คลินิกอุ้มบุญ - ตำรวจร่วมกับ จนท.กระทรวงสาธารณสุข ตรวจค้นออลไอวีเอฟ คลินิกเวชกรรม เฉพาะทางสูตินรีเวช ย่านเพลินจิต กทม. ซึ่งหนึ่งในแม่ของเด็กอุ้มบุญ 9 คน ซัดทอดว่าเป็นผู้ให้บริการรับทำเด็กอุ้มบุญ แต่ไม่พบเจ้าของคลินิกหรือเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว เรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีเด็กทารกอุ้มบุญ 9 คน ที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.ลาดพร้าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมทราบรายชื่อผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เกือบทั้งหมดแล้ว โดยมีการแสดงแผ่นชาร์ตไล่เรียงตั้งแต่นายชิเกตะ มิตซูโตกิ อายุ 24 ปี เจ้าของน้ำเชื้อ และหญิงทั้ง 9 รายที่เป็นแม่อุ้มบุญตัวจริง พร้อมนำรายชื่อสูติบัตรที่มีนายชิตาเกะรับเป็นพ่อของเด็กเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวแม่อุ้มบุญทั้ง 9 มาสอบสวน ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าวได้นัดหมายนายรัฐประธาน ตุลาธร ทนายความซึ่งเป็นที่ปรึกษานายชิเกตะ โดยหลบเลี่ยงสื่อมวลชนไปสอบปากคำที่ สน.วังทองหลาง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริงว่านายชิเกตะเป็นพ่อของเด็กทั้ง 9 คนที่พบในคอนโดมิเนียมและเด็กอีก 3 รายที่นายชิตาเกะนำกลับไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ตามข้อมูลที่นายรัฐประธานอ้าง รวมทั้งเด็กที่อยู่ในท้องหญิงอุ้มบุญอีก 1 ราย รวมเป็น 13 คน ใช้น้ำเชื้อของนายชิเกตะจริงหรือไม่นั้น ซึ่งในทางการสืบสวนเชิงลึกพบว่าทางพนักงานสืบสวนสอบข้อเท็จจริงพบว่ายังมีเด็กแฝดอีก 2 คนที่มีหน้าตาออกไปทางยุโรปเพิ่มมาด้วย เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีสัญชาติสเปน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบพ่อแม่เพิ่มเติมต่อไป
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายรัฐประธาน ทราบว่านายชิเกตะเป็นพ่อเด็กทั้งหมด 14 คน และนำเด็กออกนอกประเทศไปที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว จำนวน 3 คน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสืบหาแม่อุ้มบุญเด็กทั้ง 14 คนมาสอบปากคำ นอกจากนี้ ได้เก็บดีเอ็นเอเด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คนไว้แล้ว เพื่อตรวจสอบว่ามีความสัมพันธ์กับแม่อุ้มบุญ ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจไทยได้ประสานไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ตรวจสอบว่านายชิเกตะมีตัวตนจริงหรือไม่ ประกอบอาชีพอะไร มีหลักแหล่งอยู่ที่ไหน เพื่อให้ช่วยติดตามตัว ส่วนการเดินทางออกนอกประเทศของ นายชิเกตะ พบว่าเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยแล้ว จำนวน 40 ครั้ง โดยขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะต้องสอบสวนคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นายชิเกตะ มิซูตโตกิ อายุ 24 ปี พ่ออุ้มบุญเด็ก 14 คน ทราบว่าเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง มีอาชีพวิศวกร และเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น รวยติดอันดับ 5 ของโลก โดยทำธุรกิจประเภทสื่อสารโทรคมนาคม
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1407564107
ยุ่นอุ้มบุญ อาชีพวิศวกร ลูกมหาเศรษฐีญี่ปุ่น รวยติดอันดับ 5 ของโลก
คลินิกอุ้มบุญ - ตำรวจร่วมกับ จนท.กระทรวงสาธารณสุข ตรวจค้นออลไอวีเอฟ คลินิกเวชกรรม เฉพาะทางสูตินรีเวช ย่านเพลินจิต กทม. ซึ่งหนึ่งในแม่ของเด็กอุ้มบุญ 9 คน ซัดทอดว่าเป็นผู้ให้บริการรับทำเด็กอุ้มบุญ แต่ไม่พบเจ้าของคลินิกหรือเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม
วันที่ 8 สิงหาคม พ.ต.อ.วิทวัฒน์ ชินคำ ผกก.สน.ลาดพร้าว เรียกประชุมชุดพนักงานสอบสวนสืบสวนข้อเท็จจริงกรณีเด็กทารกอุ้มบุญ 9 คน ที่ห้องประชุมชั้น 3 สน.ลาดพร้าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในที่ประชุมทราบรายชื่อผู้เกี่ยวข้องในเรื่องนี้เกือบทั้งหมดแล้ว โดยมีการแสดงแผ่นชาร์ตไล่เรียงตั้งแต่นายชิเกตะ มิตซูโตกิ อายุ 24 ปี เจ้าของน้ำเชื้อ และหญิงทั้ง 9 รายที่เป็นแม่อุ้มบุญตัวจริง พร้อมนำรายชื่อสูติบัตรที่มีนายชิตาเกะรับเป็นพ่อของเด็กเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวแม่อุ้มบุญทั้ง 9 มาสอบสวน ขณะเดียวกันทางพนักงานสอบสวน สน.ลาดพร้าวได้นัดหมายนายรัฐประธาน ตุลาธร ทนายความซึ่งเป็นที่ปรึกษานายชิเกตะ โดยหลบเลี่ยงสื่อมวลชนไปสอบปากคำที่ สน.วังทองหลาง
มีรายงานเพิ่มเติมว่า หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบข้อมูลเพื่อหาข้อเท็จจริงว่านายชิเกตะเป็นพ่อของเด็กทั้ง 9 คนที่พบในคอนโดมิเนียมและเด็กอีก 3 รายที่นายชิตาเกะนำกลับไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น ตามข้อมูลที่นายรัฐประธานอ้าง รวมทั้งเด็กที่อยู่ในท้องหญิงอุ้มบุญอีก 1 ราย รวมเป็น 13 คน ใช้น้ำเชื้อของนายชิเกตะจริงหรือไม่นั้น ซึ่งในทางการสืบสวนเชิงลึกพบว่าทางพนักงานสืบสวนสอบข้อเท็จจริงพบว่ายังมีเด็กแฝดอีก 2 คนที่มีหน้าตาออกไปทางยุโรปเพิ่มมาด้วย เบื้องต้นตรวจสอบพบว่ามีสัญชาติสเปน ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบพ่อแม่เพิ่มเติมต่อไป
พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า จากการสอบปากคำนายรัฐประธาน ทราบว่านายชิเกตะเป็นพ่อเด็กทั้งหมด 14 คน และนำเด็กออกนอกประเทศไปที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว จำนวน 3 คน ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างสืบหาแม่อุ้มบุญเด็กทั้ง 14 คนมาสอบปากคำ นอกจากนี้ ได้เก็บดีเอ็นเอเด็กอุ้มบุญทั้ง 9 คนไว้แล้ว เพื่อตรวจสอบว่ามีความสัมพันธ์กับแม่อุ้มบุญ ทั้งนี้ ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจไทยได้ประสานไปยังประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ตรวจสอบว่านายชิเกตะมีตัวตนจริงหรือไม่ ประกอบอาชีพอะไร มีหลักแหล่งอยู่ที่ไหน เพื่อให้ช่วยติดตามตัว ส่วนการเดินทางออกนอกประเทศของ นายชิเกตะ พบว่าเดินทางเข้า-ออกประเทศไทยแล้ว จำนวน 40 ครั้ง โดยขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเป็นขบวนการค้ามนุษย์หรือไม่ เพราะต้องสอบสวนคนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัติของ นายชิเกตะ มิซูตโตกิ อายุ 24 ปี พ่ออุ้มบุญเด็ก 14 คน ทราบว่าเป็นชื่อจริง นามสกุลจริง มีอาชีพวิศวกร และเป็นลูกชายของมหาเศรษฐีชาวญี่ปุ่น รวยติดอันดับ 5 ของโลก โดยทำธุรกิจประเภทสื่อสารโทรคมนาคม
ข่าวจาก : มติชนออนไลน์
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1407564107