ธรรมใดเกิดแต่เหตุ (สิ่งทั้งหมดทั้งมวลเกิดขึ้นเพราะเหตุ) เป็นเรื่องกฎของธรรมชาติ
สรรพสิ่งเกิดจาก เหตุ และถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยแวดล้อม จึงเกิดเป็นผลขึ้นมา และผลนี้เป็น เหตุ ของ ผล ที่จะเกิดขึ้นต่อไป เรื่อยๆ
เข้าหลักของ อิทัปปัจจยตา ที่ใช้กับรูป ที่มองเห็น สัมผัสได้จากร่างกายเรา
เข้าหลักของ ปฏิจสมุปบาท ที่ใช้กับนาม คือ อารมณ์ ที่สัมผัสได้จากความรู้สึก
ส่วนเรื่อง นอกเหตุเหนือผล (เหนือโลก เหนือกาลเวลา เหนือทุกสรรพสิ่ง) เป็น โลกุตระ
คือเรื่องของ สภาวะจิต ที่ไม่ สิโรราบ อยู่ภายใต้กฏของเหตุและผล ของกฏตามธรรชาติ
การกระทำ (กรรม) หรือการดำรงชีวิตไม่ยอมอยู่ภายใต้ สัญชาตญาณ (default ญาณ ที่ธรรมชาติสร้างมา เป้าหมายคือ เพื่อความอยู่รอดและดำรงอยู่ของชีวิต)
นักปฏิบัตธรรม จะใช้ ญาณอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก สัญชาตญาณ ในการระงับ เจ้าตัวสัญชาตญาณนี้ไม่ให้เกิดขึ้นแก่จิต และ out put ออกมาเป็นการกระทำ (กรรม) ทั้งทาง กาย วาจา และ ความคิด
การเกิดของ ญาณอื่นๆ ที่ไม่ใช่ สัญชาตญาณ และนักปฏิบัติที่ทำให้เกิดญาณเหล่านี้ขึ้นมาได้และสัมผัสได้ด้วยตัวเองตามความเป็นจริง สิ่งนี้และที่เรียกว่า นอกเหตุเหนือผล โดยไม่ต้องสงสัย
ขอถามท่านผู้รู้ว่า สิ่งที่ผมเข้าใจนี้ ผมเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงไหมครับ ?
ผมเป็นคนที่สงสัยและจะค้นหาความจริงตลอดเวลาผมยังไม่สามารถทำให้เกิดญาณอื่นๆได้ด้วยตัวเอง และยังไม่เคยสัมผัสกับญาณเหล่านั้น
ซึ่งผมกำลังจะบอกว่า ญาณที่เกิดขึ้นมาระงับสัญชาตญาณ จริงแล้วล้วนมีเหตุผล แต่ภาษาสื่อสารของมนุษย์ ยังพัฒนาไม่ถึงขั้นที่จะสามารถอธิบายเรื่องเหล่านี้ด้วยเหตุและผลได้ สิ่งที่ผมเข้าใจนี้ถูกต้องไหมครับ ?
ความเข้าใจเรื่อง ความจริง นอกเหตุเหนือผล และ ธรรมใดเกิดแต่เหตุ
สรรพสิ่งเกิดจาก เหตุ และถูกกระตุ้นด้วยปัจจัยแวดล้อม จึงเกิดเป็นผลขึ้นมา และผลนี้เป็น เหตุ ของ ผล ที่จะเกิดขึ้นต่อไป เรื่อยๆ
เข้าหลักของ อิทัปปัจจยตา ที่ใช้กับรูป ที่มองเห็น สัมผัสได้จากร่างกายเรา
เข้าหลักของ ปฏิจสมุปบาท ที่ใช้กับนาม คือ อารมณ์ ที่สัมผัสได้จากความรู้สึก
ส่วนเรื่อง นอกเหตุเหนือผล (เหนือโลก เหนือกาลเวลา เหนือทุกสรรพสิ่ง) เป็น โลกุตระ
คือเรื่องของ สภาวะจิต ที่ไม่ สิโรราบ อยู่ภายใต้กฏของเหตุและผล ของกฏตามธรรชาติ
การกระทำ (กรรม) หรือการดำรงชีวิตไม่ยอมอยู่ภายใต้ สัญชาตญาณ (default ญาณ ที่ธรรมชาติสร้างมา เป้าหมายคือ เพื่อความอยู่รอดและดำรงอยู่ของชีวิต)
นักปฏิบัตธรรม จะใช้ ญาณอื่นๆ ที่นอกเหนือจาก สัญชาตญาณ ในการระงับ เจ้าตัวสัญชาตญาณนี้ไม่ให้เกิดขึ้นแก่จิต และ out put ออกมาเป็นการกระทำ (กรรม) ทั้งทาง กาย วาจา และ ความคิด
การเกิดของ ญาณอื่นๆ ที่ไม่ใช่ สัญชาตญาณ และนักปฏิบัติที่ทำให้เกิดญาณเหล่านี้ขึ้นมาได้และสัมผัสได้ด้วยตัวเองตามความเป็นจริง สิ่งนี้และที่เรียกว่า นอกเหตุเหนือผล โดยไม่ต้องสงสัย
ขอถามท่านผู้รู้ว่า สิ่งที่ผมเข้าใจนี้ ผมเข้าใจถูกต้องตามความเป็นจริงไหมครับ ?
ผมเป็นคนที่สงสัยและจะค้นหาความจริงตลอดเวลาผมยังไม่สามารถทำให้เกิดญาณอื่นๆได้ด้วยตัวเอง และยังไม่เคยสัมผัสกับญาณเหล่านั้น
ซึ่งผมกำลังจะบอกว่า ญาณที่เกิดขึ้นมาระงับสัญชาตญาณ จริงแล้วล้วนมีเหตุผล แต่ภาษาสื่อสารของมนุษย์ ยังพัฒนาไม่ถึงขั้นที่จะสามารถอธิบายเรื่องเหล่านี้ด้วยเหตุและผลได้ สิ่งที่ผมเข้าใจนี้ถูกต้องไหมครับ ?