เกริ่นก่อนนะคะ คือว่า จขกท.เริ่มมีอาการปวดเมื่อยบริเวณต้นแขนขวาและบริเวณไหล่ นิดหน่อยตั้งแต่เมื่อต้นเดือนที่แล้วหลังจากที่หิ้วกระป๋องน้ำล้างรถ + ขัดรถ (หรืออาจเป็นมานานกว่านั้นแต่เราไม่ทันสังเกตุ) ทีนี้อาการปวดมันมากขึ้นเรื่อย จนรู้สึกชาตั้งแต่หัวไหล่จนถึงข้อศอกบางครั้งลามไปถึงข้อมือโดยเฉพาะเวลาใช้คอมพิวเตอร์หรือขับรถ  เราก็เลยไปนวด ปรากฏว่าปวดหนักกว่าเดิมอีก ร้าวมาถึงต้นคอ เลยไปร้ายขายยาเล่าให้เภสัชฟัง ได้ยาคลายกล้ามเนื้อมากิน 3 วัน พอดี๊ พอดี หลังจากนั้นเราไปปฏิบัติธรรมที่วัด (คือไม่ได้ทำงาน + ไม่ได้ขับรถเลย)  ตอนอยู่ที่วัดไม่มีอาการปวดใดๆ เลย (หรือเป็นผลจากการปฏิบัติธรรม - -")  พอกลับมาทำงาน อาการปวดก็กลับมาอีก ทีนี้บริเวณที่ปวดลามไปถึงไหล่ด้านหลัง + ด้านหน้า + ด้านข้างลำตัวตรงที่ต่ำกว่ารักแร้ลงมา  แต่ก็ไม่ได้ปวดมากคือปวดพอรำคาญน่ะค่ะ
จนทนรำคาญไม่ไหว เมื่อสัปดาห์ที่แล้วก็เลยไปหาหมอ  หมอให้ยกแขน บิดแขน กดตรงนู้นตรงนี้ สรุปหมอบอกว่ากล้ามเนื้ออักเสบ ให้ยามากิน แล้วก็พอดีอีกว่าหยุดยาววันแม่ (ไม่ได้ทำงานอีกแล้ว) อาการปวดก็หายไป (ยังทานยาอยู่ด้วย)

อ้อ ลืมบอก เราขับรถวันละประมาณ 4 -5 ชม. (ที่บ้านกับที่ทำงานห่างเกือบร้อยโล แถมรถติดอีก) และนั่งทำงานหน้าคอมพ์อีกวันละประมาณ 6 ชม. (อ้าวทำไมเวลาขับรถกับเวลาทำงานมันพอกันเลยล่ะ )

ทีนี้ล่าสุดเมื่อเช้านี้ขับรถมาทำงาน ก็รู้สึกเหมือนอาการปวดมันจะกลับมาอีกแล้ว ฮือๆ    เกริ่นมานานละ เข้าเรื่องเลย อยากจะรบกวนถามค่ะ ว่า
1.การนวดจะช่วยบรรเทาอาการปวดได้ไหมคะ หรือใครมีร้านนวดหรือกดจุดดีๆ แนะนำหน่อยค่ะ
2. ท่าที่นั่งทำงานหรือขับรถมีผลไหมคะ (มีคนบอกว่าไม่น่าเกี่ยวเพราะปวดข้างขวาข้างเดียว) โต๊ะทำงานเป็นโต๊ะใหญ่ๆ หน่อย มอนิเตอร์กับคีย์บอร์ดอยู่ระดับเดียวกัน (คือไม่มีถาดชักออกมาวางคีย์บอร์ดแบบโต๊ะคอมพ์ทั่วไป) เราวางแขนตั้งแต่ข้อศอกจนถึงมือราบบนโต๊ะค่ะ   เก้าอี้ตัวใหญ่ๆ (ใหญ่กว่าก้นเรามาก) พิงพนักไม่ถึง  (ทำงานมา 3 ปี ละ เพิ่งมาออกอาการตอนนี้ -*-)

ขอบคุณทุกคำแนะนำค่ะ