6 กุมภาพันธ์ 2556 รายได้ดีจัดเดือนละ3แสนกว่านาน4ปี++เพียงล้วง IPHINEและมือถืออื่นๆ ( ตายที่กล้อง BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ )
ประเด็นหลัก
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินตามแหล่งชุมชน โดนล้วงกระเป๋าทรัพย์สินหายหลายรายการ ตามนโยบายของทางผู้บัญชาการฯ ให้ตรวจตราตามแหล่งชุมชน รถไฟฟ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ บก.ทท.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋าบนสถานีรถไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองคนจึงนำตัวมาสอบสวน พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟฟ้า พบว่าสามารถจับภาพได้ขณะที่ผู้ต้องหาก่อเหตุกำลังล้วงกระเป๋าผู้เสียหายเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านพักใน อ.สามพราน จ.นครปฐม พบของกลางโทรศัพท์มือถือ และสมุดเงินฝากธนาคารหลายเล่มจึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนนายบุญมีให้การรับสารภาพว่า ตนทำอาชีพรับจ้างขนผักในตลาดไท แต่ได้มีชาวกัมพูชาชื่อนายแทน หัวหน้าแก๊งมาชักชวนล้วงกระเป๋าซึ่งถูกตำรวจจับกุมไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2555 ก่อนหน้านี้ จากนั้นตนเห็นว่ามีรายได้ดีจึงได้ชักชวนนายชาติไปร่วมตระเวนก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ ตามสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ห้างยูเนียนมอล และตามที่ต่างๆ โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,000-14,000 บาท เคยได้มากที่สุดวันละ 60,000 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือน 2-3 แสนบาท ทำมานานกว่า 4 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ได้ทรัพย์สินมานำเอาทรัพย์สินที่ได้ไปขายต่อและนำเงินเล่นการพนันและเที่ยวเตร่
_________________________________
จับสองต่างด้าวล้วงไอโฟน-มือถือกว่า 4 ปี รายได้เดือนละกว่า 3 แสน
ตำรวจท่องเที่ยวแถลงข่าวจับกุมสองผู้ต้องหาชาวต่างด้าว ก่อเหตุล้วงกระเป๋าพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5-ไอโฟน 4 โทรศัพท์รุ่นต่างๆ อีก 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ รวม 5 เล่ม สารภาพทำมากว่า 4 ปี รายได้เดือนละกว่า 3 แสนบาท เข้าบ่อน-เที่ยวเตร่
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.ปัญญณิชช์ ทองขุนนา รอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.บรรพต เดชมา รอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.เกื้อกมล ดวงประทีป รอง ผกก.3 บก.ทท. พ.ต.ต.สราวุฒิ ปรีดากรณ์ สว.ส.ทท.1 กก.1 บก.ท. แถลงจับกุมนายบุญมี ศายาวงศ์ อายุ 36 ปี ชาวลาว อยู่ห้องเลขที่ 33/9 เคหะอ้อมใหญ่ กรุงเทพฯ และนายชาติ ชักเรือน อายุ 33 ปี ชาวกัมพูชา อาศัยอยู่แฟลตวังหิน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีล้วงกระเป๋า พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 จำนวน 2 ครั้ง ไอโฟน 4 จำนวน 2 เครื่อง และโทรศัพท์รุ่นต่างๆ อีกจำนวน 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ รวม 5 เล่ม
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินตามแหล่งชุมชน โดนล้วงกระเป๋าทรัพย์สินหายหลายรายการ ตามนโยบายของทางผู้บัญชาการฯ ให้ตรวจตราตามแหล่งชุมชน รถไฟฟ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ บก.ทท.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋าบนสถานีรถไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองคนจึงนำตัวมาสอบสวน พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟฟ้า พบว่าสามารถจับภาพได้ขณะที่ผู้ต้องหาก่อเหตุกำลังล้วงกระเป๋าผู้เสียหายเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านพักใน อ.สามพราน จ.นครปฐม พบของกลางโทรศัพท์มือถือ และสมุดเงินฝากธนาคารหลายเล่มจึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนนายบุญมีให้การรับสารภาพว่า ตนทำอาชีพรับจ้างขนผักในตลาดไท แต่ได้มีชาวกัมพูชาชื่อนายแทน หัวหน้าแก๊งมาชักชวนล้วงกระเป๋าซึ่งถูกตำรวจจับกุมไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2555 ก่อนหน้านี้ จากนั้นตนเห็นว่ามีรายได้ดีจึงได้ชักชวนนายชาติไปร่วมตระเวนก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ ตามสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ห้างยูเนียนมอล และตามที่ต่างๆ โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,000-14,000 บาท เคยได้มากที่สุดวันละ 60,000 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือน 2-3 แสนบาท ทำมานานกว่า 4 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ได้ทรัพย์สินมานำเอาทรัพย์สินที่ได้ไปขายต่อและนำเงินเล่นการพนันและเที่ยวเตร่
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดี พร้อมประสานสำนักงานตรวจคนเจ้าเมืองขึ้นบัญชีให้เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าในราชอาณาจักรต่อไป
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000015655
ระวัง!! ล้วง IPHINEและมือถืออื่นๆ // ถูกจับได้(ตายที่กล้องBTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ) // ขโมยดีจัดเดือนละ3แสนกว่านาน4ปี
ประเด็นหลัก
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินตามแหล่งชุมชน โดนล้วงกระเป๋าทรัพย์สินหายหลายรายการ ตามนโยบายของทางผู้บัญชาการฯ ให้ตรวจตราตามแหล่งชุมชน รถไฟฟ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ บก.ทท.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋าบนสถานีรถไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองคนจึงนำตัวมาสอบสวน พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟฟ้า พบว่าสามารถจับภาพได้ขณะที่ผู้ต้องหาก่อเหตุกำลังล้วงกระเป๋าผู้เสียหายเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านพักใน อ.สามพราน จ.นครปฐม พบของกลางโทรศัพท์มือถือ และสมุดเงินฝากธนาคารหลายเล่มจึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนนายบุญมีให้การรับสารภาพว่า ตนทำอาชีพรับจ้างขนผักในตลาดไท แต่ได้มีชาวกัมพูชาชื่อนายแทน หัวหน้าแก๊งมาชักชวนล้วงกระเป๋าซึ่งถูกตำรวจจับกุมไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2555 ก่อนหน้านี้ จากนั้นตนเห็นว่ามีรายได้ดีจึงได้ชักชวนนายชาติไปร่วมตระเวนก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ ตามสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ห้างยูเนียนมอล และตามที่ต่างๆ โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,000-14,000 บาท เคยได้มากที่สุดวันละ 60,000 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือน 2-3 แสนบาท ทำมานานกว่า 4 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ได้ทรัพย์สินมานำเอาทรัพย์สินที่ได้ไปขายต่อและนำเงินเล่นการพนันและเที่ยวเตร่
_________________________________
จับสองต่างด้าวล้วงไอโฟน-มือถือกว่า 4 ปี รายได้เดือนละกว่า 3 แสน
ตำรวจท่องเที่ยวแถลงข่าวจับกุมสองผู้ต้องหาชาวต่างด้าว ก่อเหตุล้วงกระเป๋าพร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5-ไอโฟน 4 โทรศัพท์รุ่นต่างๆ อีก 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ รวม 5 เล่ม สารภาพทำมากว่า 4 ปี รายได้เดือนละกว่า 3 แสนบาท เข้าบ่อน-เที่ยวเตร่
วันนี้ (6 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่กองบังคับการตำรวจท่องเที่ยว (บก.ทท.) พล.ต.ต.รอย อิงคไพโรจน์ ผบก.ทท. พ.ต.อ.ปฏิพัทธ์ สุบรรณ ณ อยุธยา รอง ผบก.ทท. พ.ต.ท.ปัญญณิชช์ ทองขุนนา รอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.บรรพต เดชมา รอง ผกก.1 บก.ทท. พ.ต.ท.เกื้อกมล ดวงประทีป รอง ผกก.3 บก.ทท. พ.ต.ต.สราวุฒิ ปรีดากรณ์ สว.ส.ทท.1 กก.1 บก.ท. แถลงจับกุมนายบุญมี ศายาวงศ์ อายุ 36 ปี ชาวลาว อยู่ห้องเลขที่ 33/9 เคหะอ้อมใหญ่ กรุงเทพฯ และนายชาติ ชักเรือน อายุ 33 ปี ชาวกัมพูชา อาศัยอยู่แฟลตวังหิน กรุงเทพฯ ผู้ต้องหาคดีล้วงกระเป๋า พร้อมของกลางโทรศัพท์มือถือไอโฟน 5 จำนวน 2 ครั้ง ไอโฟน 4 จำนวน 2 เครื่อง และโทรศัพท์รุ่นต่างๆ อีกจำนวน 11 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคารต่างๆ รวม 5 เล่ม
พล.ต.ต.รอยเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากได้รับร้องเรียนจากคนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจำนวนมากที่เดินตามแหล่งชุมชน โดนล้วงกระเป๋าทรัพย์สินหายหลายรายการ ตามนโยบายของทางผู้บัญชาการฯ ให้ตรวจตราตามแหล่งชุมชน รถไฟฟ้า โดยทางเจ้าหน้าที่ บก.ทท.ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ว่าสามารถควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุล้วงกระเป๋าบนสถานีรถไฟฟ้าได้ เจ้าหน้าที่จึงไปตรวจสอบพบผู้ต้องหาทั้งสองคนจึงนำตัวมาสอบสวน พร้อมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดของสถานีรถไฟฟ้า พบว่าสามารถจับภาพได้ขณะที่ผู้ต้องหาก่อเหตุกำลังล้วงกระเป๋าผู้เสียหายเมื่อวันที่ 29 ม.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้ต้องหาทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเป็นบุคคลตามภาพจริง จากนั้นขยายผลตรวจค้นบ้านพักใน อ.สามพราน จ.นครปฐม พบของกลางโทรศัพท์มือถือ และสมุดเงินฝากธนาคารหลายเล่มจึงยึดไว้เป็นของกลาง
จากการสอบสวนนายบุญมีให้การรับสารภาพว่า ตนทำอาชีพรับจ้างขนผักในตลาดไท แต่ได้มีชาวกัมพูชาชื่อนายแทน หัวหน้าแก๊งมาชักชวนล้วงกระเป๋าซึ่งถูกตำรวจจับกุมไปเมื่อเดือนธันวาคม ปี 2555 ก่อนหน้านี้ จากนั้นตนเห็นว่ามีรายได้ดีจึงได้ชักชวนนายชาติไปร่วมตระเวนก่อเหตุตามสถานที่ต่างๆ ตามสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส ห้างเซ็นทรัลลาดพร้าว ห้างยูเนียนมอล และตามที่ต่างๆ โดยมีรายได้เฉลี่ยวันละ 2,000-14,000 บาท เคยได้มากที่สุดวันละ 60,000 บาท เฉลี่ยรายได้ต่อเดือน 2-3 แสนบาท ทำมานานกว่า 4 ปีแล้ว ส่วนใหญ่ได้ทรัพย์สินมานำเอาทรัพย์สินที่ได้ไปขายต่อและนำเงินเล่นการพนันและเที่ยวเตร่
เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันวิ่งราวทรัพย์ นำส่งพนักงานสอบสวน สน.พญาไท ดำเนินคดี พร้อมประสานสำนักงานตรวจคนเจ้าเมืองขึ้นบัญชีให้เป็นบุคคลต้องห้ามเดินทางเข้าในราชอาณาจักรต่อไป
http://manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000015655