สวัสดีค่ะ วันนี้มีร้านรถเข็นขนมครกราคาถูกมาให้ได้ลองไปชิมกันค่ะ
แต่ขอเล่าประวัติแกซักหน่อยนะคะพอดีไปถามแกมาได้ข้อมูลมาแล้วเลยอยากปล่อย เราพักอยู่แถวนั้น แทบจะรู้จักแม่ค้าทุกคนแล้วค่ะ
เอาเป็นว่าได้ไปนั่งคุยกับคุณป้าซึ่งป้าแกเหมือนจะเป็นคนขี้อายเวลาเราไปถามถึงเรื่องราวที่มาของขนมครกของแก ถามคำตอบสั้นๆ ไม่ค่อยยาว ดูเครียดเบาๆ เหมือนเขิน แต่ป้าแกเป็นคนยิ้มแย้มค่ะ พูดเพราะ เป็นกันเอง คำที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ จ้าาา.... ขนมครกมั้ยจ๊ะ ....จ้า
ป้าแกชื่อป้าตู่ค่ะ แกไม่ยอมบอกอายุแกตรงๆ ค่ะ บอกแต่ว่า60 กว่าปีแล้ว ขายขนมครกมาเกิน 30กว่าปีแล้วค่ะ จนส่งลูกเรียนจบมหาลัย แกบอกจะขายจนขยับไม่ได้ล่ะค่ะ ทำจนชิน อยู่เฉยๆ ก็เบื่อ ไม่อยากรบกวนเงินลูกๆ ด้วย ถ้าลูกขาดเหลือก็จะได้มีเงินให้มันยืม แกบอกมาแบบนี้อ่ะคะ ตอนนี้สามีของแกก็เกษียณงานโรงงานไม่มีงานทำก็มาช่วยแกขายด้วยค่ะ ช่วยตั้งร้านเก็บร้าน ช่วงไหนคนเยอะๆ ก็จะช่วยกันแคะขนมครก ถ้าคนไม่เยอะแกก็จะไล่ลุงไปทำงานบ้านค่ะ (น่ารักจัง)
ถามถึงสูตรแกก็ไม่ยอมบอกค่ะ บอกกว่าจะได้มาก็ปรับสูตรตั้งนาน มีคนเคยมาซื้อสูตรขอเรียน สี่ห้าหมื่นก็ไม่ยอมขาย แกบอกว่ามาอยู่ กทม เพื่อหางานส่งเงินไปทางบ้าน แกเป็นพี่สาวคนโต มีน้องๆ อีก 8 ต้องส่งเงินไปให้ทางบ้านช่วงส่งให้พวกน้องๆ เรียน ให้สูง สรุป พี่น้องแกได้เป็นครูไป 7 คนค่ะ แกบอกว่าถ้าขาดเหลืออะไรก็จะมีน้องๆ คอยช่วยเหลือตลอด น้องๆ บอกแกว่าไม่ลืมบุญคุณที่แกขายขนมครกส่งเรียนค่ะ ตอนแรกก็เป็นแค่คนใช้เค้า บ้านที่ไปอยู่เหมือนจะเป็นคนในวังเก่า ต่อมาก็มาเป็นลูกน้องช่วยเค้าทำขนมไทย สูตรชาววัง แต่ที่แกสนใจคือขนมครกเพราะขายแต่ขนมครกก็ได้มีรถเข็นอันเดียวจบไม่ต้องลำบากทำขนมหลายตัว แกคอยดูวิธีการทำของเค้าเรื่อยๆ ค่ะ แล้วก็จำสูตร มาลองทำเอง หลายครั้ง แรกๆ ก็ไม่ค่อยโอเค แกบอกแกปรับไปเรื่อยๆ จนได้สูตรของตัวเอง แล้วก็ขายได้จนถึงทุกวันนี้แหละค่ะ
จุดเด่นของขนมครกเจ้านี้นะคะ
1. จะหยอดเป็นหลุมๆ ค่ะ จะไม่เทรวดเดียวเป็นแพร แล้วค่อยๆ ตักออกมาทีล่ะหลุม แกบอกว่าทำแบบนี้มันจะอร่อยกว่า และก็ได้ขนาดพอดีคำ ไม่ใหญ่เกินไป หลุมก็ต้องเป็นหลุมเล็กด้วยแบบสมัยก่อนไม่ใช่สมัยนี้ที่หลุมใหญ่ แบบนั้นรสชาติมันจะแปลกๆ หยอดเป็นแพรแล้วเอามาตัดขอบ
2. อร่อยรสชาติพอดีทุกคำ ต้นตำรับแท้ๆ ถ้ากินร้อนๆ ใหม่ๆ จากเตานะคะ จะรับรู้ได้ถึงความกรอบนอกนุ่มในแต่ข้างในจะร้อนมากๆ คือแนะนำให้กินนุ่มๆ อุ่นๆ ดีกว่าค่ะ
3. เก็บได้นาน ซื้อเช้ากินเย็นได้เลยค่ะ รึจะซื้อเย็นกินเช้าก็ได้ เอาทิ้งไว้ข้างนอกได้สบายค่ะ พอดีทิ้งไว้ห้องแอร์กับวันที่อากาศไม่ร้อนมาก ไม่แน่ใจว่าถ้าอากาศร้อนมากๆ ก็คงจะไม่เหลือ
4. ของแกใหม่สดทุกวันค่ะเพราะ ขายหมดทุกวัน ต้องทำแป้งเคี่ยวกะทิใหม่ทุกวันทั้งเช้าเย็น วันไหนขายไม่หมดแกบอกถ้าไม่มีคนเอาก็เททิ้ง ไม่ก็ไปแจก คนงาน ลูกแม่ค้าในชุมชน แต่ก็ไม่ค่อยได้เททิ้ง
5. ราคาถูก แบบว่า 1กล่อง 10 บาทเท่านั้นเอง ใครอยากลองชิม 5 บาทแกก็ขายนะคะ แต่ถ้าไปเย็นๆ ช่วงที่แกกำลังจะเก็บของกลับบ้านแกก็อาจจะแถมให้ค่ะ
แกขายทุกวันตอนเช้า ข้างโลตัสพระราม 1 ตลาดตอนเช้า กับตอนเย็นจะเริ่มขายตั้งแต่บ่าย 2 หน้าซอยชุมชนครัวใต้ ถนนบรรทัดทอง ตรงข้ามข้างหลังโลตัสพระราม 1 วันจันทร์บางทีก็ไม่ขายนะคะ ปกติเทศกิจจะห้ามขายวันจันทร์ ถ้าผ่านไปลองแวะไปชิมกันนะคะ
ขนมครกชาววัง สูตรต้นตำรับ ราคาถูก กลางเมือง กทม
แต่ขอเล่าประวัติแกซักหน่อยนะคะพอดีไปถามแกมาได้ข้อมูลมาแล้วเลยอยากปล่อย เราพักอยู่แถวนั้น แทบจะรู้จักแม่ค้าทุกคนแล้วค่ะ
เอาเป็นว่าได้ไปนั่งคุยกับคุณป้าซึ่งป้าแกเหมือนจะเป็นคนขี้อายเวลาเราไปถามถึงเรื่องราวที่มาของขนมครกของแก ถามคำตอบสั้นๆ ไม่ค่อยยาว ดูเครียดเบาๆ เหมือนเขิน แต่ป้าแกเป็นคนยิ้มแย้มค่ะ พูดเพราะ เป็นกันเอง คำที่เราได้ยินบ่อยๆ คือ จ้าาา.... ขนมครกมั้ยจ๊ะ ....จ้า
ป้าแกชื่อป้าตู่ค่ะ แกไม่ยอมบอกอายุแกตรงๆ ค่ะ บอกแต่ว่า60 กว่าปีแล้ว ขายขนมครกมาเกิน 30กว่าปีแล้วค่ะ จนส่งลูกเรียนจบมหาลัย แกบอกจะขายจนขยับไม่ได้ล่ะค่ะ ทำจนชิน อยู่เฉยๆ ก็เบื่อ ไม่อยากรบกวนเงินลูกๆ ด้วย ถ้าลูกขาดเหลือก็จะได้มีเงินให้มันยืม แกบอกมาแบบนี้อ่ะคะ ตอนนี้สามีของแกก็เกษียณงานโรงงานไม่มีงานทำก็มาช่วยแกขายด้วยค่ะ ช่วยตั้งร้านเก็บร้าน ช่วงไหนคนเยอะๆ ก็จะช่วยกันแคะขนมครก ถ้าคนไม่เยอะแกก็จะไล่ลุงไปทำงานบ้านค่ะ (น่ารักจัง)
ถามถึงสูตรแกก็ไม่ยอมบอกค่ะ บอกกว่าจะได้มาก็ปรับสูตรตั้งนาน มีคนเคยมาซื้อสูตรขอเรียน สี่ห้าหมื่นก็ไม่ยอมขาย แกบอกว่ามาอยู่ กทม เพื่อหางานส่งเงินไปทางบ้าน แกเป็นพี่สาวคนโต มีน้องๆ อีก 8 ต้องส่งเงินไปให้ทางบ้านช่วงส่งให้พวกน้องๆ เรียน ให้สูง สรุป พี่น้องแกได้เป็นครูไป 7 คนค่ะ แกบอกว่าถ้าขาดเหลืออะไรก็จะมีน้องๆ คอยช่วยเหลือตลอด น้องๆ บอกแกว่าไม่ลืมบุญคุณที่แกขายขนมครกส่งเรียนค่ะ ตอนแรกก็เป็นแค่คนใช้เค้า บ้านที่ไปอยู่เหมือนจะเป็นคนในวังเก่า ต่อมาก็มาเป็นลูกน้องช่วยเค้าทำขนมไทย สูตรชาววัง แต่ที่แกสนใจคือขนมครกเพราะขายแต่ขนมครกก็ได้มีรถเข็นอันเดียวจบไม่ต้องลำบากทำขนมหลายตัว แกคอยดูวิธีการทำของเค้าเรื่อยๆ ค่ะ แล้วก็จำสูตร มาลองทำเอง หลายครั้ง แรกๆ ก็ไม่ค่อยโอเค แกบอกแกปรับไปเรื่อยๆ จนได้สูตรของตัวเอง แล้วก็ขายได้จนถึงทุกวันนี้แหละค่ะ
จุดเด่นของขนมครกเจ้านี้นะคะ
1. จะหยอดเป็นหลุมๆ ค่ะ จะไม่เทรวดเดียวเป็นแพร แล้วค่อยๆ ตักออกมาทีล่ะหลุม แกบอกว่าทำแบบนี้มันจะอร่อยกว่า และก็ได้ขนาดพอดีคำ ไม่ใหญ่เกินไป หลุมก็ต้องเป็นหลุมเล็กด้วยแบบสมัยก่อนไม่ใช่สมัยนี้ที่หลุมใหญ่ แบบนั้นรสชาติมันจะแปลกๆ หยอดเป็นแพรแล้วเอามาตัดขอบ
2. อร่อยรสชาติพอดีทุกคำ ต้นตำรับแท้ๆ ถ้ากินร้อนๆ ใหม่ๆ จากเตานะคะ จะรับรู้ได้ถึงความกรอบนอกนุ่มในแต่ข้างในจะร้อนมากๆ คือแนะนำให้กินนุ่มๆ อุ่นๆ ดีกว่าค่ะ
3. เก็บได้นาน ซื้อเช้ากินเย็นได้เลยค่ะ รึจะซื้อเย็นกินเช้าก็ได้ เอาทิ้งไว้ข้างนอกได้สบายค่ะ พอดีทิ้งไว้ห้องแอร์กับวันที่อากาศไม่ร้อนมาก ไม่แน่ใจว่าถ้าอากาศร้อนมากๆ ก็คงจะไม่เหลือ
4. ของแกใหม่สดทุกวันค่ะเพราะ ขายหมดทุกวัน ต้องทำแป้งเคี่ยวกะทิใหม่ทุกวันทั้งเช้าเย็น วันไหนขายไม่หมดแกบอกถ้าไม่มีคนเอาก็เททิ้ง ไม่ก็ไปแจก คนงาน ลูกแม่ค้าในชุมชน แต่ก็ไม่ค่อยได้เททิ้ง
5. ราคาถูก แบบว่า 1กล่อง 10 บาทเท่านั้นเอง ใครอยากลองชิม 5 บาทแกก็ขายนะคะ แต่ถ้าไปเย็นๆ ช่วงที่แกกำลังจะเก็บของกลับบ้านแกก็อาจจะแถมให้ค่ะ
แกขายทุกวันตอนเช้า ข้างโลตัสพระราม 1 ตลาดตอนเช้า กับตอนเย็นจะเริ่มขายตั้งแต่บ่าย 2 หน้าซอยชุมชนครัวใต้ ถนนบรรทัดทอง ตรงข้ามข้างหลังโลตัสพระราม 1 วันจันทร์บางทีก็ไม่ขายนะคะ ปกติเทศกิจจะห้ามขายวันจันทร์ ถ้าผ่านไปลองแวะไปชิมกันนะคะ