ทหารบุกทลายบ่อนฉายา"ส.ก.อ้วน" ซอยแบริ่ง ย่านบางนา รวบ 47 นักพนัน พบจัดวางทางหนีทีไล่รัดกุม วงจรปิด-วิทยุสื่อสารดูต้นทาง

เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.อ.นพสิทธิ์ สิทธิพงศ์โสภณ รองผู้บังคับการกรมทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (รอง ผบ.พล.ม.2 รอ.) และ พ.อ.บุรินทร์ ทองประไพ นายทหารพระธรรมนูญ พล.ม.2 รอ. นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหารจาก พล.ม.2 รอ.กว่า 30 นาย เข้าตรวจค้นบ่อนการพนันในซอยแบริ่ง 13 แยกย่อยสันติภูมิ 3 ถนนแบริ่ง หรือสุขุมวิท 107 แขวงและเขตบางนา กทม. ซึ่งในเวลาต่อมามีเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางนา นำโดย พ.ต.ต.ปรัชญา บุญยืน สว.สส.สน.บางนา นำกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนกว่า 10 นาย เข้าร่วมตรวจสอบ

จากการตรวจสอบบ่อนดังกล่าวอยู่ภายในบ้านเลขที่ 775/6-775/8 ลักษณะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น และอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ปลูกอยู่ในพื้นที่เดียวกัน บนเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ มีรั้วรอบขอบชิด รั้วด้านหน้าและด้านข้างสูงประมาณ 4 เมตร ส่วนด้านหลังสูงประมาณ 2 เมตรครึ่ง ทางเข้าเป็นประตูอัลลอยขนาดใหญ่ปิดทึบไม่สามารถมองเห็นตัวบ้านด้านในได้

เมื่อเจ้าหน้าที่บุกเข้าไปด้านใน เป็นบ้านเดี่ยวพบชั้นล่างดัดแปลงเป็นบ่อนการพนัน มีโต๊ะบัคคาร่าตั้งอยู่ 1 โต๊ะ ภายในติดป้ายกฎกติกาการเล่นพนันแบบต่างๆ พบนักพนันชาย-หญิงกำลังจับกลุ่มเล่นไพ่ป๊อกอยู่ที่โต๊ะบัคคาร่าชั้นล่าง เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมนักพนันได้ทั้งหมด 47 คน แบ่งเป็นชาย 14 คน และ หญิง 33 คน ยึดของกลางที่เป็นอุปกรณ์การพนันจำนวนมาก ประกอบด้วย ไพ่พลาสติกจำนวน 43 สำรับ อุปกรณ์เล่นไฮโล 4 ชุด โต๊ะบัคคาร่า 1 ชุด โต๊ะสำหรับเล่นพนันไพ่อีกจำนวนหนึ่ง และเงินสดกว่า 567,200 บาท

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 2 ชั้น ตั้งอยู่ด้านหลัง จัดไว้สำหรับเล่นพนันโดยเฉพาะ เนื่องจากเป็นห้องโล่งทั้ง 2 ชั้น มีห้องน้ำไว้ให้บริการจำนวน 5 ห้อง ทั้งชั้นบนและชั้นล่าง นอกจากนี้ยังพบทางลับตรงห้องครัวที่เปิดออกไปยังรั้วด้านหลังบ้าน ทำเป็นช่องลับโดยใช้ประตูเหล็กปิดไว้ และมีค้อนปอนด์ 2 อันเอาไว้ทุบกำแพงเจาะช่องหลบหนีเข้าป่าหญ้าด้านหลังของบ้าน เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมยังตรวจพบบ้านหลังดังกล่าว รวมทั้งอาคารพาณิชย์ติดตั้งกล้องวงจรปิดโดยรอบทั้งด้านนอกและด้านใน รวมถึงด้านหน้าตรงประตูรั้วทางเข้าด้วย นอกจากนั้นยังมีคนดูต้นทางคอยสังเกตอยู่นอกรั้ว และใช้โทรศัพท์และวิทยุสื่อสารไว้คอยส่งสัญญาณ

รายงานข่าวแจ้งว่า ก่อนเข้าจับกุมเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวนายบุญเลิศ อ่ำบุญธรรม อายุ 33 ปี ทำหน้าที่เป็นคนดูต้นทาง พบมีเงินติดตัว 3 แสนกว่าบาท แต่นายบุญเลิศอ้างว่าไม่ใช่คนดูต้นทาง แต่เป็นนักพนันที่มาเล่นเหมือนกับคนอื่นๆ ซึ่งบ่อนเพิ่งเปิดมาได้ 5 วัน และเพิ่งมาเล่นวันนี้ จนถูกจับกุมดังกล่าว

พ.อ.บุรินทร์กล่าวว่า ได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นที่ว่าบ้านหลังดังกล่าวเปิดบ่อนอย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย มีนักพนันมาเล่นตลอด 24 ชั่วโมง เพราะเจ้าของบ่อนคือผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ เป็นนักการเมืองท้องถิ่น และจะรู้จักดีในชื่อบ่อน ส.ก.อ้วน จึงได้ให้เจ้าหน้าที่ปลอมตัวแฝงเป็นนักพนันเข้าไปเล่นเพื่อเก็บหลักฐาน กระทั่งทราบว่ามีการเปิดบ่อนเล่นพนันจริง มีทั้งเล่นไพ่ป๊อกเด้ง รัมมี่ เก้าเก บัคคาร่า และไฮโลทั่วทุกห้องทุกพื้นที่ในบ้าน แต่การเข้าจับกุมพบเล่นไพ่ป๊อกเด้งที่ชั้นล่างของบ้านเพียงจุดเดียว ส่วนที่อื่นๆ จัดเตรียมไว้ยังไม่ได้เล่น โดยสืบทราบด้วยว่าบ่อนดังกล่าวเปิดมาเป็นเวลานาน การจับกุมดังกล่าวทางทหารได้ประสานข้อมูลกับทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) โดยตลอด กระทั่งสามารถจับกุมในวันนี้

ต่อมา พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพรหมณกุล ผบช.น. และ พล.ต.ต.สมบัติ มิลินทจินดา ผบก.สส.บช.น. เดินทางเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมกำชับให้ขยายผลถึงผู้ที่อยู่เบื้องหลังที่เป็นเจ้าของบ่อนอย่างแท้จริง ฉายา ส.ก.อ้วน โดยจะนำตัวผู้ต้องหาที่ลักลอบเล่นการพนันครั้งนี้ทั้งหมดส่งดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวน สน.บางนา และดำเนินการทางวินัยตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางนา ระดับผู้บังคับบัญชา เนื่องจากปล่อยปละละเลยให้มีการลักลอบเล่นการพนันในพื้นที่ โดยจะเร่งให้เป็นคำสั่งในวันนี้ ในขณะที่การติดตามของเจ้าของบ่อนตัวจริง เจ้าหน้าที่ทหารจะขยายผลเพื่อติดตามตัวตามกฎอัยการศึก

พล.ต.ท.ศรีวราห์กล่าวอีกว่า จากการตรวจสอบพื้นที่รอบๆ ของบ้านที่เปิดบ่อนรวมทั้งภายในตัวบ้าน มีการเตรียมทางหนีทีไล่ไว้เป็นอย่างดี แต่จากการดูสภาพที่ค่อนข้างใหม่ของตัวบ้าน และอุปรณ์ของบ้านต่างๆ ยังมีสภาพใหม่ เชื่อว่าจะยังเปิดได้ไม่นาน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้พบสัญญาเช่าบ้านและอาคารพาณิชย์ในที่เกิดเหตุจำนวน 2 ฉบับ ระบุว่าผู้ให้เช่าคือนางชอช้อย ม่วงโสภา อยู่บ้านเลขที่ 700/7 หมู่ 1 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ สำหรับผู้เช่าบ้านเดี่ยว 2 ชั้น คือ นายสรยุทธ์ สุขอ้น ส่วนชื่อผู้เช่าอาคารพาณิชย์ 2 ชั้นคือนายเจษฎา คมเนตร หนังสือสัญญาเช่าทั้ง 2 ฉบับระบุสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 1 ปี ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2558 ถึงวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2559 จ่ายค่าเช่าเป็นรายเดือน เดือนละ 8,000 บาท โดยนายเจษฎายอมรับกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ใช้ค้อนปอนด์ทุบกำแพงเพื่อให้นักพนันหนี แต่ยังทุบไม่เสร็จก็ถูกจับกุมได้เสียก่อน แต่ไม่ได้ร่วมเล่นพนัน เพียงแค่รับค่าจ้างวันละ 400 บาท มาคอยดูต้นทางและทางหนีให้กับนักพนันที่เข้ามาเล่นในบ่อนแห่งนี้

ด้าน พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวว่า แม้จะอ้างว่ามีตำรวจนครบาลร่วมจับกุม แต่จากข้อมูลทราบว่าบ่อนนี้ซึ่งเคยเปิดเป็นบ่อนใหญ่มาก่อน กระทั่งปิดตัวไป เพิ่งกลับมาเปิดให้เล่นพนันเมื่อ 4 วันที่ผ่านมา ทั้งที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีนโยบายกำชับว่าต้องจับกุมปราบปรามเด็ดขาด ถือว่าท้องที่อาจมีความบกพร่อง ตรงนี้ต้องให้กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 ออกคำสั่งให้ผู้บังคับบัญชาในพื้นที่ไปช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการกองบัญชาการตำรวจนครบาลเป็นการชั่วคราว และสืบสวนข้อเท็จจริงว่าบกพร่องละเลยหรือไม่

ต่อมา พล.ต.ต.ชวลิต ประสพศิลป์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 5 (ผบก.น.5) มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.อุดม ธุระงาน ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ภฤศ ฉายวัฒนะ สวป.สน.บางนา และ พ.ต.ต.ปรัชญา บุญยืน สว.สส.สน.บางนา ไปปฏิบัติราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ บก.น.5 โดยให้ พ.ต.อ.ภาดล ประภานนท์ รอง ผบก.น.5 รรท.ผกก.สน.บางนา พ.ต.ท.ธารา เทพวณิช รอง ผกก.ฝอ.บก.น.5 รรท.รอง ผกก.ป.สน.บางนา พ.ต.ท.สิราวิชญ์ นวมดี รอง ผกก.สส.สน.ท่าเรือ รรท.รอง ผกก.สส.สน.บางนา เพื่อให้การบริหารงานในภาพรวมตลอดจนการปฏิบัติตามนโยบายในการปราบปรามอบายมุขของ บก.น.5 เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ และเพื่อให้การตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นไปอย่างโปร่งใส ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง