ความสุขของคนเรามันไม่เหมือนกันครับ ความจำเป็นของคนเรามันก็ไม่เหมือนกันเช่นกัน
ถ้าจัดแล้วรู้สึกเสียดายเงิน หรือจัดแล้วทำให้ตัวเองลำบาก ไม่ต้องจัดถูกต้องที่สุดแล้วครับ
เพราะมันก็แค่งานประกาศให้คนอื่นรู้เฉยๆ อย่างที่ จขกท.ว่าน่ะถูกต้องแล้ว บางคู่จัดงานใหญ่โต
อยู่กันไม่ถึงปีเลิกกันซะแล้ว การจัดงานแต่งงานมันไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความรักและอนาคตในการ
ใช้ชีวิตคู่ บางคู่ไม่ต้องจัดงานแต่งงาน ก็รักกันจนแก่เฒ่า มีอนาคตครอบครัวที่ดีร่วมกัน
เงินที่เอามาจัดจนสิ้นเปลืองก็สามารถเอามาใช้สำหรับสิ่งที่จำเป็นในชีวิตได้อีกตั้งเยอะแยะ


ในทางกลับกัน ยังมีคนอีกหลายคนมีความสุขกับวันแต่งงาน เพราะหลายๆคนที่ว่าไม่ได้คิดแค่ว่า
งานแต่งงานเป็นแค่วันประกาศให้โลกรู้ว่าเราจะเป็นสามีภรรยากันแล้วนะ แต่เป็นการแสดงการให้
เกียรติกับคนรักของตัวเอง ครอบครัวของคนที่เรารัก ซึ่งถ้าวางแผนดีๆจัดงานแต่งงานให้เหมาะสม
กับฐานะของตัวเอง มันไม่ได้ทำให้ชีวิตลำบากเลย

ส่วนตัวผมกับภรรยาเป็นประเภทหลังครับ ทุกวันนี้ว่างๆเราก็นั่งดูรูปแต่งงานด้วยกัน ยิ้มให้กันทุกครั้ง
ที่เปิดดู ถึงตอนนี้ทั้งผมและภรรยายังพูดตลอดเลยว่าไม่เสียดายเงินที่เสียไปแม้แต่น้อย เพราะความรู้
สึกบางอย่าง มันไม่สามารถเอาเงินมาวัดได้ว่าคุ้มหรือไม่ สำหรับผมเตรียมตัวค่อนข้างนาน เจ้าสาวผม
ก็พยายามหารูปแบบงานในฝัน ส่วนผมก็พยายามทำให้งานในฝันของเจ้าสาวมันเป็นจริงขึ้นมา ซึ่งมัน
ก็เป็นสิ่งที่ดีนะ รักกันมากๆก็ช่วงช่วยกันนี่แหละ เพราะเราเตรียมกันแค่ 2 คน ครอบครัวก็อยู่ต่างจังหวัด
กันหมด มาเจอเอาก็ก่อนวันงานแค่ 2 วันเอง ส่วนเรื่องค่าใช้จ่าย เนื่องจากใช้เวลาเตรียมตัวพอสมควร
การจัดงานแต่งงานจึงไม่ได้ส่งผลให้ชีวิตเปลี่ยนไปแต่อย่างใด เพราะไอ้ที่ควรจะมีควรจะทำก็หาซื้อไว้
ก่อนแต่งงานแทบจะหมดแล้ว ไม่ว่าจะบ้าน รถ คอนโด หรืออื่นๆ

ยังไง จขกท. ถ้าเห็นว่าสิ้นเปลืองก็ไม่ควรจัดงานแต่งงานครับ เพราะไม่งั้นเราจะมามัวเสียดายทีหลัง ถึง
ตอนนั้นจะเสกเงินเยอะๆที่หายไปในคืนเดียวให้กลับคืนมาก็ไม่ได้แล้ว


ฟิลลิ่งล้วนๆ   พูดยาก อิอิ....(^____^)

เราคนนึงค่ะไม่อยากจัดงานแต่งเลย แต่ที่บ้านไม่เข้าใจ （−＿−；）
เราคิดว่ามันสิ้นเปลืองและก็เหนื่อยด้วย อยากจดแค่ทะเบียนสมรสก็พอ  
คิดว่าเอาเงินไปสร้างครอบครัวและไปฮันนีมูนดีกว่า