เรื่องมีอยู่ว่า สองสัปดาห์ก่อนมีเจ้าหน้าที่จาก KTC โทรมาถามว่าได้ทำการใช้บัตรจองโรงแรมที่อเมริกาหรือไม่ พอเราตอบว่าไม่ และถามว่ายอดเท่าไหร่ จนท.บอกว่ายอด2-3 $ แต่ไม่ผ่านไม่มีการตัดบัตร แต่จะขอยกเลิกบัตรของเราไปก่อน และให้เราไปติดต่อทำบัตรใหม่ ซึ่งบัตรเราเป็นบัตรเสริม เจ้าของบัตรหลักต้องเป็นคนไปสมัครใหม่ เราจึงบอกให้จนท.โทรติดต่อแฟนซึ่งเป็นบัตรหลัก เมื่อจนท.ได้โทรไปก็บอกแฟนว่า จากการตรวจสอบแฟนเราไม่ได้ทำงานเปิดบัตรที่ส่งมาต่ออายุให้เมื่อปีที่แล้ว บัตรนี้จึงไม่สามารถใช้ได้ทั้งบัตรหลักบัตรเสริม แต่ที่ผ่านมาเราก็ยังใช้บัตรเสริมได้ตลอดจนวันที่เจ้าหน้าที่โทรมา
ขอท้าวความก่อนว่า บัตรนี้แฟนเราสมัครเพื่อให้เราได้ใช้บัตรเสริม แฟนทำงานตปท. กลับไทยทุกสองเดือน บริษัทแม่อยู่ในไทย เป็นของคนไทย เงินเดือนเข้าธนาคารที่ไทย บัตรนี้วงเงินหนึ่งแสนบาท ใช้มาสิบกว่าปีไม่เคยมีปัญหาค้างชำระ จ่ายยอดเต็มตลอด ไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ นอกจากที่ใช้ซื้อของ 0% ก็จะจ่ายทุกเดือนตามยอด
เราได้สอบถามจนท.ที่โทรมาว่าถ้าเราไปสมัครบัตรใหม่ยอดและแต้มจะโอนเข้าบัตรใหม่ได้ไม๊ จนท.คนนั้นบอกว่าได้ อีกวันเรากับแฟนก็ไปติดต่อธนาคารทำบัตรใหม่ เล่าเรื่องให้เจ้าหน้าที่ฟัง ( จนท.ธนาคารกรุงไทยพูดไม่ค่อยดีกับลูกค้านะคะ ) และบอกว่าจนท.ที่โทรมาบอกว่าสามารถโอนยอดไปบัตรใหม่ได้ แต่จนท.ธนาคารบอกว่าไม่ได้ เลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์และให้เราคุยกับจนท.ทางโทร จนท.คนนี้บอกว่าไม่ได้ เราถามถึงแต้มที่ค้างในบัตรเก่า เค้าบอกว่าจะคืนเป็นแคชแบคให้โดยตัดยอดกับที่ใช้บัตรไป 600 บาท ซึ่งแต้มเรามีเจ็ดพันกว่า ปกติ 1000 แต้มแลกได้ 100 ได้ ก็ยอมขาดทุนไป
พอแฟนเรายื่นเอกสารไป เมื่อวานนี้ทางแฟนได้รับข้อความว่าบัตรที่สมัครไม่อนุมัติ เลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่มีจนท.รับสาย เป็นระบบอัตโนมัติตลอด พอกด 0 สายก็ตัดตลอด เลยเข้าไปที่ธนาคาร ธนาคารโทรไปคอลเซ็นเตอร์ให้เลยสอบถามเหตุผลที่ไม่อนุมัติ แต่จนท.บอกไม่ทราบเหตุผล ทั้งที่ คนที่โทรมาหาคนแรกบอกว่าประวัติการใช้บัตรดี ใช้มานานไม่น่ามีปัญหาการอนุมัติ เราเลยสงสัยว่าการที่โทรมาบอกว่าบัตรอาจจะโดนแฮกเป็นข้ออ้างเพื่อจะปิดบัตรเราหรือเปล่า เพราะเราไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ จ่ายเต็มตลอด แล้วยังใช้แต้มได้อีก
จริงๆ การไม่อนุมัติบัตรควรจะมีเหตุผลให้ลูกค้าทราบว่าเพราะอะไร เงินเดือนน้อย มีหนี้สินมาก มีประวัติเสีย มียอดค้างชำราะ แต่นี่ไม่มีเหตุผลประกอบ แล้วขอเอกสารคืนก็บอกว่าทำลายไปแล้ว เลยทำให้คิดว่าทาง KTC จงใจต้องการปิดบัตรโดยอ้างว่าโดนแฮกหรือเปล่า
ท้ายนี้ขอคอมเพลนเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยพูดจาและทำสีหน้าไม่ค่อยดีกับลูกค้าเลย และคอลเซ็นเตอร์ติดต่อยากมาก
ขอบคุณพันทิปสำหรับพื้นที่ให้เล่าประสบการณ์ค่ะ
KTC ตั้งใจยกเลิกบัตรเครดิตลูกค้า โดยอ้างว่าโดนแฮกข้อมูลหรือไม่ พอสมัครใหม่กลับไม่อนุมัติ ทั้งที่ใช้มาสิบปีไม่เคยค้างชำระ
ขอท้าวความก่อนว่า บัตรนี้แฟนเราสมัครเพื่อให้เราได้ใช้บัตรเสริม แฟนทำงานตปท. กลับไทยทุกสองเดือน บริษัทแม่อยู่ในไทย เป็นของคนไทย เงินเดือนเข้าธนาคารที่ไทย บัตรนี้วงเงินหนึ่งแสนบาท ใช้มาสิบกว่าปีไม่เคยมีปัญหาค้างชำระ จ่ายยอดเต็มตลอด ไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ นอกจากที่ใช้ซื้อของ 0% ก็จะจ่ายทุกเดือนตามยอด
เราได้สอบถามจนท.ที่โทรมาว่าถ้าเราไปสมัครบัตรใหม่ยอดและแต้มจะโอนเข้าบัตรใหม่ได้ไม๊ จนท.คนนั้นบอกว่าได้ อีกวันเรากับแฟนก็ไปติดต่อธนาคารทำบัตรใหม่ เล่าเรื่องให้เจ้าหน้าที่ฟัง ( จนท.ธนาคารกรุงไทยพูดไม่ค่อยดีกับลูกค้านะคะ ) และบอกว่าจนท.ที่โทรมาบอกว่าสามารถโอนยอดไปบัตรใหม่ได้ แต่จนท.ธนาคารบอกว่าไม่ได้ เลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์และให้เราคุยกับจนท.ทางโทร จนท.คนนี้บอกว่าไม่ได้ เราถามถึงแต้มที่ค้างในบัตรเก่า เค้าบอกว่าจะคืนเป็นแคชแบคให้โดยตัดยอดกับที่ใช้บัตรไป 600 บาท ซึ่งแต้มเรามีเจ็ดพันกว่า ปกติ 1000 แต้มแลกได้ 100 ได้ ก็ยอมขาดทุนไป
พอแฟนเรายื่นเอกสารไป เมื่อวานนี้ทางแฟนได้รับข้อความว่าบัตรที่สมัครไม่อนุมัติ เลยโทรไปคอลเซ็นเตอร์ แต่ไม่มีจนท.รับสาย เป็นระบบอัตโนมัติตลอด พอกด 0 สายก็ตัดตลอด เลยเข้าไปที่ธนาคาร ธนาคารโทรไปคอลเซ็นเตอร์ให้เลยสอบถามเหตุผลที่ไม่อนุมัติ แต่จนท.บอกไม่ทราบเหตุผล ทั้งที่ คนที่โทรมาหาคนแรกบอกว่าประวัติการใช้บัตรดี ใช้มานานไม่น่ามีปัญหาการอนุมัติ เราเลยสงสัยว่าการที่โทรมาบอกว่าบัตรอาจจะโดนแฮกเป็นข้ออ้างเพื่อจะปิดบัตรเราหรือเปล่า เพราะเราไม่เคยจ่ายขั้นต่ำ จ่ายเต็มตลอด แล้วยังใช้แต้มได้อีก
จริงๆ การไม่อนุมัติบัตรควรจะมีเหตุผลให้ลูกค้าทราบว่าเพราะอะไร เงินเดือนน้อย มีหนี้สินมาก มีประวัติเสีย มียอดค้างชำราะ แต่นี่ไม่มีเหตุผลประกอบ แล้วขอเอกสารคืนก็บอกว่าทำลายไปแล้ว เลยทำให้คิดว่าทาง KTC จงใจต้องการปิดบัตรโดยอ้างว่าโดนแฮกหรือเปล่า
ท้ายนี้ขอคอมเพลนเจ้าหน้าที่ธนาคารกรุงไทยพูดจาและทำสีหน้าไม่ค่อยดีกับลูกค้าเลย และคอลเซ็นเตอร์ติดต่อยากมาก
ขอบคุณพันทิปสำหรับพื้นที่ให้เล่าประสบการณ์ค่ะ