Lovina & Loma  ที่รัก

การเดินทางไปบาหลีครั้งนี้แตกต่างจากครั้งก่อนเพราะ ได้ยินมาว่าที่นี่นอกจากจะเด่นด้านศิลปวัฒนธรรม ทะเล แล้วอีกสิ่งที่ไม่ควรพลาดคือการไปตามล่าดูเจ้าปลาโลมาน้อยที่กระโดดโลดเต้นกลางทะเล ที่โลวีน่า

การเดินทางหลังจากลงเครื่องบินที่สนามบินบาหลี ก็เช่ารถพร้อมขนขับตรงดิ่งไปยังหาดโลวิน่าเลย ซึ่งถือว่าค่อนข้างไกลพอสมควร ใช้เวลาราว 3 ชั่วโมงเพราะต้องข้ามเขาไปอีกฝากหนึ่งเลย แต่ไม่ต้องกลัวเบื่อ เพราะว่าระหว่างสองข้างทางมีอะไรให้แวะดูตลอด เอาเป็นว่าข้ามช้อทนั้นไปยังโลวิน่าเลยดีกว่า
การเดินทางไปดูเจ้าโลมา ต้องตื่นตั้งแต่เช้า นั่ง เรือแมงมุมกางขาออกจากฝั่งมุ่งหน้าไปยังทะเลสีฟ้าที่กว้างใหญ่ จุดมุ่งหมายคือการออกตามหาเจ้าปลาโลมาที่รัก เรือหนึ่งลำนั่งได้ สี่คน หากต้องการจองตั๋วเรือแนะนำว่าอย่าเพิ่งจองกับทางโรงแรมให้ถามราคาก่อน จากนั้นค่อยเดินดูตามชายหาดจะคนขับเรือมาขายตั๋วเองราคาจะถูกกว่าและต่อรองได้ ส่วนค่าใช้จ่ายค่อยจ่ายออนทัวร์

อากาศตอนเช้าเย็นๆ หมอกบางๆ เพราะฉนั้นต้องเตรียมตัวให้พร้อมเพราะถ้าสายมาแดดเริ่มออกอากาศจะเริ่มร้อนขึ้นเรื่อยๆ หมวก ครีมกันแดด แว่น ต้องพกเตรียมไปด้วย เรือค่อยๆออกจากฝั่ง แสงท้องฟ้าเปลี่ยนสีจากมือสนิทเป็นเริ่มสว่าง สลับสี ส้ม ฟ้า เหลือง หันมองข้างหน้าเป็นฝืนน้ำสีคราม ข้างหลังเป็นวิวภูเขาลูกโตหมอกปกครุม พร้อมวิวฝั่งที่ค่อยๆขยายวงกว้างและเล็กลงเรื่อยๆ อากาศช่างเป็นใจเหลือเกิน

เงาเรือแมงมุมทะยอยออกจากฝั่งทุกมุม เห็นตะคุ่มๆ มุ่งหน้าออกสู่กลางน่านน้ำ ไปรวมตัวยังจุดที่คิดว่าปลาโลมาจะกระโดดมาทักทาย ชาวเรือเขาจะรู้กันว่าช่วงไหน ปลาจะออกมา เพราะทะเลกว้างเกินการคาดเดา คิดในใจว่าถ้าวันนี้เจ้าโลมาเปลี่ยนที่นอนล่ะ..

คนขับเรือ กัปตัน Susi ของเราบอกว่ามันมาแน่นอน พระอาทิตย์โผล่ขึ้นน้ำเมื่อไหร่ เตรียมกล้องได้เลย พระอาทิตย์ดวงโต ค่อยๆโผล่ขึ้นมายิ้มให้ผู้คนที่ตั้งหน้ารอดูพระอาทิตย์ขึ้นกลางทะเลสีคราม แสงอาทิตย์สะท้อนน้ำระยิบระยับช่างสวยงามมากๆ นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้นั่งกลางทะเลดูพระอาทิตย์ขึ้น แสงสว่างเริ่มเปลี่ยนฟ้าสีทองเป็นสีฟ้าให้กลมกลืนกับฝืนน้ำ


เสียงโห่ดีใจดังเป็นจุดๆ เพราะเจ้าโลมาออกมารับแดดกันแล้ว พอโผล่ออกมาตรงไหนเรือก็พุ่งมุ่งตรงดิ่งตามฝูงโลมา วันนี้เจ้าโลมาออกมาไม่เยอะแต่ก็ได้เห็นบรรยากาศ ยามเช้า เห็นโลมา เห็นโลกในอีกหนึ่งมุมมอง


เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มแรงก้อได้เวลาพายเรือเข้าฝั่ง