วันนี้ตอนกินข้าวเที่ยง ผมกับเพื่อนคนนึงนัดกันว่าพรุ่งนี้เย็นจะเดินทางไปงานแต่งของเพื่อนอีกคนพร้อมกัน ซึ่งผมไม่ได้สนิทนัก ก็เลยพูดคุยถามรายละเอียดการแต่งของเค้า ซึ่งเพื่อนผมก็เล่าให้ฟังว่าตอนเช้าแห่ขันหมาก ทำพิธี มอบสินสอดกัน (ซึ่งมันก็ยังไม่รู้ว่าสินสอดเท่าไหร่) แล้วตอนเย็นก็จัดโต๊ะจีนเลี้ยงแขกอีกที
คุยไปคุยมา ผมถามต่อว่าแต่งแล้วไปอยู่แถวไหนกันหละ เพื่อนมันก็บอกว่าแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิง ผมเลยถามว่า อ้าว ฝ่ายหญิงเรียกสินสอดแล้วยังแต่งเข้าบ้านฝ่ายหญิงหรือ เพราะผมคิดว่าที่ประเพณีไทยมีการเรียกสินสอดจากฝ่ายชาย เพื่อให้พ่อแม่ฝ่ายหญิงมั่นใจว่าหนุ่มคนนั้นจะดูและลูกตัวเองได้ อีกทั้งตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูลูกสาวมา ก่อนที่ลูกตัวเองนั้นจะออกไปใช้ชีวิตกับชายหนุ่มข้างนอก (ซึ่งไม่ได้บังคับว่าต้องเข้าบ้านฝ่ายชาย อาจจะแยกกันไปอยู่สองคนสร้างครอบครัวใหม่ขึ้นมาก็ได้)
เพื่อนผมมันก็บอกว่าไม่รู้เหมือนกัน แต่ก็เคยเห็นเคสนึง ผู้ชายตกลงแต่งเข้าบ้านหญิง แล้วก็คุยกันไว้ว่าจะไม่มีสินสอดนะ เพราะถือว่าไม่ได้พาลูกสาวออกจากบ้าน แบบนี้ก็มีทำกัน
คือผมก็ไม่ได้ว่าแบบไหนถูกแบบไหนผิด เข้าใจว่าถ้าทั้งสองคนตกลงกันได้ ก็ถือเป็นความพอใจและเรื่องเฉพาะครอบครัวเค้า แต่การคุยกับเพื่อนในวันนี้ทำให้ผมนึกสงสัยขึ้นมาถึงเรื่องประเพณีมอบสินสอดว่า วัตถุประสงค์จริงๆคือการให้ความมั่นใจกับพ่อแม่ฝ่ายหญิงก่อนที่จะพาลูกสาวเค้าออกมาอยู่ข้างนอกหรือเปล่า ถ้าไม่ใช่แล้วสินสอดมันมีไว้เพื่อจุดประสงค์อะไร และเรื่องนี้ของประเทศอื่นเค้าเหมือนหรือต่างกับของไทยเราไหมครับ (อย่างที่จีน ผมเคยได้ยินว่าเค้าถือเรื่องแต่งแล้วฝ่ายหญิงต้องไปอยู่บ้านฝ่ายชาย ถ้าลูกสาวกลับมาบ้านเดิมจะโดนต่อว่าอย่างหนักเลย)