื่อทำการตรวจปล่อย...ยังตรวจผ่านได้เลย(เก่งขั้นเทพ มัยหล่ะ)..พอมารู้ทีหลังว่าเอกสารที่ตรวจผ่านไปแล้วกับอินวอยซ์อีกชุดมาแล้วต้องไปตรวจปล่อยอีกครั้งกลับต้องควักแบงค์หลากสีจ่ายเพ่ิมเพราะเหตุผลที่ว่า อินวอยซ์ไม่ตรงกลับใบขนฯ (อ้าวแล้วก่อนหน้านี้คุณเ...ยังผ่านเลย) เราเลยลองเช็คในคอมฯดูว่าใบขนฯที่กำลังตรวจปล่อยเนี้ยเจ้าหน้าที่สั่งปล่อยหรือยัง.....แล้ว...แล้วก็จริง สั่งปล่อยแล้วคร้าบบบ...แต่ทำมัยคุณเชิปปิ้งตัวพ่อกับชิปปิ้งขาโจ๊ของตูยังบอกว่าแบงค์หลากสียังจำเป็นอยู่เหล่า....เรากับพ่อเลยปิดคลังแบงค์หลากสีบอกไม่อนุมัติวงเงิน...เท่านั้นหล่ะข้อแก้ตัวมาเพรียบบบบบ...แถมเป็นพระเอกอีกต่างหากบอกเดียวอออกให้เอง...อู้แม่จ้าว..ตูทำผิดอีกแล้ว..ให้ชิปปิ้งขาโจ๋และชิปปิ้งตัวพ่อ...ควักแบงค์หลากสีจ่ายให้หลวงเองเลย...หลายคนคงสงสัย...จะเกิดอะไรขึ้นกับชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๋...อภัยโทษเกิดขึ้นได้เสมอ(ไอ่โง่โดนขนาดนี้แล้วตูยังทำมองไม่เห็นอีก)....ด่าตัวเอง
ซะเลย...พูดได้คำเดียวครับ....ควายล้วนๆไม่มีวัวผสม...สงสารเค้าครับผิดเป็นครู(จริงป่ะว่ะ)...
.....พิมพ์ความอัดอั้นมาเยอะแล้ว...ขอความคิดเห็นเพื่อนหน่อยครับว่า
1.ผมควรทำอย่างไรดีกับบริษัทฯที่ผมทำงานอยู่น่ะปัจจุบัน...(ผมกับพ่อคุมทุกอย่างแต่อยุ่ใต้อานัติของเสด็จลุง)
ก.ทำงานต่อไป
ข.ปิดบริษัท(ตัวใครตัวมัน)
ค.หาแบงค์หลากสีเพิ่มเพื่อที่จะมีเงินหมุนเวียน ให้ชิปปิ้งทั้งหลายใช้ได้ทันใจ
ง.ออกมาเปิดใหม่โดยหาชิปปิ้งรุ่นใหม่และใช้แรงของตัวเอง พร้อมทั้งดึงลูกค้า ของตัวเองมาจากบริษัทเก่า
2. หากปิดบริษัทพ่อกับผมคงโดนพนักงานและชิปปิ้งเรียกค่าตอบแทนบานตะไท...ชัวร์ เพราะแต่ล่ะคนอายุงาน 10 ปีขึ้นทั้งนั้น ผมจะทำงัยดีใครมีทางออกให้กับผมบางครับ (กรมแรงงานคงมาหาถึงหน้าบริษัทฯ) 5555
3. จะเพิ่มทุนก็มีทางเดียวคือยื่นกู้แบงค์ กิจการปิดงบขาดทุนมาตลอด...แบงค์ไหนใจดีจะให้กู้มัยหนอ....มีทางเดียวต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวยื่นกู้เพื่อบริษัทฯ...พระเอกตลอดเลยตู (หรือควายล้วนๆก็ไม่รู้สิน่ะ) ควรมิควรในการใช้ทรัพย์สินส่วนตัวดี
4. ออกมาเปิดเองก็อีกทุนตูจะเอามาจากไหน บ้านแลกเงินดีไหม เพราะคำนวณคร่าวๆ ต้องมีหลายอยู่น่ะในการเปิดบริษัทใหม่ ทำงัยดีครับ
5. แล้วจะหาลูกค้ารายใหม่จากที่ไหนดีหล่ะ (หายากโคตร) เพราะที่บริษัทฯทำแต่เดินพิธีการขาเข้าและขาออกอย่างเดียวเลยใครเค้าจะสน..
เคยมีคนเมล์มาหาว่าจะนำเข้าสินค้าจากเกาหลี แล้วให้เราช่วยกระจายสินค้าให้ ชิปปิ้งตัวพ่อกับชิปปิ้งลายครามนั่งนิ่งให้คำปรึกษาไม่ได้เลยมีแต่เราหาข้อมูล ส่วนพิกัดไม่ต้องพูดถึง ไม่รู้จัก(โอ้แม่จ้าว.....ตูไม่รู้จะสบถเป็นภาษาอะไรดี...หาข้อมูลในเน็ตยังไม่เคยหาเลย..นั่งฟังเพลงกับสมาร์โฟนได้ก็เก่งแล้วอย่างหวังว่าจะเปิดหาในอา Goo หรือเวปกรมศุลฯเลย...ตูทั้งนั้นนน...)
ตอนนี้มานั่งในบริษัทฯรองานพร้อมชิปปิ้งขาโจ๋และชิปปิ้งตัวพ่อรู้สึกเบื่อน่ะ...บทงานมีก็นั่งทำทั้งวันบทไม่มีก็นั่งเล่นคอมฯทั้งวันเหมือนกันพูดได้คำเดียวเซ็งเป็ด...ช่วยหาคำตอบให้กับเราหน่อยก็ดีน่ะ...ใครจะว่าเราโง่หรือควายก็เป็นสิทธิของแต่ล่ะคน(แอบโกรธเหมือนกัน....5555เลยเขียนด่าตัวเองเยอะๆๆงัย)แต่อยากได้ความคิดเห็นที่เป็นแนวทางในการดำเนินกิจการต่อไป....ขอบคุณครับ....
ถ้าเจออย่างนี้ออกมาเปิดบริษัทชิปปิ้งเอง...ดีไหม?
อยู่แต่ในออฟฟิตมีหน้าที่ทำตั๋วทั้งขาเข้าและขาออก ประสานงานกับลูกค้า ซึ่งปัจจุบันเหลือลูกค้าอยู่แค่ 2 ราย
...ประสบการณ์ในการออกของน้อยมาก(เคยไปกับพวกรุ่นพี่รุ่นลุงที่ท่าเรือกรุงเทพเพื่อปล่อยสินค้าขอไม่เอ่ยนามแต่ขอเรียกว่า ชิปปิ้งขาโจ๋,ชิปปิ้งตัวพ่อ สำหรับ ชิปปิ้งขาเข้า ส่วนขาออกชิปปิ้งลายคราม และชิปปิ้งอินดี้)แต่เรื่องรายละเอียดในการปล่อยสินค้า(ค่าใช้จ่ายต่างๆกับเจ้าหน้าที่,ค่าอำนวยความสะดวกในท่าเรือ) ไม่เคยมีใครบอกเรื่องค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายจริงซักคน บอกแต่ว่าเป็นค่าน้ำมัน ทั้งที่ได้เงินเดือนกันถ้วนหน้า
....ปิดjob แต่ละครั้ง ค่าอำนวยความสะดวกในท่าเรือประมาณ 1200-1500 บาท สูงไปไหม...แล้วบริษัทจะเหลืออะไร...(ตัวนี้รวมให้ค่าเหนื่อยในการดูเอกสารของ..เทพ..ในท่าเรือแล้ว)
.....ค่ารถค่าแรงงานไม่รู้ชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๊ บวกเพิ่มเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะซื้อใบเสร็จรับเงินของเจ้าอื่นมา (บอกแต่ว่า เสียค่าดำเนินการ 5% ต่อใบเสร็จหนึ่งใบ) อย่างนี้ก็บวกได้ล่ะสิ..5555(ขนาดตัวเราหลานแท้ๆลูกแท้ๆ เอง ยังอยากจะบวกเลย นับประสาอะไรกับคนอื่น...หุหุ) ...ค่าแรงงานใช้คนแถวท่าเรือใบเสร็จก็ไม่มี นั่งเทียนเขียนเองหรือเปล่า???เราไม่รู้ รู้แต่ว่า ทุกอย่างที่ทำ ทำมาก่อนที่เราจะเข้ามาซะอีก บางคนทำงานก่อนเราเข้า มัธยมด้วยซ้ำ...มันจึงเป็นวัฒนธรรมในองค์กรแล้วมั้ง....เปลี่ยนยากจริงๆ
.....อาศัยเราคนเดียวในบริษัทฯ ทำทุกอย่างก็ไม่ไหว ไหนจะทำตั๋วขาออก ไหนจะขาเข้า แค่ลูกค้ารายเดียวก็ปวดหัวแล้ว (เรือปิด load ก่อน 4โมงเย็น เอกสารจากลูกค้ามา 3โมง ครึ่ง-3โมง 50.ออกบ่อย) ต้องทำตั๋วขาออกเฉียดชิวหรือเลยเวลาเป็นอาจิณ...จะเล่นตัวก็กลัวลูกค้าหนี....เฮ้อๆๆๆเซ็งๆๆๆๆ
.....ส่วนพวกชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๋ มีหน้าที่อย่างเดียวคือ....เบิกตังค์ปล่อยสินค้าหรือไม่ก็ชิปปิ้งลายครามช่วยคิดตัวเลขในการทำตั๋วขาออกซึ่งเราทำคนเดียวก็ได้(สินค้ามีไม่กี่ชนิด พิกัดเดิมๆ )
.....เราทำงานมาเกือบ 4 ปี แล้ว เงินทุนในบริษัทฯก็เริ่มร่อยหรอ...ค่าใช้จ่ายต่อเดือนสุงลิบ เพราะจำนวนพนักงานเยอะเกิน(ตัวนี้สรรพกรยังบอกเลยว่ารายรับมีนิดเดียวทำไมพนักงานเยอะจัง..ว่ะ) ไอ่เราก็คุยกับพ่อว่าจะทำไงดี พนักงานแต่ล่ะคนภาระก็มี บางคนก็ใกล้ฝั่งเต็มที...จะลอยแพเค้าก็สงสาร...แต่ตอนนี้เริ่มสงสารตัวเองและพ่อแล้วหล่ะ....ฮิฮิ เพราะโดนสรรพกรเรียกเก็บภาษีอีก....อู้แม่เจ้าทุกข์ซ้ำ..กรรมซัด โดนไปหลายอยู่...น้ำตาตกในเลยตูกรรรรม..
......ตอนนี้เลยไม่รู้จะทำงัยดี ....คิดเอาไว้ว่า ปิดบริษัทเลยดีกว่า...ไม่ต้องปวดหัวกับรายจ่ายที่ต้องมี แต่ถ้าปิดรายรับ..ตูหล่ะ จะเอาเงินที่ไหนส่งลูก..เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่...ไหนจะค่ารถตูอีก...แล้วลูกค้าตูก็ยังมีอยู่นี่หว่า.....ถึงจะกวนตีนบ้างบางครั้ง เงินจ่ายช้ามากๆๆ แต่มันก็ยังจ่ายตูนี่หว่า....ที่อยู่ได้ก็เพราะรายนี้แหล่ะ (ส่วนลูกค้าอีกรายสบายๆ วางบิลปุบ...เซ็นต์เช็คปัป...ค่าดีโอก็ออกเอง) จะทิ้งเค้าให้เคว้งควางได้อย่างไรเหล่า...(เหมือนพระเอกหว่ะ...ตูเนี้ย..555)....ไหนก็เป็นพระเอกหล่ะก็เลยนึกถึงขาโจ๋ ชิปปิ้งลายครามในบริษัท จะทำอย่างไรกับพวกเค้าดี....บางคนบอกว่ายิ่งแก่ยิ่งเก๋า..ยิ่งมีคุณค่า...แต่ทำมัยตูเริ่มคิดว่ายิ่งแก่...ยิ่งล้าหลังก็ไม่รู้....ปัญหาทุกอย่างทีมีในการนำเข้า (สำหรับชิปปิ้งขาเข้าเนี้ยแก้..ได้โดยแบงค์หลากสีหลากไซด์)ไม่เคยคิดที่จะหาข้อมูลใหม่ๆ มีแต่เราที่ต้องคอยดูเอกสารฟอร์มสิทธิประโยชน์เช่น Form D, Form E and Form AI เราต้องคอยดูว่าถูกต้องไหม...ไอ่บางที่เราบอกเอกสารใน form มีปัญหา เมื่อไหร่ปุ๊ป...แบงค์หลากสีทยอยออกจากกองคลังเป็นว่าเล่นเลย...หาทางแก้ไข..หรือหาข้อมูลอย่าหวังว่าชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๋จะหา..ตูทั้งนั้นนั่งโทรไปเหอะ..อาGooไปเหอะ) ยังสงสัยอยู่เหมือนกันถ้าตูไม่ตรวจหรือบอกเค้า...เค้าจะรู้ไหมหนอ...
....ออกตัวเอี้ยดๆๆ...ไว้ก่อนเราไม่เก่งเรื่องชิปปิ้งน่ะแค่ผ่านการอบรมเป็นตัวแทนออกของกับสมาคมชิปปิ้งแห่งประเทศไทยและสอบผ่านกับกรมศุลแล้วเมื่อปี 56 รอบ สอง รู้พอหอมปากหอมคอ..บางทีต้องคอยปรึกษาอาจารย์ หรือไม่ก็เพื่อนๆพี่ในรุ่น
.....บางทีลูกค้าส่งเอกสารสลับชุดไปให้เพื่อทำการตรวจปล่อย...ยังตรวจผ่านได้เลย(เก่งขั้นเทพ มัยหล่ะ)..พอมารู้ทีหลังว่าเอกสารที่ตรวจผ่านไปแล้วกับอินวอยซ์อีกชุดมาแล้วต้องไปตรวจปล่อยอีกครั้งกลับต้องควักแบงค์หลากสีจ่ายเพ่ิมเพราะเหตุผลที่ว่า อินวอยซ์ไม่ตรงกลับใบขนฯ (อ้าวแล้วก่อนหน้านี้คุณเ...ยังผ่านเลย) เราเลยลองเช็คในคอมฯดูว่าใบขนฯที่กำลังตรวจปล่อยเนี้ยเจ้าหน้าที่สั่งปล่อยหรือยัง.....แล้ว...แล้วก็จริง สั่งปล่อยแล้วคร้าบบบ...แต่ทำมัยคุณเชิปปิ้งตัวพ่อกับชิปปิ้งขาโจ๊ของตูยังบอกว่าแบงค์หลากสียังจำเป็นอยู่เหล่า....เรากับพ่อเลยปิดคลังแบงค์หลากสีบอกไม่อนุมัติวงเงิน...เท่านั้นหล่ะข้อแก้ตัวมาเพรียบบบบบ...แถมเป็นพระเอกอีกต่างหากบอกเดียวอออกให้เอง...อู้แม่จ้าว..ตูทำผิดอีกแล้ว..ให้ชิปปิ้งขาโจ๋และชิปปิ้งตัวพ่อ...ควักแบงค์หลากสีจ่ายให้หลวงเองเลย...หลายคนคงสงสัย...จะเกิดอะไรขึ้นกับชิปปิ้งตัวพ่อและชิปปิ้งขาโจ๋...อภัยโทษเกิดขึ้นได้เสมอ(ไอ่โง่โดนขนาดนี้แล้วตูยังทำมองไม่เห็นอีก)....ด่าตัวเองซะเลย...พูดได้คำเดียวครับ....ควายล้วนๆไม่มีวัวผสม...สงสารเค้าครับผิดเป็นครู(จริงป่ะว่ะ)...
.....พิมพ์ความอัดอั้นมาเยอะแล้ว...ขอความคิดเห็นเพื่อนหน่อยครับว่า
1.ผมควรทำอย่างไรดีกับบริษัทฯที่ผมทำงานอยู่น่ะปัจจุบัน...(ผมกับพ่อคุมทุกอย่างแต่อยุ่ใต้อานัติของเสด็จลุง)
ก.ทำงานต่อไป
ข.ปิดบริษัท(ตัวใครตัวมัน)
ค.หาแบงค์หลากสีเพิ่มเพื่อที่จะมีเงินหมุนเวียน ให้ชิปปิ้งทั้งหลายใช้ได้ทันใจ
ง.ออกมาเปิดใหม่โดยหาชิปปิ้งรุ่นใหม่และใช้แรงของตัวเอง พร้อมทั้งดึงลูกค้า ของตัวเองมาจากบริษัทเก่า
2. หากปิดบริษัทพ่อกับผมคงโดนพนักงานและชิปปิ้งเรียกค่าตอบแทนบานตะไท...ชัวร์ เพราะแต่ล่ะคนอายุงาน 10 ปีขึ้นทั้งนั้น ผมจะทำงัยดีใครมีทางออกให้กับผมบางครับ (กรมแรงงานคงมาหาถึงหน้าบริษัทฯ) 5555
3. จะเพิ่มทุนก็มีทางเดียวคือยื่นกู้แบงค์ กิจการปิดงบขาดทุนมาตลอด...แบงค์ไหนใจดีจะให้กู้มัยหนอ....มีทางเดียวต้องใช้ทรัพย์สินส่วนตัวยื่นกู้เพื่อบริษัทฯ...พระเอกตลอดเลยตู (หรือควายล้วนๆก็ไม่รู้สิน่ะ) ควรมิควรในการใช้ทรัพย์สินส่วนตัวดี
4. ออกมาเปิดเองก็อีกทุนตูจะเอามาจากไหน บ้านแลกเงินดีไหม เพราะคำนวณคร่าวๆ ต้องมีหลายอยู่น่ะในการเปิดบริษัทใหม่ ทำงัยดีครับ
5. แล้วจะหาลูกค้ารายใหม่จากที่ไหนดีหล่ะ (หายากโคตร) เพราะที่บริษัทฯทำแต่เดินพิธีการขาเข้าและขาออกอย่างเดียวเลยใครเค้าจะสน..
เคยมีคนเมล์มาหาว่าจะนำเข้าสินค้าจากเกาหลี แล้วให้เราช่วยกระจายสินค้าให้ ชิปปิ้งตัวพ่อกับชิปปิ้งลายครามนั่งนิ่งให้คำปรึกษาไม่ได้เลยมีแต่เราหาข้อมูล ส่วนพิกัดไม่ต้องพูดถึง ไม่รู้จัก(โอ้แม่จ้าว.....ตูไม่รู้จะสบถเป็นภาษาอะไรดี...หาข้อมูลในเน็ตยังไม่เคยหาเลย..นั่งฟังเพลงกับสมาร์โฟนได้ก็เก่งแล้วอย่างหวังว่าจะเปิดหาในอา Goo หรือเวปกรมศุลฯเลย...ตูทั้งนั้นนน...)
ตอนนี้มานั่งในบริษัทฯรองานพร้อมชิปปิ้งขาโจ๋และชิปปิ้งตัวพ่อรู้สึกเบื่อน่ะ...บทงานมีก็นั่งทำทั้งวันบทไม่มีก็นั่งเล่นคอมฯทั้งวันเหมือนกันพูดได้คำเดียวเซ็งเป็ด...ช่วยหาคำตอบให้กับเราหน่อยก็ดีน่ะ...ใครจะว่าเราโง่หรือควายก็เป็นสิทธิของแต่ล่ะคน(แอบโกรธเหมือนกัน....5555เลยเขียนด่าตัวเองเยอะๆๆงัย)แต่อยากได้ความคิดเห็นที่เป็นแนวทางในการดำเนินกิจการต่อไป....ขอบคุณครับ....