ตอนแรกผมมีความคิดว่า ถ้าเธอมีแฟนแล้วก็ปล่อยเธอไปเถอะ อย่าไปยุ่งกับเธอเลย แล้วเราก็มานั่งปวดใจเองคนเดียวดีกว่า
....
แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว เพราะเพื่อนคนหนึ่ง
เขาให้คำปรึกษาว่า "ถ้าชอบจริงๆทำไม่ไม่ลองซักตั้งเหละถึงจะโดนปฏิเสธอย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว"
ผมก็พูดว่า เฮ้ย แบบนี้มันจะดีแน่เหรอ
เพื่อนก็พูดต่อว่า ใครจะไปสนล่ะ เราแค่ทำตามหัวใจของเราเท่านั้นเอง
....
ตอนนี้ผมชักคล้อยตามแล้วล่ะ ถ้าชอบใครสักคนก็ต้องลองพยามยามดูสักครั้ง ถ้าเขาไม่เลือกเรา ก็ต้องยอมรับผลนั้นอย่างแฟร์ๆ
ไม่ใช่เอาแต่หนีหัวใจตัวเองโดยไม่ลงมือทำอะไรเลย
แล้วเพื่อนผมก็บอกอีกว่า "ถ้าลองบอกเขาไปโอกาสที่เขาจะชอบเรามี 1 %"
"แต่ถ้าเราไม่บอกเขาโอกาสเที่เขาจะชอบเรามี 0%"
ผมก็เริ่มคิดว่าอย่างน้อยก็อยากลองพยายามดูสักครั้ง "อย่างน้อยก็ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง"
...
พูดถึงในกรณีเป็นแค่แฟนกันนะ ถ้าพวกเขาแต่งงานมีลูกกันแล้ว คงไม่เข้าไปยุ่งอย่างเด็ดขาดครับ
แล้วพวกคุณคิดว่าอย่างไรกัน พวกคุณจะลองพยามยามกันสักครั้งหรือเปล่า หรือปล่อยไปโดยไม่ทำอะไรเลย ????
"รักต้องแย่งหรือเปล่า"
....
แต่ตอนนี้เริ่มไม่แน่ใจแล้ว เพราะเพื่อนคนหนึ่ง
เขาให้คำปรึกษาว่า "ถ้าชอบจริงๆทำไม่ไม่ลองซักตั้งเหละถึงจะโดนปฏิเสธอย่างน้อยก็ได้พยายามแล้ว"
ผมก็พูดว่า เฮ้ย แบบนี้มันจะดีแน่เหรอ
เพื่อนก็พูดต่อว่า ใครจะไปสนล่ะ เราแค่ทำตามหัวใจของเราเท่านั้นเอง
....
ตอนนี้ผมชักคล้อยตามแล้วล่ะ ถ้าชอบใครสักคนก็ต้องลองพยามยามดูสักครั้ง ถ้าเขาไม่เลือกเรา ก็ต้องยอมรับผลนั้นอย่างแฟร์ๆ
ไม่ใช่เอาแต่หนีหัวใจตัวเองโดยไม่ลงมือทำอะไรเลย
แล้วเพื่อนผมก็บอกอีกว่า "ถ้าลองบอกเขาไปโอกาสที่เขาจะชอบเรามี 1 %"
"แต่ถ้าเราไม่บอกเขาโอกาสเที่เขาจะชอบเรามี 0%"
ผมก็เริ่มคิดว่าอย่างน้อยก็อยากลองพยายามดูสักครั้ง "อย่างน้อยก็ดีกว่ามานั่งเสียใจทีหลัง"
...
พูดถึงในกรณีเป็นแค่แฟนกันนะ ถ้าพวกเขาแต่งงานมีลูกกันแล้ว คงไม่เข้าไปยุ่งอย่างเด็ดขาดครับ
แล้วพวกคุณคิดว่าอย่างไรกัน พวกคุณจะลองพยามยามกันสักครั้งหรือเปล่า หรือปล่อยไปโดยไม่ทำอะไรเลย ????