ในประเพณีแบบไทยๆ ที่ต้องมีสินสอด งานแต่งงาน ซึ่งฝ่ายชายรับภาระหนักมากทั้งการสร้างตัว การหาเงินค่าสินสอด (บางครั้งหลักล้าน) การต้องผ่านการประเมินของพ่อแม่ ผู้หลักผู้ใหญ่ ฝ่ายหญิง จัดพิธีอะไรต่างๆมากมาย
แต่กลับมีผู้ชายไร้ความรับผิดชอบจำนวนมาก สามารถหาช่องโหว่ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยการอ้างเรื่อง "อยู่ก่อนแต่ง"
ซึ่งฝ่ายหญิงที่บอกว่าตัวเองหัวสมัยใหม่ ก็สนับสนุนเรื่องนี้อย่างสุดตัว โดยที่ไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลย
อยู่ก่อนแต่ง จริงๆมันไม่ใช่อยู่ก่อนแต่งหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่ได้แต่ง มันคือ "การอยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียน" ต่างหาก
จขกท เคยไปงานแต่งหนึ่งที่เจ้าสาวเคยอยู่กินกับชายหนุ่มมาแล้ว 2 คนแล้วก็เลิกรา จนมาคบกับชายคนที่ 3 ไม่กี่เดือนก็แต่งงานเลย
หน้าฉากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวดีใจ เราก็ดีใจตาม แต่ในใจลึกๆเราก็คิดว่า มันแฟร์ มันยุติธรรมกับชายคนที่ 3 ไหมน้า... ที่จะต้องทำตามประเพณี ฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับสาวเจ้า แต่ชายหนุ่มคนก่อนหน้ากลับได้รับการปฏิบัติจากตัวผู้หญิงเหมือนกันแทบทุกอย่าง โดยที่แทบไม่ต้องเสียอะไรเลย...
คนบูชาความรักก็อาจบอกว่า เพื่อความรักอย่าไปคิดเรื่องแฟร์ไม่แฟร์สิ แต่ความรักมันก็มีจืดจางครับ วันนี้เขาอาจยอมได้เพราะความรักมันล้นหัวใจ แต่ในอนาคตเมื่อความรักจืดจางลง การปฏิบัติต่อกันอย่างไม่แฟร์ตั้งแต่แรกแบบนี้มันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการอยู่ด้วยกันแบบระหองระแหงนะครับ
ไฉนประเพณีจึงให้ประโยชน์แก่คนโกงหาช่องโหว่อย่างไม่มีจำกัด แต่กลับลงโทษคนที่ทำตามกรอบตามระบบอย่างนี้เล่า...
เพราะรัก ? รักจึงทำได้ทุกอย่างจริงๆหรือ ??? มิน่าเล่า ผู้ชายหลายๆคนเลยกลัวที่จะมีความรักไปเลย...
ขอเป็นเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่บอกว่า เราไม่โอเคครับ เราไม่โอเคจริงๆกับการรับวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้กับประเพณีไทยแบบครึ่งๆกลางๆอย่างนี้
ประเทศตะวันตกไม่มีค่าสินสอดนะครับ และงานแต่งส่วนใหญ่เขาก็เรียบง่าย ไม่ใช่หรูหราราคาแพงแบบนี้ (เจ้าของกระทู้เข้าใจว่า งานแต่งของฝรั่งที่หรูหราราคาแพง ส่วนใหญ่เป็นของพวกไฮโซ เซเลบ ที่เกี่ยวดองกับผลประโยชน์มหาศาล)
เราจะปฏิบัติแบบวัฒนธรรมตะวันตก แต่พอถึงเวลาก็มาอ้างประเพณีไทยไม่ได้น่ะครับ
ประเพณีไทยไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสอดรับกับวัฒนธรรมตะวันตกครับ มันต้องเลือกอย่างหนึ่งเท่านั้น...
หากจะทำตามประเพณีไทย ก็ทำให้มันสุดทางไปเลย ศึกษาดูใจ สู่ขอ แต่งงาน อยู่ด้วยกันหลังแต่ง
แต่หากจะอยู่กินกันก่อนแต่ง ฝ่ายหญิงก็ต้องทำใจได้ว่า หากทำแบบนี้มีโอกาสสูงที่จะเป็นการอยู่กินกันโดยไม่ได้แต่ง อาจต้องเปลี่ยนคู่รักไปเรื่อยๆ อาจต้องมีลูกโดยที่ไม่ได้แต่งงานหรือต้องครองตัวเป็นโสดหากหาชายที่พร้อมไม่ได้จริงๆ และค่าสินสอด การแต่งงาน ก็คงไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไปสำหรับผู้ที่อยู่กินกันมาโดยไม่จดทะเบียน (อาจมียกเว้นนะครับ สำหรับกรณีคู่รักที่อยู่ก่อนแต่งจริงๆ คือหมั้นหมายกันไว้แล้ว กำหนดวันแต่งงานไปแล้ว ทดลองอยู่ด้วยกันเพื่อจะได้ไม่ต้องปรับตัวแบบระยะสั้น 1-2 เดือน แต่กรณีแบบนั้นมีน้อยจริงๆ)
เจ้าของกระทู้ไม่เห็นทางออกอื่นจริงๆครับ
อย่าทำร้ายคนที่เขาทำตามกรอบตามระบบเลยครับ...
อยากเป็นเสียงหนึ่งของผู้ชายที่บอกว่า เราไม่โอเคกับประเพณีการอยู่ร่วมกันของคู่รักและการแต่งงานในปัจจุบันครับ
แต่กลับมีผู้ชายไร้ความรับผิดชอบจำนวนมาก สามารถหาช่องโหว่ไม่ต้องทำสิ่งเหล่านี้ได้ด้วยการอ้างเรื่อง "อยู่ก่อนแต่ง"
ซึ่งฝ่ายหญิงที่บอกว่าตัวเองหัวสมัยใหม่ ก็สนับสนุนเรื่องนี้อย่างสุดตัว โดยที่ไม่ได้สนใจอย่างอื่นเลย
อยู่ก่อนแต่ง จริงๆมันไม่ใช่อยู่ก่อนแต่งหรอกครับ เพราะส่วนใหญ่แล้วไม่ได้แต่ง มันคือ "การอยู่กินกันโดยไม่จดทะเบียน" ต่างหาก
จขกท เคยไปงานแต่งหนึ่งที่เจ้าสาวเคยอยู่กินกับชายหนุ่มมาแล้ว 2 คนแล้วก็เลิกรา จนมาคบกับชายคนที่ 3 ไม่กี่เดือนก็แต่งงานเลย
หน้าฉากเห็นเจ้าบ่าวเจ้าสาวดีใจ เราก็ดีใจตาม แต่ในใจลึกๆเราก็คิดว่า มันแฟร์ มันยุติธรรมกับชายคนที่ 3 ไหมน้า... ที่จะต้องทำตามประเพณี ฝ่าฟันทุกอย่างเพื่อจะได้อยู่กับสาวเจ้า แต่ชายหนุ่มคนก่อนหน้ากลับได้รับการปฏิบัติจากตัวผู้หญิงเหมือนกันแทบทุกอย่าง โดยที่แทบไม่ต้องเสียอะไรเลย...
คนบูชาความรักก็อาจบอกว่า เพื่อความรักอย่าไปคิดเรื่องแฟร์ไม่แฟร์สิ แต่ความรักมันก็มีจืดจางครับ วันนี้เขาอาจยอมได้เพราะความรักมันล้นหัวใจ แต่ในอนาคตเมื่อความรักจืดจางลง การปฏิบัติต่อกันอย่างไม่แฟร์ตั้งแต่แรกแบบนี้มันอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการอยู่ด้วยกันแบบระหองระแหงนะครับ
ไฉนประเพณีจึงให้ประโยชน์แก่คนโกงหาช่องโหว่อย่างไม่มีจำกัด แต่กลับลงโทษคนที่ทำตามกรอบตามระบบอย่างนี้เล่า...
เพราะรัก ? รักจึงทำได้ทุกอย่างจริงๆหรือ ??? มิน่าเล่า ผู้ชายหลายๆคนเลยกลัวที่จะมีความรักไปเลย...
ขอเป็นเสียงของชายหนุ่มคนหนึ่งที่บอกว่า เราไม่โอเคครับ เราไม่โอเคจริงๆกับการรับวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้กับประเพณีไทยแบบครึ่งๆกลางๆอย่างนี้
ประเทศตะวันตกไม่มีค่าสินสอดนะครับ และงานแต่งส่วนใหญ่เขาก็เรียบง่าย ไม่ใช่หรูหราราคาแพงแบบนี้ (เจ้าของกระทู้เข้าใจว่า งานแต่งของฝรั่งที่หรูหราราคาแพง ส่วนใหญ่เป็นของพวกไฮโซ เซเลบ ที่เกี่ยวดองกับผลประโยชน์มหาศาล)
เราจะปฏิบัติแบบวัฒนธรรมตะวันตก แต่พอถึงเวลาก็มาอ้างประเพณีไทยไม่ได้น่ะครับ
ประเพณีไทยไม่ได้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อสอดรับกับวัฒนธรรมตะวันตกครับ มันต้องเลือกอย่างหนึ่งเท่านั้น...
หากจะทำตามประเพณีไทย ก็ทำให้มันสุดทางไปเลย ศึกษาดูใจ สู่ขอ แต่งงาน อยู่ด้วยกันหลังแต่ง
แต่หากจะอยู่กินกันก่อนแต่ง ฝ่ายหญิงก็ต้องทำใจได้ว่า หากทำแบบนี้มีโอกาสสูงที่จะเป็นการอยู่กินกันโดยไม่ได้แต่ง อาจต้องเปลี่ยนคู่รักไปเรื่อยๆ อาจต้องมีลูกโดยที่ไม่ได้แต่งงานหรือต้องครองตัวเป็นโสดหากหาชายที่พร้อมไม่ได้จริงๆ และค่าสินสอด การแต่งงาน ก็คงไม่ใช่สิ่งสำคัญอีกต่อไปสำหรับผู้ที่อยู่กินกันมาโดยไม่จดทะเบียน (อาจมียกเว้นนะครับ สำหรับกรณีคู่รักที่อยู่ก่อนแต่งจริงๆ คือหมั้นหมายกันไว้แล้ว กำหนดวันแต่งงานไปแล้ว ทดลองอยู่ด้วยกันเพื่อจะได้ไม่ต้องปรับตัวแบบระยะสั้น 1-2 เดือน แต่กรณีแบบนั้นมีน้อยจริงๆ)
เจ้าของกระทู้ไม่เห็นทางออกอื่นจริงๆครับ
อย่าทำร้ายคนที่เขาทำตามกรอบตามระบบเลยครับ...