ผมเป็นคนรักการอ่านหนังสือเล่นหุ้น ผมจึงต้องมาวิพากษ์หนังสือของ Russell Napier เรื่อง Anatomy Of The Bear ดีกว่า
หนังสือเล่มนี้ Napier ได้เขียน 4 หัวข้อสำคัญเกี่ยวกับตลาดภาวะหมี คือในช่วงปี 1921,1932,1949 และ 1982 Napier ได้มองย้อนประวัติศาสตร์ตลาดภาวะหมี ดูเหตุการณ์ต่างๆและก็ดูว่าได้รับผลกระทบจากทางนักลงทุนมากน้อยแค่ไหน จากการวิจัยของเขานั้น เขาได้ทำการทดสอบบทความบางส่วน 7 หมื่นบทความในหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal มาเป็นเวลา 2 เดือนก่อนและหลังจากนั้น ที่ทำให้ทัศนคติของเทรดเดอร์เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ที่ทำให้การเล่นหุ้นของเขาดำเนินไปแบบนี้แต่ละวัน ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากที่ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเจอแต่ภาพมืดมัวไปหมดจนไม่ให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นไป
Napier ก็ได้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้คนในแต่ละสถานการณ์ในแต่ละครั้ง แต่ละเหตุการณ์เกี่ยวกับตลาดภาวะหมี เขาได้ดูถึงเรื่องของภาวะสงคราม การคลัง นโยบาย การเมือง ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ และทุกๆอย่างที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อขายหุ้นของเทรดเดอร์ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นการรวบรวมแหล่งข้อมูลที่ดีให้เราได้เรียนรู้บทเรียนในอดีต
นี่เป็นส่วนที่ผมคิดว่าได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้
• การติดตามผลประกอบการ ในปี 1921 ราคาหุ้นได้ตกต่ำในช่วง 4 เดือนก่อนที่จะมีผลประกอบการออกมา ในปี 1932 หุ้นบางตัวมีผลประกอบการดีใน 5 เดือนแต่ราคาหุ้นยังตกต่ำอยู่ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจระหว่างแนวคิดปัจจัยทางพื้นฐานกับทางเทคนิค (พวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าผมเลือกข้างไหน)
• การทำกำไรระยะสั้นยังทำได้ดีอยู่แม้ว่าราคาจะตกต่ำ Napier พบว่าการทำกำกำไรระยะสั้นยังทำได้ดีเหมือนเดิมแม้ว่าราคาหุ้นจะตกต่ำ จะต้องจำไว้ว่าแม้แต่ภาวะหมีก็สามารถโลภได้อยู่ตลอดเวลา ในการทำกำไรระยะสั้นสามารถหาจุดเข้าออกได้อย่างเหมาะสมได้ แม้ว่าราคาหุ้นจะขับเคลื่อนสูงขึ้น มีแรงเคลื่อนไหวไม่สิ้นสุด Napier ได้บันทึกเอาไว้ว่าการทำไรระยะสั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวร้ายในช่วงปี 1921,1932 และ 1949
• ตลาดภาวะหมีไม่ได้ทำให้เราหวาดกลัวอย่างที่คิดเอาไว้ จากการวิจัยของ Napier ได้กล่าวว่าการที่ราคาตกต่ำก็ไม่ได้หมายความว่าหลายคนจะหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่มี Volume ในการซื้อขายหุ้นเลย สำคัญก็คือตลาดหมีเราเป็นคนออกจากตลาดเอง จริงๆมันไม่ไดน่ากลัวอย่างที่คิด
• การประเมินสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตกต่ำอยู่ด้วยเหมือนกัน ที่มีราคาทองแดงเป็นตัวชี้นำหรือมีการเด้งขึ้นไปมาด้วยเช่นกัน
หนังสือเล่มนี้มีข้อสรุปที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ในการเล่นหุ้น 4 เหตุการณ์สำคัญของภาวะหมี ซึ่งพวกเราจะต้องนำมาอ่านเป็นอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณ Rusell Napier ที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการศึกษานี้ ผมอ่านแล้วก็สนุกไปด้วย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะหมีในอดีตด้วย
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net
วิพากษ์หนังสือ Anatomy Of The Bear
ผมเป็นคนรักการอ่านหนังสือเล่นหุ้น ผมจึงต้องมาวิพากษ์หนังสือของ Russell Napier เรื่อง Anatomy Of The Bear ดีกว่า
หนังสือเล่มนี้ Napier ได้เขียน 4 หัวข้อสำคัญเกี่ยวกับตลาดภาวะหมี คือในช่วงปี 1921,1932,1949 และ 1982 Napier ได้มองย้อนประวัติศาสตร์ตลาดภาวะหมี ดูเหตุการณ์ต่างๆและก็ดูว่าได้รับผลกระทบจากทางนักลงทุนมากน้อยแค่ไหน จากการวิจัยของเขานั้น เขาได้ทำการทดสอบบทความบางส่วน 7 หมื่นบทความในหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal มาเป็นเวลา 2 เดือนก่อนและหลังจากนั้น ที่ทำให้ทัศนคติของเทรดเดอร์เปลี่ยนไปในแต่ละวัน ที่ทำให้การเล่นหุ้นของเขาดำเนินไปแบบนี้แต่ละวัน ซึ่งเป็นอะไรที่น่าเหลือเชื่อมากที่ยิ่งอ่านมากก็ยิ่งเจอแต่ภาพมืดมัวไปหมดจนไม่ให้ความสำคัญกับตลาดหุ้นไป
Napier ก็ได้ตรวจสอบพฤติกรรมของผู้คนในแต่ละสถานการณ์ในแต่ละครั้ง แต่ละเหตุการณ์เกี่ยวกับตลาดภาวะหมี เขาได้ดูถึงเรื่องของภาวะสงคราม การคลัง นโยบาย การเมือง ปัจจัยทางด้านเศรษฐกิจ และทุกๆอย่างที่ได้รับผลกระทบจากการซื้อขายหุ้นของเทรดเดอร์ หนังสือเล่มนี้ถือเป็นการรวบรวมแหล่งข้อมูลที่ดีให้เราได้เรียนรู้บทเรียนในอดีต
นี่เป็นส่วนที่ผมคิดว่าได้ประโยชน์จากหนังสือเล่มนี้
• การติดตามผลประกอบการ ในปี 1921 ราคาหุ้นได้ตกต่ำในช่วง 4 เดือนก่อนที่จะมีผลประกอบการออกมา ในปี 1932 หุ้นบางตัวมีผลประกอบการดีใน 5 เดือนแต่ราคาหุ้นยังตกต่ำอยู่ นี่ถือว่าเป็นสิ่งที่น่าสนใจระหว่างแนวคิดปัจจัยทางพื้นฐานกับทางเทคนิค (พวกเราก็รู้อยู่แล้วว่าผมเลือกข้างไหน)
• การทำกำไรระยะสั้นยังทำได้ดีอยู่แม้ว่าราคาจะตกต่ำ Napier พบว่าการทำกำกำไรระยะสั้นยังทำได้ดีเหมือนเดิมแม้ว่าราคาหุ้นจะตกต่ำ จะต้องจำไว้ว่าแม้แต่ภาวะหมีก็สามารถโลภได้อยู่ตลอดเวลา ในการทำกำไรระยะสั้นสามารถหาจุดเข้าออกได้อย่างเหมาะสมได้ แม้ว่าราคาหุ้นจะขับเคลื่อนสูงขึ้น มีแรงเคลื่อนไหวไม่สิ้นสุด Napier ได้บันทึกเอาไว้ว่าการทำไรระยะสั้นจะไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวร้ายในช่วงปี 1921,1932 และ 1949
• ตลาดภาวะหมีไม่ได้ทำให้เราหวาดกลัวอย่างที่คิดเอาไว้ จากการวิจัยของ Napier ได้กล่าวว่าการที่ราคาตกต่ำก็ไม่ได้หมายความว่าหลายคนจะหวาดกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนไม่มี Volume ในการซื้อขายหุ้นเลย สำคัญก็คือตลาดหมีเราเป็นคนออกจากตลาดเอง จริงๆมันไม่ไดน่ากลัวอย่างที่คิด
• การประเมินสินค้าโภคภัณฑ์ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ก็ตกต่ำอยู่ด้วยเหมือนกัน ที่มีราคาทองแดงเป็นตัวชี้นำหรือมีการเด้งขึ้นไปมาด้วยเช่นกัน
หนังสือเล่มนี้มีข้อสรุปที่ยอดเยี่ยมเกี่ยวกับกลยุทธ์และยุทธศาสตร์ในการเล่นหุ้น 4 เหตุการณ์สำคัญของภาวะหมี ซึ่งพวกเราจะต้องนำมาอ่านเป็นอย่างยิ่ง
ขอขอบคุณ Rusell Napier ที่ได้แลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการศึกษานี้ ผมอ่านแล้วก็สนุกไปด้วย ได้เรียนรู้เกี่ยวกับภาวะหมีในอดีตด้วย
เทรดหุ้นอย่างโจร !!!
ผู้เขียน Jeff White
ผู้แปล Mr.lawrence10
ที่มา : TheStockBandit.net