คือผมเคยมีความเสี่ยงจากการมีเพศสัมพันธุ์ที่ไม่ได้ป้องกันมาครับ
จากตอนนั้นถึงตอนนี้ก็ประมาน 1 ปีแล้ว ซึ่งผมได้ผ่านการตรวจ
Anti-hiv มาแล้วที่ 6 เดือน และ 1 ปี ที่โรงพยาบาลเอกชน ผลเป็น
ลบทั้งหมด ก็หายเครียดไปซักระยะนึง จนเมื่อประมาณอาทิตย์ที่แล้ว
ผมได้ไปทำการบริจาคโลหิตที่ศูนย์บริการโลหิต สภากาชาดไทย
มาครับ หลังจากบริจาคไปได้ประมาณ 1 อาทิตย์ ผมได้ข่าวมาว่าคน
ที่ผมเคยเสี่ยงมาด้วยมีเชื้อ hiv ครับ ความเครียด+กังวล ก็กลับมา
อีกครั้ง!! ก็เลยไม่ค่อยมั่นใจกับผลเลือดที่เคยตรวจมา กลัวว่าร่างกาย
จะผิดปรกติ ไม่สร้าง Antibody ขึ้นมาให้น้ำยาสามารถตรวจได้หรือเปล่า
เพราะเคยอ่านเจอทางอินเตอร์เนตมาว่ามีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง
(ปฐมภูมิ) บางชนิดที่ร่างกายไม่สามารถตอบสนองต่อ Antigen
บางชนิดได้ บวกกับ การรู้ว่าเชื้อ hiv มีหลายสายพันธุ์มาก ซึ่งน้ำยา
บางตัวก็มีขีดจำกัดในการตรวจหาเชื้อที่จำกัด ผมก็เลยหาข้อมูล
วิจัยของน้ำยาตรวจแต่ละตัว ก็เลยเจออยู่ตัวนึงที่สามารถตรวจหา
เชื้อ hiv ได้ครอบคลุมที่สุดและสามารถตรวจหาจากตัวเชื้อได้โดย
ตรง แต่ต้องตรวจแบบ viral load (rna-realtime pcr) ผมก้เลยมีความ
สงสัยและอยากสอบถามคุณหมอดังต่อไปนี้ครับ
1. ถ้าผ่านการเสี่ยงมาแล้วประมาณ1 ปี ผมสามารถใช้การตรวจ
    แบบ viral load มาวินิจฉัยร่วมกับการตรวจ Anti hiv ได้มั้ยครับ
    ว่าร่างกายผมไม่มีเชื้อ hiv แน่นอนแล้ว
2. การตรวจ viral load ที่ระยะเวลาหลังเสี่ยง 1 ปี สามารถให้ผล
    ที่น่าเชื่อถือได้หรือเปล่า เนื่องจากเป็นการตรวจจากตัวเชื้อโดยตรง
3. Viral load (rna-realtime pcr) สามารถตรวจพบเชื้อ hiv
ได้หลังมีภาวะเสี่ยงกี่วันครับ
4. ถ้าตรวจ viral load หลังจากที่ผ่านการบริจาคเลือดมาไม่กี่วัน
จะยังสามารถให้ผลที่น่าเชื่อถือได้อยู่หรือเปล่า? การบริจาคเลือด
มีผลกระทบอะไรกับการตรวจ viral load (rna-realtime pcr)
มั้ยครับ

ขอโทษนะครับที่ถามเยอะ เพราะผมเป็นคนคิดมากกับโรคนี้ กลัว
แฟนจะติดไปด้วยน่ะครับ บวกกับผมอยากมีลูกด้วยก็เลยอยากมั่นใจ
ว่าผมปลอดภัยแล้วจริงๆ ซึ่งคนอย่างผมต้องใช้ผลการตรวจมายืนยัน
เท่านั้นน่ะครับ ถึงจะมั่นใจได้
ขอขอบคุณคุณหมอมากๆเลยนะครับ