อาจไม่เกี่ยวกับบางท่าน แต่ จขกท อยากสนทนากับเพื่อนๆของ จขกท ในห้องราชดำเนินครับ
ตั้งแต่เกิดปัญหากับบ้านเมืองเรา มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่ทำให้เราพอใจและไม่ถูกใจทำให้ขุ่นข้องหมองใจ
หากเรารู้เท่าทันบ้าง บางทีอาจช่วยให้สบายใจขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
ผมนึกถึงคำของอาจารย์สมัยที่บวชอยู่บางคำที่หากเอามาใช้ ก็อาจทำให้ อะไรๆที่เกิดขึ้น ดีขึ้นปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
- อิทัปปัจจยตา แปลได้ความว่า เมื่อมีสิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้นี้ย่อมเกิดขึ้น (เป็นเช่นนี้ทุกเรื่องจริงๆ หากลองพิจารณาดู)
- ปฏิจจสมุปบาท อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น อันนี้ยาว ครับ เกิด ทุกข์เกิด ภพ เกิดชาติ แต่ทั้งหลายก็อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น
- ตถตา อ่านว่า ตะถาตา แปลว่า เช่นนั้นเอง หาก เอาไปใช่ในเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น เราก็จะบอกว่า เพราะว่าเป็นเช่นนั้นเอง ใจก็จะละวางได้
ตามความจริงมีคำสอนทางธรรมอยู่หลายคำ จขกท เพียงยกบางคำที่พอช่วย ให้ละวางเรื่องราว ละวางจิตใจไม่ให้ขุ่นมัวได้
และมีอีกคำที่ จขกท ได้รับจากท่านอาจารย์ที่วัดที่ได้ไปบวชมา เมื่อพูดถึงกิเลส สิ่งที่มากระทบจิตใจ และทำให้จิตใจเศร้าหมอง
ท่านบอกว่าคำนี้บอกไว้ว่า " อตัมมยตา " ออกเสียงว่า อตัมมะยะตา แปลว่า กรูไม่เอากับเมริงแล้วโว้ย (ขออภัย อาจารย์ว่าไว้ยังงี้จริงๆ)
เราสามารถใช้คำนี้กับชีวิตของเราได้ เมื่อมีสิ่งที่ไม่ถูกใจไม่พอใจไม่สบอารมณ์ ก็ ตถาตาบ้าง หนักเข้าก็ อตัมมะยะตา
เราก็จะปล่อยวางได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
ปล ผมไม่ได้ตั้งกระทู้ผิดห้องนะครับ อย่าเพิ่งไล่ให้ไปห้องศาสนา เพียงต้องการสนทนากับเพื่อนๆผมที่ส่วนใหญ่อยู่ห้องราชดำเนิน ครับ
ต้องหมั่นบอกกับตัวเองบ่อยๆ
ตั้งแต่เกิดปัญหากับบ้านเมืองเรา มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย ทั้งที่ทำให้เราพอใจและไม่ถูกใจทำให้ขุ่นข้องหมองใจ
หากเรารู้เท่าทันบ้าง บางทีอาจช่วยให้สบายใจขึ้นบ้าง ไม่มากก็น้อยครับ
ผมนึกถึงคำของอาจารย์สมัยที่บวชอยู่บางคำที่หากเอามาใช้ ก็อาจทำให้ อะไรๆที่เกิดขึ้น ดีขึ้นปล่อยวางได้ง่ายขึ้น
- อิทัปปัจจยตา แปลได้ความว่า เมื่อมีสิ่งนี้เป็นปัจจัย สิ่งนี้นี้ย่อมเกิดขึ้น (เป็นเช่นนี้ทุกเรื่องจริงๆ หากลองพิจารณาดู)
- ปฏิจจสมุปบาท อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น อันนี้ยาว ครับ เกิด ทุกข์เกิด ภพ เกิดชาติ แต่ทั้งหลายก็อาศัยกันแล้วเกิดขึ้น
- ตถตา อ่านว่า ตะถาตา แปลว่า เช่นนั้นเอง หาก เอาไปใช่ในเรื่องอะไรที่เกิดขึ้น เราก็จะบอกว่า เพราะว่าเป็นเช่นนั้นเอง ใจก็จะละวางได้
ตามความจริงมีคำสอนทางธรรมอยู่หลายคำ จขกท เพียงยกบางคำที่พอช่วย ให้ละวางเรื่องราว ละวางจิตใจไม่ให้ขุ่นมัวได้
และมีอีกคำที่ จขกท ได้รับจากท่านอาจารย์ที่วัดที่ได้ไปบวชมา เมื่อพูดถึงกิเลส สิ่งที่มากระทบจิตใจ และทำให้จิตใจเศร้าหมอง
ท่านบอกว่าคำนี้บอกไว้ว่า " อตัมมยตา " ออกเสียงว่า อตัมมะยะตา แปลว่า กรูไม่เอากับเมริงแล้วโว้ย (ขออภัย อาจารย์ว่าไว้ยังงี้จริงๆ)
เราสามารถใช้คำนี้กับชีวิตของเราได้ เมื่อมีสิ่งที่ไม่ถูกใจไม่พอใจไม่สบอารมณ์ ก็ ตถาตาบ้าง หนักเข้าก็ อตัมมะยะตา
เราก็จะปล่อยวางได้บ้างไม่มากก็น้อยครับ
ปล ผมไม่ได้ตั้งกระทู้ผิดห้องนะครับ อย่าเพิ่งไล่ให้ไปห้องศาสนา เพียงต้องการสนทนากับเพื่อนๆผมที่ส่วนใหญ่อยู่ห้องราชดำเนิน ครับ