วันนี้มีของอร่อยมาฝากกันเหมือนเดิมคร้าบบ
จะพาไปลอง อาหารญี่ปุ่น ที่แปลกไปกว่าที่เรา ๆ คุ้นเคยกันทั่วไป
โดยเฉพาะ อาหารในแบบฉบับ Kaiseki ซึ่ง จะเสิร์ฟเป็นคอร์ส
และ นอกจาก ความปราณีตในการปรุงแล้ว ในด้านการตกแต่งจาน
ยังแสดงออกถึงความพิถีพิถันอย่างมีศิลปะอีกด้วย
พร้อมแล้วก็มากันเลยที่ ร้าน "
Umenohana " (
อุเมะโนะฮานะ )
บนชั้น 2 โครงการนิฮอนมูระมอลล์ ซ.ทองหล่อ13
หน้าร้านเป็นบานประตูไม้แบบญี่ปุ่น
เห็นป้ายนี้แล้วก็เข้าไปได้เลยคร้าบบ
Umenohana เปิดให้บริการในญี่ปุ่นมากว่า 40 ปี
มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น กว่า 80 สาขาด้วยกัน
โดยในประเทศไทย มีสาขาแรก ก็คือ นิฮอนมูระมอลล์ นี่ครับ
ร้านได้รับการออกแบบ และ จัดสร้างโดยทีมงานจากญี่ปุ่นทั้งหมด
ที่นี่จะมีห้องส่วนตัว หลากหลายขนาดไว้บริการ
โดยแต่ละห้องนี่ จะตกแต่งไว้สวยมาก
เข้ามานึกว่าอยู่ในบ้านแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ เลย
ห้องนี้เป็นที่นั่งแบบเก้าอี้
ห้องส่วนตัว แบบ 2 ที่นั่งก็ยังมีด้วยครับ
เผื่อใครมาทานมื้อพิเศษ แล้วอยากได้ห้อง Private แบบนี้
นอกจากห้องส่วนตัวแล้ว ห้องนั่งรวม สำหรับลูกค้า Walk In ก็มีนะครับ
แต่พอดีมีลูกค้านั่งอยู่หลายโต๊ะ เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชมกัน
มานั่งปุป ลองดูอุปกรณ์ในการหม่ำกันก่อน
เครื่องดื่ม ผมเลือกเป็นชาเขียวร้อน หอม ๆ
ตอนนี้ทางร้าน มี
เทศกาลปูขน นำเข้ามาจาก
ฮอกไกโด
จะมีบริการตั้งแต่ช่วงนี้ ไปจนถึงแค่เดือน พย. เท่านั้น
โดยทางร้าน ได้จัดเป็นเซท ไคเซกิ แบบพิเศษขึ้นด้วย
เรียกว่า
Kaiseki Irodori Course
โดยจะเสิร์ฟทั้งหมดตามภาพนี้เลยฮะ
สนนราคา คอร์ส Irodori นี้ 4,500 บาท
แต่ถ้าอยากจะสั่งเฉพาะปูขนก็ได้เหมือนกัน ราคาตัวละ 2,400 บาท
โดยเจ้าปูขนนี่ สามารถเลือกได้ว่า จะทานแบบ นึ่ง , ย่างถ่าน หรือ แบบเย็น
มาลองชมเมนูแรก ในคอร์ส Irodori กันเลยครับ
เป็น Mineoka Tofu Topped with Fresh Uni
เต้าหู้มิเนโอกะ กับ ไข่หอยเม่น ราดโดยโชยุสูตรพิเศษและ วาซาบิ
เนื้อเนียน นุ่ม เหมือนคัสตาร์ด ติดใจสุด ๆ ฮะ
แถมมีไข่หอยเม่นสด ๆ กับโชยุ ช่วยเพิ่มรส ให้อร่อยยิ่งขึ้น
เมนูที่ 2 เป็น หอยเป๋าฮื้อ ราดซอสคิโมมิโสะ
ตัวหอยนึ่งมาสุกกำลังพอดี หนึบ ๆ ไม่เหนียวครับ
ซอสคิโมมิโสะ ก็รสกลมกล่อม มีกลิ่นหอม ๆ ของผักอะไรสักอย่าง
ทานรวมกันแล้ว ฟินมาก
เมนูที่ 3 เสิร์ฟเป็น ไข่ตุ๋นซอสปู
ไข่ตุ๋นเนื้อเนียน ๆ ราดด้วยซอสที่เต็มไปด้วยเนื้อปูขน
เมนูที่ 4 ถึงคิวพระเอกของเรา กับเจ้า ปูขน ที่บินตรงมาจาก ฮอกไกโด
เราสามารถเลือกทำได้ 3 แบบด้วยกัน
แบบแรก เป็น ปูขนย่างถ่าน จะมาบนเตาแบบนี้เลยฮะ
กะด้วยสายตา ตัวนึง น่าจะเกินกิโลแน่นอน
แบบย่างถ่านนี่ จะทำให้ได้กลิ่นหอม ๆ จากการย่าง
แต่แนะนำว่า อย่าทิ้งไว้นานนะครับ ไม่งั้นเนื้อปูจะแห้งเกิน
แบบที่สอง ทำแบบนึ่ง มาร้อน ๆ เลย
มาถึงก็ทานได้เลยครับ เนื้อปูยังคงความชุ่มฉ่ำอยู่
สุดท้าย ทานแบบ ปูเย็น จะเสิร์ฟมาบนจานที่รองด้วยน้ำแข็ง
แบบนี้จะได้รสชาติแบบ ออริจินัล สุด ๆ
ลองแกะปูจากแค่ขาเดียวมาให้ชมกัน เนื้อเยอะมากกกคับ
ตัวนึงนี่ทานกัน 2-3 คนได้สบาย ๆ
ปูขน เนื้อจะเป็นเส้นยาว ๆ รสหวานธรรมชาติ
เมนูที่ 5 ในคอร์ส เป็น Sashimi
เสิร์ฟเป็น ฮามาจิ และ ทูน่า
มาแบบชิ้นหนา ๆ กำลังดี เรื่องความสดไม่ต้องพูดถึง
ป้ายวาซาบินิด จิ้มโชยุหน่อย เคลิ้มเลยยย
เมนูที่ 6 เป็น Kuroge Wagyu Yogan Yaki
เนื้อวากิวย่างบนหินลาวา อีกสุดยอดเมนู จากเกาะคิวชู
เค้าจะมีหินลาวา ร้อน ๆ แบบนี้
พร้อมกระดาษกั้น ไม่ให้กระเด็นเลอะเสื้อเวลาย่าง
เอาเนยใส่ลงกะทะนิดนึง แล้วก็คีบเนื้อลงไปย่างได้เลย
เนื้อวากิว นุ่มมาก ๆ ครับ ย่างให้สุกแค่มีเดียมแรก็พอ
มาต่อ เมนูที่ 7 กัน เป็น Kani Chirashi Sushi
เป็นข้าวหน้าปูขน ที่แกะมาแต่เนื้อ ๆ พร้อม โรยด้วยไข่ปลาแซลมอน
เมนู ที่ 8 เป็น Kegani Miso Soup
เป็น ซุปมิโซะ ที่ใส่ปูขนมาด้วย จะมีตรงส่วนกรรเชียง 2 ชิ้นในถ้วย
แกะแต่เนื้อ ๆ ทานพร้อมซุปมิโซะ สะใจคนชอบทานปูกันเลยฮะ
เมนู ที่ 9 เป็นอย่างสุดท้ายในคอร์ส คือ ของหวาน
มี 3 เมนู ด้วยกัน (เลือกได้ 1 อย่าง)
เมนูแรก เป็น Tofu Pudding
พุดดิ้งเต้าหู้ เนื้อเนียนนนนนนน นุ่มมากกก
ราดด้วยน้ำเชื่อมหวาน ๆ คล้ายน้ำตาลทรายแดง อร่อยสุด ๆ ครับ
อย่างที่สอง เป็น ไอศครีม
สุดท้าย เป็น Mineoka Fruit จะคล้าย ๆ เต้าฮวยฟรุตสลัด
ชาโฮจิจะ ร้อน ๆ เสิร์ฟอีกคนละถ้วย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารด้วย
นอกจาก อาหารอร่อย ๆ แล้ว ด้านบริการ ก็สุดยอดเช่นกัน
ใครอยากลองก็ไปที่ Umenohana ซ.ทองหล่อ 13 ได้เลย
ปล. มื้อเที่ยง มี Set Lunch ราคา สุดคุ้มด้วยคับ (เซทซูชิ5-600เท่านั้น)
รูปร้านที่ยังไม่ได้รีวิว เอาใส่เพจไว้ให้ชมกันก่อน ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/reviewbenz47
[SR] อร่อย อร่อย เทศกาลปูขน จาก ฮอกไกโด กับ เซท Keiseki Irodori Course @ " Umenohana " ( Thonglor 13 )
จะพาไปลอง อาหารญี่ปุ่น ที่แปลกไปกว่าที่เรา ๆ คุ้นเคยกันทั่วไป
โดยเฉพาะ อาหารในแบบฉบับ Kaiseki ซึ่ง จะเสิร์ฟเป็นคอร์ส
และ นอกจาก ความปราณีตในการปรุงแล้ว ในด้านการตกแต่งจาน
ยังแสดงออกถึงความพิถีพิถันอย่างมีศิลปะอีกด้วย
พร้อมแล้วก็มากันเลยที่ ร้าน " Umenohana " ( อุเมะโนะฮานะ )
บนชั้น 2 โครงการนิฮอนมูระมอลล์ ซ.ทองหล่อ13
หน้าร้านเป็นบานประตูไม้แบบญี่ปุ่น
เห็นป้ายนี้แล้วก็เข้าไปได้เลยคร้าบบ
Umenohana เปิดให้บริการในญี่ปุ่นมากว่า 40 ปี
มีอยู่ทั่วประเทศญี่ปุ่น กว่า 80 สาขาด้วยกัน
โดยในประเทศไทย มีสาขาแรก ก็คือ นิฮอนมูระมอลล์ นี่ครับ
ร้านได้รับการออกแบบ และ จัดสร้างโดยทีมงานจากญี่ปุ่นทั้งหมด
ที่นี่จะมีห้องส่วนตัว หลากหลายขนาดไว้บริการ
โดยแต่ละห้องนี่ จะตกแต่งไว้สวยมาก
เข้ามานึกว่าอยู่ในบ้านแบบญี่ปุ่นแท้ ๆ เลย
ห้องนี้เป็นที่นั่งแบบเก้าอี้
ห้องส่วนตัว แบบ 2 ที่นั่งก็ยังมีด้วยครับ
เผื่อใครมาทานมื้อพิเศษ แล้วอยากได้ห้อง Private แบบนี้
นอกจากห้องส่วนตัวแล้ว ห้องนั่งรวม สำหรับลูกค้า Walk In ก็มีนะครับ
แต่พอดีมีลูกค้านั่งอยู่หลายโต๊ะ เลยไม่ได้ถ่ายภาพมาให้ชมกัน
มานั่งปุป ลองดูอุปกรณ์ในการหม่ำกันก่อน
เครื่องดื่ม ผมเลือกเป็นชาเขียวร้อน หอม ๆ
ตอนนี้ทางร้าน มี เทศกาลปูขน นำเข้ามาจาก ฮอกไกโด
จะมีบริการตั้งแต่ช่วงนี้ ไปจนถึงแค่เดือน พย. เท่านั้น
โดยทางร้าน ได้จัดเป็นเซท ไคเซกิ แบบพิเศษขึ้นด้วย
เรียกว่า Kaiseki Irodori Course
โดยจะเสิร์ฟทั้งหมดตามภาพนี้เลยฮะ
สนนราคา คอร์ส Irodori นี้ 4,500 บาท
แต่ถ้าอยากจะสั่งเฉพาะปูขนก็ได้เหมือนกัน ราคาตัวละ 2,400 บาท
โดยเจ้าปูขนนี่ สามารถเลือกได้ว่า จะทานแบบ นึ่ง , ย่างถ่าน หรือ แบบเย็น
มาลองชมเมนูแรก ในคอร์ส Irodori กันเลยครับ
เป็น Mineoka Tofu Topped with Fresh Uni
เต้าหู้มิเนโอกะ กับ ไข่หอยเม่น ราดโดยโชยุสูตรพิเศษและ วาซาบิ
เนื้อเนียน นุ่ม เหมือนคัสตาร์ด ติดใจสุด ๆ ฮะ
แถมมีไข่หอยเม่นสด ๆ กับโชยุ ช่วยเพิ่มรส ให้อร่อยยิ่งขึ้น
เมนูที่ 2 เป็น หอยเป๋าฮื้อ ราดซอสคิโมมิโสะ
ตัวหอยนึ่งมาสุกกำลังพอดี หนึบ ๆ ไม่เหนียวครับ
ซอสคิโมมิโสะ ก็รสกลมกล่อม มีกลิ่นหอม ๆ ของผักอะไรสักอย่าง
ทานรวมกันแล้ว ฟินมาก
เมนูที่ 3 เสิร์ฟเป็น ไข่ตุ๋นซอสปู
ไข่ตุ๋นเนื้อเนียน ๆ ราดด้วยซอสที่เต็มไปด้วยเนื้อปูขน
เมนูที่ 4 ถึงคิวพระเอกของเรา กับเจ้า ปูขน ที่บินตรงมาจาก ฮอกไกโด
เราสามารถเลือกทำได้ 3 แบบด้วยกัน
แบบแรก เป็น ปูขนย่างถ่าน จะมาบนเตาแบบนี้เลยฮะ
กะด้วยสายตา ตัวนึง น่าจะเกินกิโลแน่นอน
แบบย่างถ่านนี่ จะทำให้ได้กลิ่นหอม ๆ จากการย่าง
แต่แนะนำว่า อย่าทิ้งไว้นานนะครับ ไม่งั้นเนื้อปูจะแห้งเกิน
แบบที่สอง ทำแบบนึ่ง มาร้อน ๆ เลย
มาถึงก็ทานได้เลยครับ เนื้อปูยังคงความชุ่มฉ่ำอยู่
สุดท้าย ทานแบบ ปูเย็น จะเสิร์ฟมาบนจานที่รองด้วยน้ำแข็ง
แบบนี้จะได้รสชาติแบบ ออริจินัล สุด ๆ
ลองแกะปูจากแค่ขาเดียวมาให้ชมกัน เนื้อเยอะมากกกคับ
ตัวนึงนี่ทานกัน 2-3 คนได้สบาย ๆ
ปูขน เนื้อจะเป็นเส้นยาว ๆ รสหวานธรรมชาติ
เมนูที่ 5 ในคอร์ส เป็น Sashimi
เสิร์ฟเป็น ฮามาจิ และ ทูน่า
มาแบบชิ้นหนา ๆ กำลังดี เรื่องความสดไม่ต้องพูดถึง
ป้ายวาซาบินิด จิ้มโชยุหน่อย เคลิ้มเลยยย
เมนูที่ 6 เป็น Kuroge Wagyu Yogan Yaki
เนื้อวากิวย่างบนหินลาวา อีกสุดยอดเมนู จากเกาะคิวชู
เค้าจะมีหินลาวา ร้อน ๆ แบบนี้
พร้อมกระดาษกั้น ไม่ให้กระเด็นเลอะเสื้อเวลาย่าง
เอาเนยใส่ลงกะทะนิดนึง แล้วก็คีบเนื้อลงไปย่างได้เลย
เนื้อวากิว นุ่มมาก ๆ ครับ ย่างให้สุกแค่มีเดียมแรก็พอ
มาต่อ เมนูที่ 7 กัน เป็น Kani Chirashi Sushi
เป็นข้าวหน้าปูขน ที่แกะมาแต่เนื้อ ๆ พร้อม โรยด้วยไข่ปลาแซลมอน
เมนู ที่ 8 เป็น Kegani Miso Soup
เป็น ซุปมิโซะ ที่ใส่ปูขนมาด้วย จะมีตรงส่วนกรรเชียง 2 ชิ้นในถ้วย
แกะแต่เนื้อ ๆ ทานพร้อมซุปมิโซะ สะใจคนชอบทานปูกันเลยฮะ
เมนู ที่ 9 เป็นอย่างสุดท้ายในคอร์ส คือ ของหวาน
มี 3 เมนู ด้วยกัน (เลือกได้ 1 อย่าง)
เมนูแรก เป็น Tofu Pudding
พุดดิ้งเต้าหู้ เนื้อเนียนนนนนนน นุ่มมากกก
ราดด้วยน้ำเชื่อมหวาน ๆ คล้ายน้ำตาลทรายแดง อร่อยสุด ๆ ครับ
อย่างที่สอง เป็น ไอศครีม
สุดท้าย เป็น Mineoka Fruit จะคล้าย ๆ เต้าฮวยฟรุตสลัด
ชาโฮจิจะ ร้อน ๆ เสิร์ฟอีกคนละถ้วย มีสรรพคุณช่วยย่อยอาหารด้วย
นอกจาก อาหารอร่อย ๆ แล้ว ด้านบริการ ก็สุดยอดเช่นกัน
ใครอยากลองก็ไปที่ Umenohana ซ.ทองหล่อ 13 ได้เลย
ปล. มื้อเที่ยง มี Set Lunch ราคา สุดคุ้มด้วยคับ (เซทซูชิ5-600เท่านั้น)
รูปร้านที่ยังไม่ได้รีวิว เอาใส่เพจไว้ให้ชมกันก่อน ขอบคุณครับ
https://www.facebook.com/reviewbenz47