พยายามรวบรวมหนังเชิงจิตวิทยาและเชิงจิตเวช ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรู้ของนักศึกษาในวิชาจิตเวชได้
และก็
ความชอบส่วนตัว
(ไม่ได้เรียงช่วงปีที่ฉายนะครับ )
เรื่องที่ชอบมาก
1. ออกแนวทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ของฟรอยส์ ดูแล้วคิดถึงสิ่งที่เรียนมากเลย ชอบมากก แอบคิดจินตนาการไว้ว่าถ้าเกิดทำได้จริงๆ คงรักษาผู้ป่วยจิตเวชได้เยอะเลย
" เรื่องราวของคอบบ์ หัวขโมยมืออาชีพ สุดยอดฝีมือด้านการดึงข้อมูลที่สามารถฉกชิงความลับล้ำค่าจากจิตใต้สำนึกเบื้องลึกระหว่างสภาวะความฝัน ความสามารถที่หายากทำให้เขาไม่ได้รับความไว้วางใจ จนถูกไล่ล่า กลายเป็นผู้หลบหนีที่ต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขารักไป แต่แล้วเขาก็ได้โอกาสที่จะแก้แค้น ผ่านงานสุดท้ายที่จะคืนชีวิตให้กับเขา เพียงแต่เขาจะต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ ซึ่งคราวนี้จะไม่ใช่การขโมยความคิดเหมือนอย่างเคย แต่จะเป็นการปลูกฝังความคิดเข้าไปแทน"
Credit :
http://movie.kapook.com/view71110.html
สลับกับหนังไทยกันบ้างดีกว่า ที่คิดออกตอนนี้ก็หนัง เขย่าขวัญกันหน่อย เรื่องนี้ถ้าเรามองข้าม เรื่องของกราฟฟิกค์ไป ดูเนื้อหา และวิธีการเรียบเรียง ว้าวคนไทยเก่งจัง
2. บอดี้ศพ 19 เป็นหนังที่สื่อถึงการมี อาการหลงผิด ประสาทหลอน พวกของบุคลิกภาพ (ไม่ใช้ศัพท์เทคนิคนะจะได้เข้าใจง่ายๆ)
มีเจ้าของ bloggang เค้าได้อธิบายไว้ให้เข้าใจอย่างง่าย (ดูจากการวิเคราะห์ ป่านนี้เจ้าของกระทู้คงเป็นอาจารย์ไปแล้วตอนนี้ คงเป็นจิตแพทย์^^ )
http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=05-10-2007&group=14&gblog=36
(เค้าคงเทพกว่าผมเยอะ มีบางมุมที่มีความเห็นต่างไปสักนิดหน่อยคิคิ อ้อ ปล. อย่าพึ่งอ่าน bloggang ก่อนดูหนังนะครับ)
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
หายไปสองวันงานยุ่งครับ
อะมาต่อ
3. ยังจำเรื่องนี้ได้ไหมครับ The Sixth sense ถ้ามองแบบคนดูทั่วไปแบบไทยๆ สมัยนั้นผมดูแบบเด็กๆที่กลัวหนังผีเหลือเกิน โดนพี่ชายแกล้งบ่อย และพี่ชายหรือเด็กรุ่นพี่จะชอบบอกเสมอว่า เมื่อเราตายไปเราจะไม่รู้ตัวในช่วงแรกๆ ถึงบางอ้อว่า ฝรั่งมีวัฒนธรรมคล้ายกันกับบ้านเรา
แต่....ถ้าเรื่องนี้มองแบบจิตวิทยา ก็มีส่วนนะผมว่า เพราะว่า พระเอกจะใช้ชีวิตปกติ จนจะจบเรื่องถึงเฉลยว่าพระเอกตายไปนานแล้ว หนังทำดีมาก จากตัวบทละครทั้งเด็กน้อยก็แสดงอารมณ์ สื่อสารได้ดีมากๆ ลองไปหาดูนะครับ เหมือนตัวละครทั้งสองกำลังบำบัดกันไปมา ว่าแล้วต้องกลับไปดูอีกรอบ คงจะคนละความคิด กะตอนนั้น
4. Shutter Island
ใครยังไม่ได้ดู รีบหาดูเลยครับ ว่ากันด้วยหนังจิตวิทยาสมัยใหม่ จะสร้างขึ้นโดยทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่สามารถคล้อยตามได้ง่าย สามารถเข้าใจเนื้อหา และบทสรุปในตอนท้าย ไม่ค่อยซับซ้อน เรื่องนี้สามารถใช้เป็นประสบการณ์สอนนศ. ต่อได้เลย เพราะมีอาการของ Delusion, lllusion, hallucination เอาเป็นว่า หลงผิด ประสาทหลอน ประมาณนั้นอะครับ ^^ ลองดูไปด้วยจดไปด้วยสิครับ ว่ามันมีอาการอะไรบ้างแล้วมาคุยกันนะ
"ในปี 1954 ที่สงครามเย็นยังคงคุกรุ่น ตำรวจศาล เท็ดดี้ แดเนียลส์ และคู่หูใหม่ของเขา ชัค โอล ได้ถูกเรียกตัวไปยังเกาะชัตเตอร์ เพื่อสืบสวนการหายตัวไปจากห้องขังอย่างลึกลับของฆาตกรผู้ชาญฉลาด ภายในโรงพยาบาลแอชคลิฟฟ์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ท่ามกลางจิตแพทย์และคนไข้โรคจิตบนเกาะที่ห่างไกลผู้คน พวกเขาได้เจอกับบรรยากาศแปลกประหลาดที่ผันแปรเสมอ บ่งบอกให้พวกเขารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดเป็นอย่างที่เห็น และเขาก็รู้ตัวว่า บางทีเขาอาจไม่มีชีวิตรอดกลับออกไปจากเกาะแห่งนี้ก็เป็นได้
5. A Beautiful Mind
เป็นหนังที่น่าดูมากๆ ครับ อยากให้เพื่อนๆที่กลัวคนไข้จิตเวช (ในเรื่องเป็นผู้ป่วยจิตเภท) อย่ากลัวเขาเหล่านั้นนะครับ แต่ให้มองกลับกันว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลกเลย ถ้าคุณได้ชมเรื่องนี้คุณจะเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความเห็นอกเห็นใจ เปลี่ยนเป็นความเข้าใจผู้ป่วยจิตเภทมากขึ้น ปล เวลาเตรียมชุมชนเพื่อให้ดูแลผู้ป่วยเวลากลับเข้าไปใช้ชีวิตในชุมชน น่าจะเอาเรื่องนี้ให้ดูเนอะ
รวมหนังเชิงจิตวิทยาและจิตเวช
และก็ความชอบส่วนตัว
(ไม่ได้เรียงช่วงปีที่ฉายนะครับ )
เรื่องที่ชอบมาก
1. ออกแนวทฤษฎีจิตวิเคราะห์ ของฟรอยส์ ดูแล้วคิดถึงสิ่งที่เรียนมากเลย ชอบมากก แอบคิดจินตนาการไว้ว่าถ้าเกิดทำได้จริงๆ คงรักษาผู้ป่วยจิตเวชได้เยอะเลย
" เรื่องราวของคอบบ์ หัวขโมยมืออาชีพ สุดยอดฝีมือด้านการดึงข้อมูลที่สามารถฉกชิงความลับล้ำค่าจากจิตใต้สำนึกเบื้องลึกระหว่างสภาวะความฝัน ความสามารถที่หายากทำให้เขาไม่ได้รับความไว้วางใจ จนถูกไล่ล่า กลายเป็นผู้หลบหนีที่ต้องสูญเสียทุกอย่างที่เขารักไป แต่แล้วเขาก็ได้โอกาสที่จะแก้แค้น ผ่านงานสุดท้ายที่จะคืนชีวิตให้กับเขา เพียงแต่เขาจะต้องทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้สำเร็จ ซึ่งคราวนี้จะไม่ใช่การขโมยความคิดเหมือนอย่างเคย แต่จะเป็นการปลูกฝังความคิดเข้าไปแทน"
Credit :http://movie.kapook.com/view71110.html
สลับกับหนังไทยกันบ้างดีกว่า ที่คิดออกตอนนี้ก็หนัง เขย่าขวัญกันหน่อย เรื่องนี้ถ้าเรามองข้าม เรื่องของกราฟฟิกค์ไป ดูเนื้อหา และวิธีการเรียบเรียง ว้าวคนไทยเก่งจัง
2. บอดี้ศพ 19 เป็นหนังที่สื่อถึงการมี อาการหลงผิด ประสาทหลอน พวกของบุคลิกภาพ (ไม่ใช้ศัพท์เทคนิคนะจะได้เข้าใจง่ายๆ)
มีเจ้าของ bloggang เค้าได้อธิบายไว้ให้เข้าใจอย่างง่าย (ดูจากการวิเคราะห์ ป่านนี้เจ้าของกระทู้คงเป็นอาจารย์ไปแล้วตอนนี้ คงเป็นจิตแพทย์^^ ) http://www.bloggang.com/mainblog.php?id=aorta&month=05-10-2007&group=14&gblog=36
(เค้าคงเทพกว่าผมเยอะ มีบางมุมที่มีความเห็นต่างไปสักนิดหน่อยคิคิ อ้อ ปล. อย่าพึ่งอ่าน bloggang ก่อนดูหนังนะครับ)
เดี๋ยวมาต่อนะครับ
หายไปสองวันงานยุ่งครับ
อะมาต่อ
3. ยังจำเรื่องนี้ได้ไหมครับ The Sixth sense ถ้ามองแบบคนดูทั่วไปแบบไทยๆ สมัยนั้นผมดูแบบเด็กๆที่กลัวหนังผีเหลือเกิน โดนพี่ชายแกล้งบ่อย และพี่ชายหรือเด็กรุ่นพี่จะชอบบอกเสมอว่า เมื่อเราตายไปเราจะไม่รู้ตัวในช่วงแรกๆ ถึงบางอ้อว่า ฝรั่งมีวัฒนธรรมคล้ายกันกับบ้านเรา
แต่....ถ้าเรื่องนี้มองแบบจิตวิทยา ก็มีส่วนนะผมว่า เพราะว่า พระเอกจะใช้ชีวิตปกติ จนจะจบเรื่องถึงเฉลยว่าพระเอกตายไปนานแล้ว หนังทำดีมาก จากตัวบทละครทั้งเด็กน้อยก็แสดงอารมณ์ สื่อสารได้ดีมากๆ ลองไปหาดูนะครับ เหมือนตัวละครทั้งสองกำลังบำบัดกันไปมา ว่าแล้วต้องกลับไปดูอีกรอบ คงจะคนละความคิด กะตอนนั้น
4. Shutter Island
ใครยังไม่ได้ดู รีบหาดูเลยครับ ว่ากันด้วยหนังจิตวิทยาสมัยใหม่ จะสร้างขึ้นโดยทำให้ผู้ชมส่วนใหญ่สามารถคล้อยตามได้ง่าย สามารถเข้าใจเนื้อหา และบทสรุปในตอนท้าย ไม่ค่อยซับซ้อน เรื่องนี้สามารถใช้เป็นประสบการณ์สอนนศ. ต่อได้เลย เพราะมีอาการของ Delusion, lllusion, hallucination เอาเป็นว่า หลงผิด ประสาทหลอน ประมาณนั้นอะครับ ^^ ลองดูไปด้วยจดไปด้วยสิครับ ว่ามันมีอาการอะไรบ้างแล้วมาคุยกันนะ
"ในปี 1954 ที่สงครามเย็นยังคงคุกรุ่น ตำรวจศาล เท็ดดี้ แดเนียลส์ และคู่หูใหม่ของเขา ชัค โอล ได้ถูกเรียกตัวไปยังเกาะชัตเตอร์ เพื่อสืบสวนการหายตัวไปจากห้องขังอย่างลึกลับของฆาตกรผู้ชาญฉลาด ภายในโรงพยาบาลแอชคลิฟฟ์ ที่มีการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด ท่ามกลางจิตแพทย์และคนไข้โรคจิตบนเกาะที่ห่างไกลผู้คน พวกเขาได้เจอกับบรรยากาศแปลกประหลาดที่ผันแปรเสมอ บ่งบอกให้พวกเขารู้ว่า ไม่มีสิ่งใดเป็นอย่างที่เห็น และเขาก็รู้ตัวว่า บางทีเขาอาจไม่มีชีวิตรอดกลับออกไปจากเกาะแห่งนี้ก็เป็นได้
5. A Beautiful Mind
เป็นหนังที่น่าดูมากๆ ครับ อยากให้เพื่อนๆที่กลัวคนไข้จิตเวช (ในเรื่องเป็นผู้ป่วยจิตเภท) อย่ากลัวเขาเหล่านั้นนะครับ แต่ให้มองกลับกันว่าเขาเป็นคนที่น่าสงสารที่สุดในโลกเลย ถ้าคุณได้ชมเรื่องนี้คุณจะเปลี่ยนจากความกลัวเป็นความเห็นอกเห็นใจ เปลี่ยนเป็นความเข้าใจผู้ป่วยจิตเภทมากขึ้น ปล เวลาเตรียมชุมชนเพื่อให้ดูแลผู้ป่วยเวลากลับเข้าไปใช้ชีวิตในชุมชน น่าจะเอาเรื่องนี้ให้ดูเนอะ