US BOX OFFICE August 8-10, 2014
(แปล-เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
แฟนๆ ของเต่านินจา ทั้งรุ่นเด็กและรุ่นใหญ่ต่างพาไปต้นอรับการกลับมาของขวัญใจตัวเอง และทำให้ Teenage Mutant Ninja Turtles ฉบับใหม่กลายเป็นหนึ่งในหนังที่เปิดตัวได้แรงที่สุดของเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม Guardians of the Galaxy ยังไปได้สวย เมื่อทำาสถิติรายได้สัปดาห์ที่ 2 ที่สูงที่สุดของซัมเมอร์นี้
หนัง 12 เรื่องแรกในอันดับ ฟันเงินไป 174.2 ล้านเหรียญ เพิ่มจากสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 22% ทำให้เดือนสิงหาคมนี้กำลังจะกลายเป็นเดือนสิงหาคมที่ทำเงินได้มากที่สุด และมีแนวโน้มจะเป็นครั้งแรกที่รายได้ของเดือนนี้จะผ่านหลักพันล้านไปได้
หนัง Teenage Mutant Ninja Turtles ครองแชมป์ด้วยรายได้เปิดตัว 65.6 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 4 หนังเดือนสิงหาคมเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล มากกว่าที่ G.I. Joe: Rise of Cobra (54.7 ล้านเหรียญ) เคยทำไว้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความต่างของตั๋ว 3 มิติ และราคาบัตรที่แพงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้รายได้แค่สัปดาห์เปิดตัวของหนัง ก็มากกว่าที่ TMNT ฉบับปี 2007 ทำได้ตลอดโปรแกรม สาเหตุในการเปิดตัวที่แข็งแรง หลักๆ เลยน่าจะมาจาก พลังของชื่อ เต่านินจา ไม่ว่าจะเป็น คนดูอายุมากกว่า 25 ปี ที่เคยดูและชื่นชอบเต่านินจาจากยุค 80s - 90s, ขณะที่คนดูเด็กๆ ก็ต่อกันติดกับตัวละครชุดนี้ ผ่านทางการ์ตูนในช่อง นิคเกิลโอเดียน ที่กำลังออกฉายอยู่และได้นับความนิยม หนังเวอร์ชันนี้ถือว่าจัดการกับชื่อของเต่านินจาได้เป็นอย่างดี ภาพของตัวละครนั้นดูดี และแตกต่างไปจากหนังเรื่องก่อนๆ ด้วยการใช้ซีจี แล้วเติมสไตล์ด้านภาพของไมเคิล เบย์ลงไป ผลลัพธ์ก็คือ หนังสร้างความสนใจให้กับคนดูหนังทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สำเร็จ โดยคนดู 55% นั้นอายุมากกว่า 25
แม้คำวิจารณ์จะไม่ดีนักแค่ 19% จากมะเขือเน่า ปากต่อปากก็ก้ำกึ่ง คะแนน B จากซีนีมาสกอร์ ซึ่งล้วนไม่ใช่เรื่องดี ทำให้อนาคตของหนังไม่ดีนัก แต่ถ้าทำได้แบบ Transformers เรื่องล่าสุด หนังก็น่าจะเก็บเงินได้มากกว่า 160 ล้านเหรียญ และไปได้ว่าน่าจะทำได้เกือบๆ 180 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งดีกว่า G.I. Joe: The Rise of Cobra ที่เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกันนี้ของปี 2009 แต่กับรายได้เปิดตัวก็มากพอจะทำให้พาราเมาท์ประกาศสร้างภาค 2 ที่จะออกฉายในวันที่ 3 มิถุนายน 2016 กันแล้ว
ในอันดับ 2 เป็น Guardians of the Galaxy รายได้หล่น 55% ทำเงินไป 42.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้สัปดาห์ที่ 2 ที่มากที่สุดของซัมเมอร์นี้ ขณะที่อัตราการตก ก็พอๆ กับ Captain America: The Winter Soldier และ Thor: The Dark World มาถึงตอนนี้หนังทำเงินไปแล้วรวม 176.5 ล้านเหรียญ เป็นรายได้ 10 วันที่ดีที่สุดของปีนี้ และยังมีทางจะกลายเป็นหนังซัมเมอร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปีนี้ ด้วยรายได้ที่น่าจะมากกว่า 260 ล้านเหรียญ
Into the Storm เปิดตัวในอันดับ 3 ด้วยรายได้ 17.3 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าหนัง Final Destination 5 ของผู้กำกับสตีเวน เควล ที่ทำได้ 18 ล้านเหรียญ จากการเปิดตัวในสัปดาห์เดียวกันเมื่อปี 2011 อย่างไรก็ตาม หนังก็ทำได้ดีกว่า Snakes on a Plane (15.2 ล้านเหรียญ) ซึ่งเป็นหนังที่มีลักษณะของงานเกรด บี เหมือนๆ กัน และหนังที่เหมาะมากสำหรับเปรียบเทียบกับ Into The Storm ก็คือหนังพายุทอร์นาโด อย่าง Twister ซึ่งเปิดตัวไป 41 ล้านเหรียญเมื่อปี 1996 ที่แตกต่างกันชัดๆ ของหนัง 2 เรื่องนี้คือ ขณะที่ Twister มีเรื่องราวของตัวละครให้เกาะติด หนัง Into the Storm จะเน้นไปที่ภาพซีจีของพายุที่เข้าถล่มเมือง หนังได้คนดู 58% เป็นผู้หญิงและ 71% อายุเกิน 25 ปี และได้คะแนน B จากซีนีมาสกอร์ และเป็นไปตามปกติของหนังแนวนี้ ที่รายได้วันแรกๆ จะดีมากๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ ที่หนังจะทำรายได้แค่ราวเกือบๆ 50 ล้านเหรียญ
The Hundred-Foot Journey เปิดตัวที่อันดับ 4 รายได้ 11 ล้านเหรียญ สูงกว่า May's Million Dollar Arm แต่ทำได้แย่กว่าหนังขายความประทับใจที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมเหมือนกันอย่าง Eat Pray Love (23.1 ล้านเหรียญ) และ Julie & Julia (20 ล้านเหรียญ) แต่ปากต่อปากที่แข็งแรง และการที่ได้คนดูอายุมาก (69% อายุเกิ 35 ปี) หนังน่าจะยืนระยะได้ดี และคงทำเงินประมาณ 40 ล้านเหรียญ
Lucy ยังอยู่ในท็อปไฟว์ รายได้ตกแค่ 48% ทำเงินอีก 9.5 ล้านเหรียญ ถึงตอนนี้หนังบู๊ สการ์เล็ทท์ โจแฮนสสัน และลุค เบสซง ทำงานไปแล้ว 97.5 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 100 ล้านได้ในสัปดาห์หน้า
Step Up All In คว่ำสนิท เมื่อทำเงินเปิดตัวแค่ 6.5 ล้านเหรียญ ตกจากภาคก่อนถึง 45% กลายเป็นหนังเปิดตัวได้แย่ที่สุดในชุด แม้จะทำรายได้ในตลาดต่างประเทศได้สวยงาม แต่การที่จะมีหนังภาค 6 ออกฉายในอเมริกาก็ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากๆ ที่น่าสนใจก็คือ ในปีนี้ ไลออนเกทส์/ซัมมิทปล่อยหนังที่เปิดตัวเกิน 2,000 โรง มาแล้ว 6 เรื่อง ยกเว้น Divergent ที่ประสบความสำเร็จ หนังอีกห้าเรื่องล้วนเปิดตัวต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญ
แม้จะได้คำวิจารณ์ที่ดี และปากต่อปากแข็งแรง (คะแนน A จากซีนีมาสกอร์) หนัง Get On Up ก็ยังลุกไม่ขึ้นในสัปดาห์ที่สอง หนังประวัติเจมส์ บราวน์เรื่องนี้ รายได้ร่วงถึง 62% ทำเงินมาอีก 5.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 23.1 ล้านเหรียญเท่านั้น
A Most Wanted Man รายได้ตกแค่ 32% ทำเงินไป 2.2 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมเพิ่มไปถึง 10.4 ล้านเหรียญแล้ว ส่วนหนัง Boyhood ของริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์เพิ่มโรงเป็น 507 โรงได้เงินมาอีก 1.97 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 10.5 ล้านเหรียญ และจะเพิ่มโรงฉายไปเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์
หนัง Deepsea Challenge 3D ของเจมส์ คาเมรอน เปิดตัว 149,879 เหรียญจาก 304 โรง ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อโรงนั้นดำดิ่งมากๆ 493 เหรียญต่อโรง ขณะที่หนังโซอี คาซาน-แดเนียล แรดคลิฟฟ์ What If เปิดตัว 20 โรงทำเงินไป 133,898 เหรียญ เทียบกันแล้ว หนังเรื่องก่อนของคาซาน Ruby Sparks ที่เปิดตัว 13 โรง ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ก่อนจะปิดตัวที่ 2.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังสำหรับ What If ที่แม้แรดคลิฟฟ์จะช่วยให้หนังได้โรงเยอะขึ้น แต่รายได้เปิดตัวก็ยังไม่ดีพอๆ กัน
ในตลาดนอกอเมริกา Guardians of the Galaxy ได้เงินอีก 40.1 ล้านเหรียญ รายได้รวมพุ่งไปแตะ 137 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัวที่ออสเตรเลียในอันดับ 1 ด้วยรายได้ 6 ล้านเหรียญ (8.2 ล้านเหรียญถ้ารวมรอบพรีวิว) สุดสัปดาห์หน้ายังมีตลาดใหม่ๆ เปิดตัวอีก โดยมีฝรั่งเศส และสเปน รวมอยู่ด้วย
Teenage Mutant Ninja Turtles เปิดตัว 28.7 ล้านเหรียญในบางประเทศ และมีตลาดหลักแค่ที่รัสเซีย (11.1 ล้านเหรียญ) และเม็กซิโก (6.9 ล้านเหรียญ) ซึ่งถือว่าเป็นรายได้เปิดตัวที่ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องชนกับ Dawn of the Planet of the Apes และ Guardians of the Galaxy สำหรับเต่านินจา เป็นชื่อที่ทั่วโลกรู้จักกันดี และหนังเวอร์ชันนี้ก็อยู่ในการรับรู้ของคนดู ตลอดจนแฟนๆ แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะยังไม่น่าพอใจนัก แต่หนังก็น่าจะทำเงินในตลาดต่างประเทศเกินกว่า 300 ล้านอยู่ดี
Dawn of the Planet of the Apes ได้เงินอีก 29.5 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้สวยที่เยอรมันนี (6.2 ล้านเหรียญ) รายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 306.1 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่า Rise of the Planet of the Apes (305 ล้านเหรียญ) กับจีนและญี่ปุ่นที่ยังไม่เปิดตัว Dawn น่าจะทำเงินได้เกิน 400 ล้านเหรียญ
Transformers: Age of Extinction เปิดตัวครบแล้วทุกตลาดในสัปดาห์นี้ หนังทำงาน 6.3 ล้านเหรียญในญี่ปุ่น ซึ่งพอๆ กับหนังภาคสอง และ 2.8 ล้านเหรียญที่สเปน ตอนนี้หนังอยู่ในอันดับ 9 ของอันดับหนังทำเงินตลอดกาลนอกอเมริกา เหนือกว่า Transformers: Dark of the Moon แล้ว
อ่านแล้วถูกใจ คลิกไลค์ให้ได้ที่
www.facebook.com/Sadaos ครับ
เต่านินจา สำแดงพลัง Step Up เต้นไม่ออก หนังทำเงินอเมริกาสัปดาห์นี้
(แปล-เรียบเรียงจาก www.boxofficemojo.com)
แฟนๆ ของเต่านินจา ทั้งรุ่นเด็กและรุ่นใหญ่ต่างพาไปต้นอรับการกลับมาของขวัญใจตัวเอง และทำให้ Teenage Mutant Ninja Turtles ฉบับใหม่กลายเป็นหนึ่งในหนังที่เปิดตัวได้แรงที่สุดของเดือนสิงหาคม อย่างไรก็ตาม Guardians of the Galaxy ยังไปได้สวย เมื่อทำาสถิติรายได้สัปดาห์ที่ 2 ที่สูงที่สุดของซัมเมอร์นี้
หนัง 12 เรื่องแรกในอันดับ ฟันเงินไป 174.2 ล้านเหรียญ เพิ่มจากสัปดาห์เดียวกันของปีก่อน 22% ทำให้เดือนสิงหาคมนี้กำลังจะกลายเป็นเดือนสิงหาคมที่ทำเงินได้มากที่สุด และมีแนวโน้มจะเป็นครั้งแรกที่รายได้ของเดือนนี้จะผ่านหลักพันล้านไปได้
หนัง Teenage Mutant Ninja Turtles ครองแชมป์ด้วยรายได้เปิดตัว 65.6 ล้านเหรียญ รั้งอันดับ 4 หนังเดือนสิงหาคมเปิดตัวสูงสุดตลอดกาล มากกว่าที่ G.I. Joe: Rise of Cobra (54.7 ล้านเหรียญ) เคยทำไว้ ส่วนหนึ่งก็เพราะความต่างของตั๋ว 3 มิติ และราคาบัตรที่แพงขึ้นตามอัตราเงินเฟ้อ นอกจากนี้รายได้แค่สัปดาห์เปิดตัวของหนัง ก็มากกว่าที่ TMNT ฉบับปี 2007 ทำได้ตลอดโปรแกรม สาเหตุในการเปิดตัวที่แข็งแรง หลักๆ เลยน่าจะมาจาก พลังของชื่อ เต่านินจา ไม่ว่าจะเป็น คนดูอายุมากกว่า 25 ปี ที่เคยดูและชื่นชอบเต่านินจาจากยุค 80s - 90s, ขณะที่คนดูเด็กๆ ก็ต่อกันติดกับตัวละครชุดนี้ ผ่านทางการ์ตูนในช่อง นิคเกิลโอเดียน ที่กำลังออกฉายอยู่และได้นับความนิยม หนังเวอร์ชันนี้ถือว่าจัดการกับชื่อของเต่านินจาได้เป็นอย่างดี ภาพของตัวละครนั้นดูดี และแตกต่างไปจากหนังเรื่องก่อนๆ ด้วยการใช้ซีจี แล้วเติมสไตล์ด้านภาพของไมเคิล เบย์ลงไป ผลลัพธ์ก็คือ หนังสร้างความสนใจให้กับคนดูหนังทั้งเด็กและผู้ใหญ่ได้สำเร็จ โดยคนดู 55% นั้นอายุมากกว่า 25
แม้คำวิจารณ์จะไม่ดีนักแค่ 19% จากมะเขือเน่า ปากต่อปากก็ก้ำกึ่ง คะแนน B จากซีนีมาสกอร์ ซึ่งล้วนไม่ใช่เรื่องดี ทำให้อนาคตของหนังไม่ดีนัก แต่ถ้าทำได้แบบ Transformers เรื่องล่าสุด หนังก็น่าจะเก็บเงินได้มากกว่า 160 ล้านเหรียญ และไปได้ว่าน่าจะทำได้เกือบๆ 180 ล้านเหรียญเลยทีเดียว ซึ่งดีกว่า G.I. Joe: The Rise of Cobra ที่เปิดตัวในสัปดาห์เดียวกันนี้ของปี 2009 แต่กับรายได้เปิดตัวก็มากพอจะทำให้พาราเมาท์ประกาศสร้างภาค 2 ที่จะออกฉายในวันที่ 3 มิถุนายน 2016 กันแล้ว
ในอันดับ 2 เป็น Guardians of the Galaxy รายได้หล่น 55% ทำเงินไป 42.1 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นรายได้สัปดาห์ที่ 2 ที่มากที่สุดของซัมเมอร์นี้ ขณะที่อัตราการตก ก็พอๆ กับ Captain America: The Winter Soldier และ Thor: The Dark World มาถึงตอนนี้หนังทำเงินไปแล้วรวม 176.5 ล้านเหรียญ เป็นรายได้ 10 วันที่ดีที่สุดของปีนี้ และยังมีทางจะกลายเป็นหนังซัมเมอร์ที่ทำรายได้สูงสุดของปีนี้ ด้วยรายได้ที่น่าจะมากกว่า 260 ล้านเหรียญ
Into the Storm เปิดตัวในอันดับ 3 ด้วยรายได้ 17.3 ล้านเหรียญ ซึ่งต่ำกว่าหนัง Final Destination 5 ของผู้กำกับสตีเวน เควล ที่ทำได้ 18 ล้านเหรียญ จากการเปิดตัวในสัปดาห์เดียวกันเมื่อปี 2011 อย่างไรก็ตาม หนังก็ทำได้ดีกว่า Snakes on a Plane (15.2 ล้านเหรียญ) ซึ่งเป็นหนังที่มีลักษณะของงานเกรด บี เหมือนๆ กัน และหนังที่เหมาะมากสำหรับเปรียบเทียบกับ Into The Storm ก็คือหนังพายุทอร์นาโด อย่าง Twister ซึ่งเปิดตัวไป 41 ล้านเหรียญเมื่อปี 1996 ที่แตกต่างกันชัดๆ ของหนัง 2 เรื่องนี้คือ ขณะที่ Twister มีเรื่องราวของตัวละครให้เกาะติด หนัง Into the Storm จะเน้นไปที่ภาพซีจีของพายุที่เข้าถล่มเมือง หนังได้คนดู 58% เป็นผู้หญิงและ 71% อายุเกิน 25 ปี และได้คะแนน B จากซีนีมาสกอร์ และเป็นไปตามปกติของหนังแนวนี้ ที่รายได้วันแรกๆ จะดีมากๆ แล้วก็ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ ที่หนังจะทำรายได้แค่ราวเกือบๆ 50 ล้านเหรียญ
The Hundred-Foot Journey เปิดตัวที่อันดับ 4 รายได้ 11 ล้านเหรียญ สูงกว่า May's Million Dollar Arm แต่ทำได้แย่กว่าหนังขายความประทับใจที่เปิดตัวในเดือนสิงหาคมเหมือนกันอย่าง Eat Pray Love (23.1 ล้านเหรียญ) และ Julie & Julia (20 ล้านเหรียญ) แต่ปากต่อปากที่แข็งแรง และการที่ได้คนดูอายุมาก (69% อายุเกิ 35 ปี) หนังน่าจะยืนระยะได้ดี และคงทำเงินประมาณ 40 ล้านเหรียญ
Lucy ยังอยู่ในท็อปไฟว์ รายได้ตกแค่ 48% ทำเงินอีก 9.5 ล้านเหรียญ ถึงตอนนี้หนังบู๊ สการ์เล็ทท์ โจแฮนสสัน และลุค เบสซง ทำงานไปแล้ว 97.5 ล้านเหรียญ และน่าจะผ่าน 100 ล้านได้ในสัปดาห์หน้า
Step Up All In คว่ำสนิท เมื่อทำเงินเปิดตัวแค่ 6.5 ล้านเหรียญ ตกจากภาคก่อนถึง 45% กลายเป็นหนังเปิดตัวได้แย่ที่สุดในชุด แม้จะทำรายได้ในตลาดต่างประเทศได้สวยงาม แต่การที่จะมีหนังภาค 6 ออกฉายในอเมริกาก็ต้องบอกเลยว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมากๆ ที่น่าสนใจก็คือ ในปีนี้ ไลออนเกทส์/ซัมมิทปล่อยหนังที่เปิดตัวเกิน 2,000 โรง มาแล้ว 6 เรื่อง ยกเว้น Divergent ที่ประสบความสำเร็จ หนังอีกห้าเรื่องล้วนเปิดตัวต่ำกว่า 10 ล้านเหรียญ
แม้จะได้คำวิจารณ์ที่ดี และปากต่อปากแข็งแรง (คะแนน A จากซีนีมาสกอร์) หนัง Get On Up ก็ยังลุกไม่ขึ้นในสัปดาห์ที่สอง หนังประวัติเจมส์ บราวน์เรื่องนี้ รายได้ร่วงถึง 62% ทำเงินมาอีก 5.2 ล้านเหรียญ รายได้รวมเป็น 23.1 ล้านเหรียญเท่านั้น
A Most Wanted Man รายได้ตกแค่ 32% ทำเงินไป 2.2 ล้านเหรียญ ตอนนี้รายได้รวมเพิ่มไปถึง 10.4 ล้านเหรียญแล้ว ส่วนหนัง Boyhood ของริชาร์ด ลิงค์เลเตอร์เพิ่มโรงเป็น 507 โรงได้เงินมาอีก 1.97 ล้านเหรียญ ตอนนี้หนังทำเงินไปแล้ว 10.5 ล้านเหรียญ และจะเพิ่มโรงฉายไปเรื่อยๆ ในแต่ละสัปดาห์
หนัง Deepsea Challenge 3D ของเจมส์ คาเมรอน เปิดตัว 149,879 เหรียญจาก 304 โรง ซึ่งรายได้เฉลี่ยต่อโรงนั้นดำดิ่งมากๆ 493 เหรียญต่อโรง ขณะที่หนังโซอี คาซาน-แดเนียล แรดคลิฟฟ์ What If เปิดตัว 20 โรงทำเงินไป 133,898 เหรียญ เทียบกันแล้ว หนังเรื่องก่อนของคาซาน Ruby Sparks ที่เปิดตัว 13 โรง ทำได้ดีกว่าเล็กน้อย ก่อนจะปิดตัวที่ 2.5 ล้านเหรียญ ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าผิดหวังสำหรับ What If ที่แม้แรดคลิฟฟ์จะช่วยให้หนังได้โรงเยอะขึ้น แต่รายได้เปิดตัวก็ยังไม่ดีพอๆ กัน
ในตลาดนอกอเมริกา Guardians of the Galaxy ได้เงินอีก 40.1 ล้านเหรียญ รายได้รวมพุ่งไปแตะ 137 ล้านเหรียญ หนังเปิดตัวที่ออสเตรเลียในอันดับ 1 ด้วยรายได้ 6 ล้านเหรียญ (8.2 ล้านเหรียญถ้ารวมรอบพรีวิว) สุดสัปดาห์หน้ายังมีตลาดใหม่ๆ เปิดตัวอีก โดยมีฝรั่งเศส และสเปน รวมอยู่ด้วย
Teenage Mutant Ninja Turtles เปิดตัว 28.7 ล้านเหรียญในบางประเทศ และมีตลาดหลักแค่ที่รัสเซีย (11.1 ล้านเหรียญ) และเม็กซิโก (6.9 ล้านเหรียญ) ซึ่งถือว่าเป็นรายได้เปิดตัวที่ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องชนกับ Dawn of the Planet of the Apes และ Guardians of the Galaxy สำหรับเต่านินจา เป็นชื่อที่ทั่วโลกรู้จักกันดี และหนังเวอร์ชันนี้ก็อยู่ในการรับรู้ของคนดู ตลอดจนแฟนๆ แม้ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจจะยังไม่น่าพอใจนัก แต่หนังก็น่าจะทำเงินในตลาดต่างประเทศเกินกว่า 300 ล้านอยู่ดี
Dawn of the Planet of the Apes ได้เงินอีก 29.5 ล้านเหรียญ โดยเปิดตัวได้สวยที่เยอรมันนี (6.2 ล้านเหรียญ) รายได้ต่างประเทศอยู่ที่ 306.1 ล้านเหรียญ ซึ่งมากกว่า Rise of the Planet of the Apes (305 ล้านเหรียญ) กับจีนและญี่ปุ่นที่ยังไม่เปิดตัว Dawn น่าจะทำเงินได้เกิน 400 ล้านเหรียญ
Transformers: Age of Extinction เปิดตัวครบแล้วทุกตลาดในสัปดาห์นี้ หนังทำงาน 6.3 ล้านเหรียญในญี่ปุ่น ซึ่งพอๆ กับหนังภาคสอง และ 2.8 ล้านเหรียญที่สเปน ตอนนี้หนังอยู่ในอันดับ 9 ของอันดับหนังทำเงินตลอดกาลนอกอเมริกา เหนือกว่า Transformers: Dark of the Moon แล้ว
อ่านแล้วถูกใจ คลิกไลค์ให้ได้ที่ www.facebook.com/Sadaos ครับ