มาถึงตอนต่อของบทความที่แล้ว ซึ่งเราพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เกมรุกของทีม”ปีศาจแดง”ภายใต้การนำของ หลุยส์ ฟาน กัล ดุดันขึ้นผิดหูผิดตา และมีมิติการเล่นที่หลากหลายนั้น เป็นเพราะกุนซือชาวดัตช์วางระบบ, แท็กติกการเล่นของทีมให้มีช่องทางสำหรับการผ่านบอลที่เหมาะสม โดยในตอนนี้เราจะนำภาพในเกมที่ แมนฯ ยูไนเต็ด พบ โรม่า มาอธิบายถึงระบบการเล่นแบบนี้ และต่อไปนี้เราขอเรียกพื้นที่ที่เหมาะสมซึ่งอยู่กึ่งกลางระหว่างพื้นที่ของปีกกับโซนตรงกลางสนามว่าพื้นที่ ”กึ่งกลาง” เพื่อความเข้าใจที่กระชับนะครับ
นอกจากฟูลแบ็คทั้งสองฝั่ง(เจมส์กับวาเลนเซีย) จะสังเกตได้ว่านักเตะทุกคนในทีมจะยืนตำแหน่งทั้งในโซนกลางสนามหรือในพื้นที่”กึ่งกลาง”(วงกลมสีแดง)
ในภาพนี้ ไทเลอร์ แบล็คเกตต์(วงกลมสีแดง) ได้ครองบอลและกำลังมองหาเพื่อนร่วมทีมเพื่อเริ่มสร้างจังหวะการเล่นของทีม เวลเบ็ค(วงกลมสีฟ้า)ยืนตำแหน่งค้ำอยู่สูงในแดนของ โรม่า ในขณะที่ รูนี่ย์ และ มาต้า(วงกลมสีเหลือง)ยืนตำแหน่งอยู่ในพื้นที่”กึ่งกลาง”ของ โรม่า(ตรงกลาง+ด้านข้าง) ซึ่งส่งผลให้ อันเดร์ เอร์เรร่า(วงกลมสีเขียว)มีพื้นที่ว่างมากมายสำหรับการรับบอลไปเล่นในจังหวะต่อไป
ไทเลอร์ แบล็คเกตต์ ไม่ได้มีความเร็วพอที่จะกระชากบอลผ่านนักเตะของ โรม่า แต่ในขณะเดียวกัน นักเตะโรม่าก็ต้องวิ่งไปปิดพื้นที่ของ เอร์เรร่า ที่ยืนอยู่พื้นที่กึ่งกลางค่อนไปในโซนกลางสนาม ทำให้พื้นที่ถูกเปิดขึ้นให้ แบล็คเกตต์ พาบอลเคลื่อนที่เข้าไป ซึ่งเขาพาบอลเคลื่อนที่เข้าไปในพื้นที่ ”กึ่งกลาง” และในพื้นที่ตรงนั้นเขาจะมีพื้นที่จากทุกมุมของสนามเป็นตัวเลือก สำหรับการผ่านบอลจังหวะต่อไปของเขา
มาต้า ดึงตัวเองลงต่ำมารับลูกผ่านจาก แบล็คเกตต์(วงกลมสีแดงทั้งสองอัน)เพื่อหลอกล่อกองหลังของโรม่า ให้หลุดออกมาจากรูปทรงโซนรับของพวกเขา
จากการถอยลงต่ำของ มาต้า เป็นผลให้ เวลเบ็ค(วงกลมสีแดง) มีช่องวิ่งไปรับบอลในจังหวะต่อไป
เราจะเห็นได้ว่า เวลเบ็ค มีพื้นที่”กึ่งกลาง”ซึ่งว่างอยู่ ให้เขาได้ใช้ประโยชน์(ในวงกลมสีขาว) และกองหน้าทีมชาติอังกฤษกำลังจะไปรับบอลในพื้นที่สุดท้ายที่จ่ายมาจาก มาต้า แต่น่าเสียดายที่ในจังหวะนี้ ที่ในทีแรก เวลเบ็ค ตัดสินใจเลือกที่จะวิ่งไปรับบอลตรง ๆจาก มาต้า ก่อนที่จะ(คิดได้)วิ่งตัดหลังแนวรับของ โรม่า ทำให้เขาช้าเกินกว่าจะได้บอลในจังหวะนี้
หากการเริ่มต้นสร้างจังหวะการเล่นของทีมมาจากนักเตะวิงแบ็คมากกว่าที่จะเป็นนักเตะที่อยู่ในพื้นที่”กึ่งกลาง” การผ่านบอลก็คงไม่อาจไปถึง มาต้า ได้ง่าย ๆเช่นเดียวกันกับหาก มาต้า เคลื่อนที่ไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่กว้างเกินกว่าพื้นที่”กึ่งกลาง” บอลก็จะไปไม่ถึงเขา และพื้นที่สำหรับ เวลเบ็ค ก็จะไม่ได้ถูกสร้างขึ้น ซึ่งในจังหวะต่อมาการเล่นของทีมก็สามารถผ่านบอลเปลี่ยนไปยังนักเตะที่อยู่ริมเส้น และโดยส่วนใหญ่อาจเป็นไปได้ทั้งการครอสบอลเข้ามาที่เขตโทษคู่ต่อสู้ หรือผ่านบอลกลับเข้ามาให้ เวลเบ็ค หากว่าพื้นที่ริมเส้นถูกแนวรับคู่แข่งปิดไว้
ภายใต้การคุมทีมของ ฟาน กัล นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมองหาเพื่อนร่วมทีมที่วิ่งสอดตัวเองไปตามพื้นที่ต่าง ๆมากขึ้น และคิดล่วงหน้าไว้ก่อนในยามที่พวกเขาจะผ่านบอล แทนที่จะสาดบอลยาวขึ้นไปข้างหน้าหรือผ่านบอลยาวทะแยงมุมไปด้านกว้าง ซึ่งจากที่ผ่านมา นี่มักจะเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขาเสมอในยามที่จะผ่านไปให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่โซนตรงกลาง และด้วยความจริงที่ว่ารูปทรงการเล่นของทีมที่ หลุยส์ ฟาน กัล วางไว้ให้ทีมนั้นสนับสนุนการเล่นของทีมทำให้มีช่องผ่านบอลเข้าตรงกลาง ด้วยรูปทรงการเล่น”แบบสามเหลี่ยม”ที่มีให้มากที่สุด ทำให้การผ่านบอลไป-มาระหว่างนักเตะในทีมทำได้ไหลลื่นกว่าที่เคย
ไปอ่านต่อเลยค่ะ >>
http://www.manuclubthailand.com/?p=57419
ขอบคุณภาพประกอบจาก : LiveLiveUnited
Cr. AJ44@แมนยูคับ.com
ภาคจบ...ไขปมแท๊กติกการเล่นที่แข็งแกร่งของ “หลุยส์ ฟาน กัล” เกมรุก 1-2
เราจะเห็นได้ว่า เวลเบ็ค มีพื้นที่”กึ่งกลาง”ซึ่งว่างอยู่ ให้เขาได้ใช้ประโยชน์(ในวงกลมสีขาว) และกองหน้าทีมชาติอังกฤษกำลังจะไปรับบอลในพื้นที่สุดท้ายที่จ่ายมาจาก มาต้า แต่น่าเสียดายที่ในจังหวะนี้ ที่ในทีแรก เวลเบ็ค ตัดสินใจเลือกที่จะวิ่งไปรับบอลตรง ๆจาก มาต้า ก่อนที่จะ(คิดได้)วิ่งตัดหลังแนวรับของ โรม่า ทำให้เขาช้าเกินกว่าจะได้บอลในจังหวะนี้
หากการเริ่มต้นสร้างจังหวะการเล่นของทีมมาจากนักเตะวิงแบ็คมากกว่าที่จะเป็นนักเตะที่อยู่ในพื้นที่”กึ่งกลาง” การผ่านบอลก็คงไม่อาจไปถึง มาต้า ได้ง่าย ๆเช่นเดียวกันกับหาก มาต้า เคลื่อนที่ไปยืนอยู่ในตำแหน่งที่กว้างเกินกว่าพื้นที่”กึ่งกลาง” บอลก็จะไปไม่ถึงเขา และพื้นที่สำหรับ เวลเบ็ค ก็จะไม่ได้ถูกสร้างขึ้น ซึ่งในจังหวะต่อมาการเล่นของทีมก็สามารถผ่านบอลเปลี่ยนไปยังนักเตะที่อยู่ริมเส้น และโดยส่วนใหญ่อาจเป็นไปได้ทั้งการครอสบอลเข้ามาที่เขตโทษคู่ต่อสู้ หรือผ่านบอลกลับเข้ามาให้ เวลเบ็ค หากว่าพื้นที่ริมเส้นถูกแนวรับคู่แข่งปิดไว้
ภายใต้การคุมทีมของ ฟาน กัล นักเตะ แมนฯ ยูไนเต็ด จะมองหาเพื่อนร่วมทีมที่วิ่งสอดตัวเองไปตามพื้นที่ต่าง ๆมากขึ้น และคิดล่วงหน้าไว้ก่อนในยามที่พวกเขาจะผ่านบอล แทนที่จะสาดบอลยาวขึ้นไปข้างหน้าหรือผ่านบอลยาวทะแยงมุมไปด้านกว้าง ซึ่งจากที่ผ่านมา นี่มักจะเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขาเสมอในยามที่จะผ่านไปให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่โซนตรงกลาง และด้วยความจริงที่ว่ารูปทรงการเล่นของทีมที่ หลุยส์ ฟาน กัล วางไว้ให้ทีมนั้นสนับสนุนการเล่นของทีมทำให้มีช่องผ่านบอลเข้าตรงกลาง ด้วยรูปทรงการเล่น”แบบสามเหลี่ยม”ที่มีให้มากที่สุด ทำให้การผ่านบอลไป-มาระหว่างนักเตะในทีมทำได้ไหลลื่นกว่าที่เคย
ไปอ่านต่อเลยค่ะ >> http://www.manuclubthailand.com/?p=57419
ขอบคุณภาพประกอบจาก : LiveLiveUnited
Cr. AJ44@แมนยูคับ.com