แก้ไขอาชญากรรมทางเพศเชิงโครงสร้าง
ดร.โสภณ พรโชคชัย
เมื่อเร็วๆ นี้ มีเรื่องเศร้าสลดข่มขืนเด็กบนรถไฟ และมีดารา/'เซเลป' ออกมาเรียกร้องให้ประหารผู้ข่มขืน แต่นี่เป็นการตอบสนองในเชิงอารมณ์ แม้หลายๆ คนจะเห็นด้วย ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งถ้าเกิดกับคนในครอบครัว ก็คงแค้นเคืองแน่นอน แต่เชื่อว่าสุดท้ายความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ก็เหมือนไฟไหม้ฟาง ในอดีตที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีสลดยิ่งกว่านี้ แล้วผู้ร้ายก็คิดคุกราว 10 ปีก็ออกมาหมดแล้ว ร้ายกว่านั้นก็คือหากเป็นคนมีฐานะและชื่อเสียง เรื่องก็เงียบ แต่ในกรณีล่าสุดเกิดกับชายที่มีฐานะยากจน แถมเสพยาบ้า ความแค้นเคืองก็มีมากเป็นทวีคูณ
เราจะแก้ไขกันอย่างไรดี ต้นตอของปัญหาอยู่ที่ไหน บ้างพูดถึงการถ่ายภาพหวิว แต่ในขณะเดียวกันนางแบบภาพหวิวกลับออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ประหารผู้ข่มขืน พร้อมเหตุผลที่น่าฟังว่า แม้หญิงจะแต่งหวิวขนาดไหน ชายก็ไม่มีสิทธิข่มขืน ซึ่งก็เป็นหลักการที่ถูกต้อง แต่โจรผู้ร้ายที่ได้รับการยั่วยุด้วยภาพหวิวบ่อย ๆ คงไม่ฟังโดยเฉพาะใน 'หน้ามืด' อย่างแน่นอน หลักการที่เป็นจริงอย่างหนึ่งจึงบอกว่า 'ชายจริงไม่ข่มขืน หญิงแท้ไม่พึงเปิดสรีระ' จนกลายเป็นการกดขี่ทางเพศแม้ของตัวเองก็ตาม
ว่าอาชญากรรมทางเพศ
กรณีที่ชายแปลกหน้าข่มขืนหญิงเช่นรายข้างต้นนั้นเป็นส่วนน้อย ถ้าเราขาดข้อมูล เข้าใจไม่ตรงความจริง ก็อาจแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ปัญหาอาชญากรรมทางเพศในประเทศไทยในปีที่แล้วมีการข่มขืนกันถึง 31,866 ราย (วันละ 87 ราย) {1} และอีกการศึกษาหนึ่งระบุว่า มักเกิดขึ้นโดยคนรู้จัก (60.1%) เกิดในเวลากลางวัน (57.9%) และมักเกิดขึ้นในบ้านของตัวเอง (70.9%) {2}
กรณีที่น่าสลดกรณีหนึ่งก็คือ ข่าวคุณตา น้องชายคุณตาอีก 2 คนและพ่อบังเกิดเกล้า รวม 4 คน ข่มขืนเด็กหญิงมา 5 ปีตั้งแต่เด็กอายุ 9 ขวบ จนกระทั่งเกิดเหตุพ่อกับตาเปิดศึกชิงนาง ใช้มีดไล่ฟันกัน เด็กกลัวมากจึงออกปากบอกแม่ เรื่องจึงแดงขึ้น {3} ความสลับซับซ้อนในการแก้ไขปัญหาจึงเกิดขึ้น เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ผู้หญิงตกเป็นเครื่องบำบัดความใคร่ทางเพศ
ทางออกของปัญหา
ด้วยภาวะทางอารมณ์จึงมีการรณรงค์ให้ 'ข่มขืน = ประหาร' ซึ่งว่าตามความหนักเบาของการกระทำผิดแล้ว คงไม่ถึงขั้นโทษประหาร แต่หากข่มขืน-ฆ่า หรือแม้ฆ่าอย่างเดียว โทษสูงสุดก็ถึงขั้นประหารอยู่แล้ว หลายฝ่ายออกมาชี้ให้เห็นว่า 'เราต้องมาหาวิธีป้องกันจากต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ ตัวบทกฎหมายเรื่องการประหารมีอยู่แล้ว' {4} และบางครั้งก็อาจประหารผิดตัวก็ได้
แม้แต่หญิงที่จบปริญญาโทและถูกข่มขืนบนรถไฟเมื่อ 13 ปีก่อน ก็ยังไม่เห็นด้วยเพราะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด 'คนที่กระทำการข่มขืน ณ ขณะนั้นล้วนขาดสติ. . .(ทางแก้เร่ง) ปรับปรุงระบบคุ้มครองความปลอดภัยของหญิงมากกว่า และควรเน้นรณรงค์การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น อาทิ จำคุกตลอดชีวิต. . .เราควรเน้นการแก้ไข ไม่ใช่การแก้แค้น {5} ทั้งนี้สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของเพื่อนบ้าน ที่เห็นว่าปกติคนร้ายที่ข่มขืนบนรถไฟเป็นคนเรียบร้อยดี อัธยาศัยดี {6} และพ่อของคนร้ายก็บอกว่าปกติลูกไม่ตีกระทั่งสุนัข กตัญญู แต่คงเพราะเสพยาบ้า ในแง่หนึ่งพ่ออาจพูดช่วยลูก แต่ในแง่หนึ่ง ยาบ้าน่าจะเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดการก่อเหตุร้าย {7}
แต่การลงโทษมักไม่สมควรแก่เหตุ
กรณีการฆ่าบนรถไฟนี้ สมควรลงโทษคนร้ายอย่างยิ่ง แต่ที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์ฆ่าที่เหี้ยมโหดกว่านี้มามาก แต่สุดท้ายได้รับการลงโทษไม่สมควรแก่เหตุ
1. คดีชาย 30 คนรุมข่มขืนหญิงจนตายแล้วนำร่างไปให้รถไฟทับตาย {8} แต่สุดท้ายผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องได้จริงมีแค่ 8-9 คน ติดคุกกันไม่เกิน 10 ปีก็ออกจากคุก
2. คดีที่ก่อทั้งที่มีสติสัมปชัญญะ ไม่ได้เสพยาบ้าสักเม็ดและโดยปัญญาชนแท้ๆ ก็คือ นายเสริม นักศึกษาแพทย์มหิดล {9} และ นพ.วิสุทธิ์ โรงพยาบาลจุฬาฯ {10} ที่ฆ่าแล่เนื้อหั่นศพหญิง ปัจจุบันนี้นายเสริมออกจากคุกแล้ว ส่วน นพ.วิสุทธิ์ คาดว่าจะได้ออกมาภายในปี 2557 โดยทั้งคู่ติดคุกอยู่ประมาณ 13 ปี
3. คดี 'ไอ้หนุ่ย' ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าขืนใจเด็ก 6 ขวบ รวมเหยื่อกว่า 10 ราย (ตาย 4 ราย) สุดท้ายศาลตัดสินประหารชีวิต แต่ลดโทษให้เพราะสารภาพเหลือจำคุกตลอดชีวิต และอาจอยู่ในคุกไม่เกิน 13 ปีเช่นรายข้างต้น {11}
4. ในอีกแง่หนึ่งมักจะมีผู้รอดพ้นคดีโดยสังคมเข้าใจว่าเป็นเพราะมีฐานะดี เช่น คดีลูก ส.ส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ข่มขืนสาวพม่าจนไส้แตก ข่มขืนนักศึกษา ฆ่าและพยายามฆ่า มียาเสพติด ฯลฯ ก็ไม่ถูกประหาร {12} และกรณีลูกนักร้องเพลงเพื่อชีวิตก็รอดคดีข่มขืน {13} เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีคดีอาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ใช้ไม้กอล์ฟตีภริยาจนตาย แต่มีเหตุผล ศาลจึงลงโทษให้รอลงอาญา 3 ปี ไม่ติดคุก {14} กรณีนายพันตรีฆ่าผู้ว่าราชการจังหวัด เหตุเกิดปี 2544 ศาลตัดสินประหารชีวิต ก็ขอพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ปี 2550 ได้รับลดโทษอีก 13 ปี และอาจมีการลดอีกระหว่างนี้ {15} และกรณีนายพลตำรวจคดีเพชรซาอุฯ ฆ่าแม่ลูก 2 ศพ ศาลฎีกาพิพากษาให้ประหารชีวิต แต่ติดคุกอยู่ 18 ปี ตอนนี้ก็ออกมาแล้ว {16}
คงต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะหากเป็นในยุโรปและอเมริกา โทษของนักโทษเด็ดขาดก็ไม่มีการลดแล้วลดอีก สารภาพลดครึ่ง ฯลฯ ในยุคสมัยใหม่ อารยประเทศมักไม่ใช้การประหารชีวิต แต่ลำพังแค่โทษจำคุกตลอดชีวิตหรือ 50 ปีโดยไม่มีการลดโทษ ซึ่งหนักกว่าตายทั้งเป็น ก็ทำให้คนคิดก่ออาชญากรรม จะได้เตือนตนอยู่ตลอดเวลาก่อนเข้าสู่ภาวะขาดสติก็ได้
ยังไงก็ไม่ควรถ่ายแบบวาบหวิว
เป็นความจริงอีกเช่นกันที่ว่าเรามีสิทธิแต่งโป๊แต่ผู้ชายไม่มีสิทธิข่มขืน แต่ความจริงอีกด้านหนึ่งก็คือการยั่วยุไม่พึงมี กรณีที่เด่นชัดที่สุดก็คือหนังสือพิมพ์รายวันไม่พึงลงรูปถ่ายวาวหวิวในช่วงวันอาทิตย์เพื่อเพิ่มยอดขาย (แทบไม่พบในประเทศอื่น) สื่อและคนถ่ายแบบควรมีสำนึกรับผิดชอบต่อเด็กและสังคม ซึ่งสื่อไทยแทบไม่มี คนถ่ายแบบก็เห็นแก่การหากินง่าย ๆ โดยไม่สนใจภาพพจน์ในระยะยาวของตน และต่างก็อ้างว่าคนอื่นก็ทำได้แบบ 'มือใครยาวสาวได้สาวเอา'
ในสังคมตะวันตก การบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด เช่น การเข้าสถานบันเทิง/ดื่มของมึนเมา ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ผู้เข้าใช้บริการต้องถูกตรวจบัตร แม้ว่าหน้าจะแก่เขาก็ขอดูบัตรทุกคน เพราะเขาทำตามกฎ (อย่าหลงดีใจนึกว่าเราดูหน้าเด็ก) การเข้าร้าน Sex Shop ก็มีการตรวจตราโดยเคร่งครัด สังคมตะวันตกค่อนข้างเปิดกว้างด้านเพศสำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ที่ยังไม่แต่งงาน และหลายประเทศยังมีสถานบริการถูกกฎหมาย การฉุดคร่าข่มขืน จึงมีน้อย และหากมีคดีจะถูกลงโทษหนักซึ่งย่อมได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน
ปมอยู่ที่การทุจริตและการกระจายทรัพยากร
เราอยู่ในสังคมแห่งการเอารัดเอาเปรียบที่ 'รวยกระจุก จนกระจาย' อาชญากรรมและความรุนแรงเป็นผลพวงของความยากจน ประชาชนจึงต่าง 'ปากกัดตีนถีบ' พ่อแม่ก็ไม่ค่อยได้ดูแลลูก จนบางครั้งก็ 'ด้านได้อายอด' กระทั่งทำผิดบาปเมื่อเทียบกับ 'คนดี' ผู้มีอันจะกินที่สุขสบายไม่ต้องดิ้นรน การใช้ยาเสพติด การ 'หากินแนวนอน' ตลอดจนการโชว์เนื้อหนังมังสา ก็เพื่อบำบัดความขาดแคลน แต่เป็นการกดขี่ทางเพศ ทำให้หญิงกลายเป็นแค่เครื่องบำบัดความใคร่
ชายไทยโดยเฉพาะที่ยากจน และเป็นปุถุชนที่ถูกจับได้ว่ากระทำความผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดทางเพศ จะถูกประณามด้วยความโกรธแค้นจากสังคม ยิ่งหากเสพยา ก็ยิ่งถูกประณามหนักข้อยิ่งขึ้น แต่สังคมก็ไม่ค่อยกล้าไปตอแยกับคนรวยหรือผู้มีอิทธิพลที่กระทำผิดมากนัก และส่วนมากมักกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งไปในที่สุด เงินไขกุญแจได้ทุกดอก ด้วยเหตุนี้เองการทุจริตและประพฤติมิชอบจึงกระจายไปทุกหย่อมหญ้า
ในเชิงโครงสร้าง วิธีช่วยเหลือประชาชนให้มั่นคงปลอดภัยก็คือการพัฒนาเศรษฐกิจที่ให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ โดยการจัดสรรทรัพยากร ทุน และภาษีอย่างเป็นธรรม เช่น งบประมาณปี 2557 จำนวน 2.5 ล้านล้านบาทนั้น เป็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์เพียง 10,385 ล้านบาท เป็นต้น {17} ถ้าเรามีงบประมาณจัดสวัสดิการและความปลอดภัยในสังคมเพียงพอ สังคมคงน่าอยู่กว่านี้ นอกจากนี้ยังมีคนเข้าใจว่าคนรวยเสียภาษีมากกว่าคนจน แต่คนรวยจำนวนน้อยนิดที่เสียภาษีต่อหัวสูงกว่าคนจนนั้นได้ผ่านการเลี่ยงภาษีมาอย่างหมดจดแล้ว แต่คนจนที่มีจำนวนอันไพศาลเสียภาษีทางอ้อมมหาศาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มาหล่อเลี้ยงประเทศ {18}
ถ้าประชาชนมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นโดยเฉพาะจากการค้าขาย อุตสาหกรรม การส่งออก การท่องเที่ยว การเกษตรและอื่น ๆ โจรผู้ร้ายก็จะลดลง สังคมก็จะผาสุก แต่ถ้าบ้านเมืองเรายากจนลง ไม่มีใครคบค้า ถูกกีดกัน ประเทศชาติก็จะยิ่งเสื่อมทรุดลง ดูอย่างเมียนมาร์ที่ปิดประเทศไปหลายสิบปี กลับกลายเป็นประเทศยากจนที่สุดประเทศหนึ่ง ทั้งที่เคยรุ่งเรืองกว่าประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว
ถ้าหัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก ถ้าผู้เป็นใหญ่ตั้งใจปราบยาบ้าและทุจริตจริงจังดังเช่นในอดีต และกระจายทรัพยากรถึงมือประชาชนจริงๆ อาชญากรรม (ทางเพศ) ก็จะลด เรื่องสะเทือนใจก็จะน้อยลง
อ้างอิง
{1} โปรดดูรายละเอียดข่าวที่ www.thairath.co.th/content/41115
{2} โปรดดูรายละเอียดข่าวที่
http://goo.gl/0u5QsN
{3} โปรดดูรายละเอียดข่าวที่
http://goo.gl/ZPTrFK
{4} โปรดอ่าน 'เพิ่มบทลงโทษประหารคดีข่มขืน นักกม.ชี้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ' (www.isranews.org/thaireform-other-news/item/31139-die_31139.html) และ 'ข่มขืนต้องประหาร?' www.komchadluek.net/detail/20140709/187862.html
{5} โปรดอ่าน 'เปิดใจสาว ป.โท ผู้เสียหายคดีข่มขืนบนรถไฟ'
http://goo.gl/dB2cLF
{6} โปรดดูคำสัมภาษณ์เพื่อนบ้าน www.youtube.com/watch?v=xMmYHLScnpg
{7} โปรดดูคำสัมภาษณ์พ่อของนายเกม www.facebook.com/photo.php?v=336301709857613&set=vb.258654784288973&ty
{8} เหตุการณ์เกิดที่อำเภอพรหมพิราม พิษณุโลก เมื่อ 20 สิงหาคม 2520 www.facebook.com/photo.php?fbid=591286464317277&set=a.330671633712096.77875.324821724297087
{9} คดีนายเสริม นพ.แพทย์มหิดล โปรดดู
http://hilight.kapook.com/view/41579
{10} คดี นพ.วิสุทธิ์ แพทย์จุฬาฯ โปรดดู
http://hilight.kapook.com/view/77120
{11} คดี 'ไอ้หนุ่ย'
http://goo.gl/FPHQN8
{12} คดีลูก ส.ส. โปรดดู
http://news.sanook.com/crime/3/crime_17376.php
{13} กรณีลูกนักร้องเพื่อชีวิตที่รอดคดีข่มขืน โปรดดู
http://news.mthai.com/general-news/97033.html
{14} กรณีอาจารย์ NIDA โปรดดู
http://goo.gl/TF7baH
{15} กรณีพันตรีฆ่าผู้ว่าราชการจังหวัด โปรดดู
http://goo.gl/076x9G
{16} กรณีนายพลตำรวจใหญ่คดีเพชรซาอุ ฆ่าแม่ลูก 2 ศพ โปรดดู
http://goo.gl/N91FnU
{17} งบประมาณแผ่นดินไทย ปี 2557 www.bb.go.th/FILEROOM/CABBBIWEBFORM/DRAWER29/GENERAL/DATA0000/00000172.PDF
{18} โปรดอ่าน 'คนรวยเสียภาษีน้อยกว่าคนจน' www.area.co.th/thai/area_announce/area_anpg.php?strquey=area_announcement626.htm
ที่มาของรูป
http://jamaateislamihind.org/eng/wp-content/uploads/2013/01/anti-rape-law.jpg
แก้ไขอาชญากรรมทางเพศเชิงโครงสร้าง - ดร.โสภณ พรโชคชัย
ดร.โสภณ พรโชคชัย
เมื่อเร็วๆ นี้ มีเรื่องเศร้าสลดข่มขืนเด็กบนรถไฟ และมีดารา/'เซเลป' ออกมาเรียกร้องให้ประหารผู้ข่มขืน แต่นี่เป็นการตอบสนองในเชิงอารมณ์ แม้หลายๆ คนจะเห็นด้วย ผมเองก็ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ ยิ่งถ้าเกิดกับคนในครอบครัว ก็คงแค้นเคืองแน่นอน แต่เชื่อว่าสุดท้ายความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ก็เหมือนไฟไหม้ฟาง ในอดีตที่ผ่านมาเคยเกิดกรณีสลดยิ่งกว่านี้ แล้วผู้ร้ายก็คิดคุกราว 10 ปีก็ออกมาหมดแล้ว ร้ายกว่านั้นก็คือหากเป็นคนมีฐานะและชื่อเสียง เรื่องก็เงียบ แต่ในกรณีล่าสุดเกิดกับชายที่มีฐานะยากจน แถมเสพยาบ้า ความแค้นเคืองก็มีมากเป็นทวีคูณ
เราจะแก้ไขกันอย่างไรดี ต้นตอของปัญหาอยู่ที่ไหน บ้างพูดถึงการถ่ายภาพหวิว แต่ในขณะเดียวกันนางแบบภาพหวิวกลับออกมาเคลื่อนไหว เรียกร้องให้ประหารผู้ข่มขืน พร้อมเหตุผลที่น่าฟังว่า แม้หญิงจะแต่งหวิวขนาดไหน ชายก็ไม่มีสิทธิข่มขืน ซึ่งก็เป็นหลักการที่ถูกต้อง แต่โจรผู้ร้ายที่ได้รับการยั่วยุด้วยภาพหวิวบ่อย ๆ คงไม่ฟังโดยเฉพาะใน 'หน้ามืด' อย่างแน่นอน หลักการที่เป็นจริงอย่างหนึ่งจึงบอกว่า 'ชายจริงไม่ข่มขืน หญิงแท้ไม่พึงเปิดสรีระ' จนกลายเป็นการกดขี่ทางเพศแม้ของตัวเองก็ตาม
ว่าอาชญากรรมทางเพศ
กรณีที่ชายแปลกหน้าข่มขืนหญิงเช่นรายข้างต้นนั้นเป็นส่วนน้อย ถ้าเราขาดข้อมูล เข้าใจไม่ตรงความจริง ก็อาจแก้ไขปัญหาไม่ตรงจุด ปัญหาอาชญากรรมทางเพศในประเทศไทยในปีที่แล้วมีการข่มขืนกันถึง 31,866 ราย (วันละ 87 ราย) {1} และอีกการศึกษาหนึ่งระบุว่า มักเกิดขึ้นโดยคนรู้จัก (60.1%) เกิดในเวลากลางวัน (57.9%) และมักเกิดขึ้นในบ้านของตัวเอง (70.9%) {2}
กรณีที่น่าสลดกรณีหนึ่งก็คือ ข่าวคุณตา น้องชายคุณตาอีก 2 คนและพ่อบังเกิดเกล้า รวม 4 คน ข่มขืนเด็กหญิงมา 5 ปีตั้งแต่เด็กอายุ 9 ขวบ จนกระทั่งเกิดเหตุพ่อกับตาเปิดศึกชิงนาง ใช้มีดไล่ฟันกัน เด็กกลัวมากจึงออกปากบอกแม่ เรื่องจึงแดงขึ้น {3} ความสลับซับซ้อนในการแก้ไขปัญหาจึงเกิดขึ้น เราจะทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ผู้หญิงตกเป็นเครื่องบำบัดความใคร่ทางเพศ
ทางออกของปัญหา
ด้วยภาวะทางอารมณ์จึงมีการรณรงค์ให้ 'ข่มขืน = ประหาร' ซึ่งว่าตามความหนักเบาของการกระทำผิดแล้ว คงไม่ถึงขั้นโทษประหาร แต่หากข่มขืน-ฆ่า หรือแม้ฆ่าอย่างเดียว โทษสูงสุดก็ถึงขั้นประหารอยู่แล้ว หลายฝ่ายออกมาชี้ให้เห็นว่า 'เราต้องมาหาวิธีป้องกันจากต้นเหตุไม่ใช่ปลายเหตุ ตัวบทกฎหมายเรื่องการประหารมีอยู่แล้ว' {4} และบางครั้งก็อาจประหารผิดตัวก็ได้
แม้แต่หญิงที่จบปริญญาโทและถูกข่มขืนบนรถไฟเมื่อ 13 ปีก่อน ก็ยังไม่เห็นด้วยเพราะแก้ปัญหาไม่ตรงจุด 'คนที่กระทำการข่มขืน ณ ขณะนั้นล้วนขาดสติ. . .(ทางแก้เร่ง) ปรับปรุงระบบคุ้มครองความปลอดภัยของหญิงมากกว่า และควรเน้นรณรงค์การบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น อาทิ จำคุกตลอดชีวิต. . .เราควรเน้นการแก้ไข ไม่ใช่การแก้แค้น {5} ทั้งนี้สอดคล้องกับคำให้สัมภาษณ์ของเพื่อนบ้าน ที่เห็นว่าปกติคนร้ายที่ข่มขืนบนรถไฟเป็นคนเรียบร้อยดี อัธยาศัยดี {6} และพ่อของคนร้ายก็บอกว่าปกติลูกไม่ตีกระทั่งสุนัข กตัญญู แต่คงเพราะเสพยาบ้า ในแง่หนึ่งพ่ออาจพูดช่วยลูก แต่ในแง่หนึ่ง ยาบ้าน่าจะเป็นปัญหาสำคัญที่ทำให้เกิดการก่อเหตุร้าย {7}
แต่การลงโทษมักไม่สมควรแก่เหตุ
กรณีการฆ่าบนรถไฟนี้ สมควรลงโทษคนร้ายอย่างยิ่ง แต่ที่ผ่านมา เคยมีเหตุการณ์ฆ่าที่เหี้ยมโหดกว่านี้มามาก แต่สุดท้ายได้รับการลงโทษไม่สมควรแก่เหตุ
1. คดีชาย 30 คนรุมข่มขืนหญิงจนตายแล้วนำร่างไปให้รถไฟทับตาย {8} แต่สุดท้ายผู้ต้องหาที่ถูกฟ้องได้จริงมีแค่ 8-9 คน ติดคุกกันไม่เกิน 10 ปีก็ออกจากคุก
2. คดีที่ก่อทั้งที่มีสติสัมปชัญญะ ไม่ได้เสพยาบ้าสักเม็ดและโดยปัญญาชนแท้ๆ ก็คือ นายเสริม นักศึกษาแพทย์มหิดล {9} และ นพ.วิสุทธิ์ โรงพยาบาลจุฬาฯ {10} ที่ฆ่าแล่เนื้อหั่นศพหญิง ปัจจุบันนี้นายเสริมออกจากคุกแล้ว ส่วน นพ.วิสุทธิ์ คาดว่าจะได้ออกมาภายในปี 2557 โดยทั้งคู่ติดคุกอยู่ประมาณ 13 ปี
3. คดี 'ไอ้หนุ่ย' ฆาตกรต่อเนื่องฆ่าขืนใจเด็ก 6 ขวบ รวมเหยื่อกว่า 10 ราย (ตาย 4 ราย) สุดท้ายศาลตัดสินประหารชีวิต แต่ลดโทษให้เพราะสารภาพเหลือจำคุกตลอดชีวิต และอาจอยู่ในคุกไม่เกิน 13 ปีเช่นรายข้างต้น {11}
4. ในอีกแง่หนึ่งมักจะมีผู้รอดพ้นคดีโดยสังคมเข้าใจว่าเป็นเพราะมีฐานะดี เช่น คดีลูก ส.ส.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ข่มขืนสาวพม่าจนไส้แตก ข่มขืนนักศึกษา ฆ่าและพยายามฆ่า มียาเสพติด ฯลฯ ก็ไม่ถูกประหาร {12} และกรณีลูกนักร้องเพลงเพื่อชีวิตก็รอดคดีข่มขืน {13} เป็นต้น
นอกจากนี้ยังมีคดีอาจารย์สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (NIDA) ใช้ไม้กอล์ฟตีภริยาจนตาย แต่มีเหตุผล ศาลจึงลงโทษให้รอลงอาญา 3 ปี ไม่ติดคุก {14} กรณีนายพันตรีฆ่าผู้ว่าราชการจังหวัด เหตุเกิดปี 2544 ศาลตัดสินประหารชีวิต ก็ขอพระราชทานอภัยโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิต ปี 2550 ได้รับลดโทษอีก 13 ปี และอาจมีการลดอีกระหว่างนี้ {15} และกรณีนายพลตำรวจคดีเพชรซาอุฯ ฆ่าแม่ลูก 2 ศพ ศาลฎีกาพิพากษาให้ประหารชีวิต แต่ติดคุกอยู่ 18 ปี ตอนนี้ก็ออกมาแล้ว {16}
คงต้องมีการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมของไทย เพราะหากเป็นในยุโรปและอเมริกา โทษของนักโทษเด็ดขาดก็ไม่มีการลดแล้วลดอีก สารภาพลดครึ่ง ฯลฯ ในยุคสมัยใหม่ อารยประเทศมักไม่ใช้การประหารชีวิต แต่ลำพังแค่โทษจำคุกตลอดชีวิตหรือ 50 ปีโดยไม่มีการลดโทษ ซึ่งหนักกว่าตายทั้งเป็น ก็ทำให้คนคิดก่ออาชญากรรม จะได้เตือนตนอยู่ตลอดเวลาก่อนเข้าสู่ภาวะขาดสติก็ได้
ยังไงก็ไม่ควรถ่ายแบบวาบหวิว
เป็นความจริงอีกเช่นกันที่ว่าเรามีสิทธิแต่งโป๊แต่ผู้ชายไม่มีสิทธิข่มขืน แต่ความจริงอีกด้านหนึ่งก็คือการยั่วยุไม่พึงมี กรณีที่เด่นชัดที่สุดก็คือหนังสือพิมพ์รายวันไม่พึงลงรูปถ่ายวาวหวิวในช่วงวันอาทิตย์เพื่อเพิ่มยอดขาย (แทบไม่พบในประเทศอื่น) สื่อและคนถ่ายแบบควรมีสำนึกรับผิดชอบต่อเด็กและสังคม ซึ่งสื่อไทยแทบไม่มี คนถ่ายแบบก็เห็นแก่การหากินง่าย ๆ โดยไม่สนใจภาพพจน์ในระยะยาวของตน และต่างก็อ้างว่าคนอื่นก็ทำได้แบบ 'มือใครยาวสาวได้สาวเอา'
ในสังคมตะวันตก การบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัด เช่น การเข้าสถานบันเทิง/ดื่มของมึนเมา ต้องมีอายุ 21 ปีขึ้นไป ผู้เข้าใช้บริการต้องถูกตรวจบัตร แม้ว่าหน้าจะแก่เขาก็ขอดูบัตรทุกคน เพราะเขาทำตามกฎ (อย่าหลงดีใจนึกว่าเราดูหน้าเด็ก) การเข้าร้าน Sex Shop ก็มีการตรวจตราโดยเคร่งครัด สังคมตะวันตกค่อนข้างเปิดกว้างด้านเพศสำหรับผู้ใหญ่ (อายุ 18 ปีขึ้นไป) ที่ยังไม่แต่งงาน และหลายประเทศยังมีสถานบริการถูกกฎหมาย การฉุดคร่าข่มขืน จึงมีน้อย และหากมีคดีจะถูกลงโทษหนักซึ่งย่อมได้ไม่คุ้มเสียอย่างแน่นอน
ปมอยู่ที่การทุจริตและการกระจายทรัพยากร
เราอยู่ในสังคมแห่งการเอารัดเอาเปรียบที่ 'รวยกระจุก จนกระจาย' อาชญากรรมและความรุนแรงเป็นผลพวงของความยากจน ประชาชนจึงต่าง 'ปากกัดตีนถีบ' พ่อแม่ก็ไม่ค่อยได้ดูแลลูก จนบางครั้งก็ 'ด้านได้อายอด' กระทั่งทำผิดบาปเมื่อเทียบกับ 'คนดี' ผู้มีอันจะกินที่สุขสบายไม่ต้องดิ้นรน การใช้ยาเสพติด การ 'หากินแนวนอน' ตลอดจนการโชว์เนื้อหนังมังสา ก็เพื่อบำบัดความขาดแคลน แต่เป็นการกดขี่ทางเพศ ทำให้หญิงกลายเป็นแค่เครื่องบำบัดความใคร่
ชายไทยโดยเฉพาะที่ยากจน และเป็นปุถุชนที่ถูกจับได้ว่ากระทำความผิดโดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดทางเพศ จะถูกประณามด้วยความโกรธแค้นจากสังคม ยิ่งหากเสพยา ก็ยิ่งถูกประณามหนักข้อยิ่งขึ้น แต่สังคมก็ไม่ค่อยกล้าไปตอแยกับคนรวยหรือผู้มีอิทธิพลที่กระทำผิดมากนัก และส่วนมากมักกลายเป็นคลื่นกระทบฝั่งไปในที่สุด เงินไขกุญแจได้ทุกดอก ด้วยเหตุนี้เองการทุจริตและประพฤติมิชอบจึงกระจายไปทุกหย่อมหญ้า
ในเชิงโครงสร้าง วิธีช่วยเหลือประชาชนให้มั่นคงปลอดภัยก็คือการพัฒนาเศรษฐกิจที่ให้ประชาชนลืมตาอ้าปากได้ โดยการจัดสรรทรัพยากร ทุน และภาษีอย่างเป็นธรรม เช่น งบประมาณปี 2557 จำนวน 2.5 ล้านล้านบาทนั้น เป็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์เพียง 10,385 ล้านบาท เป็นต้น {17} ถ้าเรามีงบประมาณจัดสวัสดิการและความปลอดภัยในสังคมเพียงพอ สังคมคงน่าอยู่กว่านี้ นอกจากนี้ยังมีคนเข้าใจว่าคนรวยเสียภาษีมากกว่าคนจน แต่คนรวยจำนวนน้อยนิดที่เสียภาษีต่อหัวสูงกว่าคนจนนั้นได้ผ่านการเลี่ยงภาษีมาอย่างหมดจดแล้ว แต่คนจนที่มีจำนวนอันไพศาลเสียภาษีทางอ้อมมหาศาลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้มาหล่อเลี้ยงประเทศ {18}
ถ้าประชาชนมีฐานะความเป็นอยู่ดีขึ้นโดยเฉพาะจากการค้าขาย อุตสาหกรรม การส่งออก การท่องเที่ยว การเกษตรและอื่น ๆ โจรผู้ร้ายก็จะลดลง สังคมก็จะผาสุก แต่ถ้าบ้านเมืองเรายากจนลง ไม่มีใครคบค้า ถูกกีดกัน ประเทศชาติก็จะยิ่งเสื่อมทรุดลง ดูอย่างเมียนมาร์ที่ปิดประเทศไปหลายสิบปี กลับกลายเป็นประเทศยากจนที่สุดประเทศหนึ่ง ทั้งที่เคยรุ่งเรืองกว่าประเทศไทยเมื่อ 60 ปีที่แล้ว
ถ้าหัวไม่ส่าย หางก็ไม่กระดิก ถ้าผู้เป็นใหญ่ตั้งใจปราบยาบ้าและทุจริตจริงจังดังเช่นในอดีต และกระจายทรัพยากรถึงมือประชาชนจริงๆ อาชญากรรม (ทางเพศ) ก็จะลด เรื่องสะเทือนใจก็จะน้อยลง
อ้างอิง
{1} โปรดดูรายละเอียดข่าวที่ www.thairath.co.th/content/41115
{2} โปรดดูรายละเอียดข่าวที่ http://goo.gl/0u5QsN
{3} โปรดดูรายละเอียดข่าวที่ http://goo.gl/ZPTrFK
{4} โปรดอ่าน 'เพิ่มบทลงโทษประหารคดีข่มขืน นักกม.ชี้แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ' (www.isranews.org/thaireform-other-news/item/31139-die_31139.html) และ 'ข่มขืนต้องประหาร?' www.komchadluek.net/detail/20140709/187862.html
{5} โปรดอ่าน 'เปิดใจสาว ป.โท ผู้เสียหายคดีข่มขืนบนรถไฟ' http://goo.gl/dB2cLF
{6} โปรดดูคำสัมภาษณ์เพื่อนบ้าน www.youtube.com/watch?v=xMmYHLScnpg
{7} โปรดดูคำสัมภาษณ์พ่อของนายเกม www.facebook.com/photo.php?v=336301709857613&set=vb.258654784288973&ty
{8} เหตุการณ์เกิดที่อำเภอพรหมพิราม พิษณุโลก เมื่อ 20 สิงหาคม 2520 www.facebook.com/photo.php?fbid=591286464317277&set=a.330671633712096.77875.324821724297087
{9} คดีนายเสริม นพ.แพทย์มหิดล โปรดดู http://hilight.kapook.com/view/41579
{10} คดี นพ.วิสุทธิ์ แพทย์จุฬาฯ โปรดดู http://hilight.kapook.com/view/77120
{11} คดี 'ไอ้หนุ่ย' http://goo.gl/FPHQN8
{12} คดีลูก ส.ส. โปรดดู http://news.sanook.com/crime/3/crime_17376.php
{13} กรณีลูกนักร้องเพื่อชีวิตที่รอดคดีข่มขืน โปรดดู http://news.mthai.com/general-news/97033.html
{14} กรณีอาจารย์ NIDA โปรดดู http://goo.gl/TF7baH
{15} กรณีพันตรีฆ่าผู้ว่าราชการจังหวัด โปรดดู http://goo.gl/076x9G
{16} กรณีนายพลตำรวจใหญ่คดีเพชรซาอุ ฆ่าแม่ลูก 2 ศพ โปรดดู http://goo.gl/N91FnU
{17} งบประมาณแผ่นดินไทย ปี 2557 www.bb.go.th/FILEROOM/CABBBIWEBFORM/DRAWER29/GENERAL/DATA0000/00000172.PDF
{18} โปรดอ่าน 'คนรวยเสียภาษีน้อยกว่าคนจน' www.area.co.th/thai/area_announce/area_anpg.php?strquey=area_announcement626.htm
ที่มาของรูป http://jamaateislamihind.org/eng/wp-content/uploads/2013/01/anti-rape-law.jpg