รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งย้ายตำรวจสืบสวนนครบาลบางชัน 3 นาย ที่ล้อมและยิงรถนิสิตสาวปี 4จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถต้องสงสัยในคดียาเสพติด พร้อมชดใช้รถคันใหม่รุ่นเดิมให้กับผู้เสียหาย นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณซอยรามคำแหง 118 แยก 33-8 ที่สามารถบันทึกภาพขณะรถซูซูกิ สวิฟท์ สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กฆ 1993 กรุงเทพมหานคร ของนางสาวอภีษฎา สัจพันโรจน์ นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขับถอยหลังอย่างเร็ว จนมาชนกับรถอีกคัน เพื่อหลบหนีรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เงินของตำรวจสืบสวน สน.บางชัน ที่ขับถอยหลังตามมา เพื่อหยุดรถ
เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นรถต้องสงสัยคดียา เสพติด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจคู่กรณีทั้ง 3 นายคือ ร้อยตำรวจตรีสุพจน์ โทเกษ รองสารวัตรสืบ สวน สน.บางชัน ดาบตำรวจรัศมี เทพทา และดาบตำรวจจำเนียร ขันแดง ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนสอบสวน สน.บางชัน ได้ลงตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดคุย และแสดงความรับผิดชอบ พร้อมตรวจดูความเสีย หายของรถ พบว่าท้ายรถมีรอยถูกชน กระจกหลัง แตก ยางล้อหน้าและยางล้อหลังแตกทั้ง 3 เส้น
พลตำรวจเอกพงศพัศ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบกพร่องของตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ที่ไม่ได้ติด ตามรถต้องสงสัยมาตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ไม่รู้ว่ารถของผู้เสียหายขับออกมาจากบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้กับชุมชนเกาะดอนที่เป็นเป้าหมาย และจะต้องติดตามรถต้องสงสัยไปจนถึงปลายทาง เพื่อแน่ใจว่าผู้ขับเป็นผู้ต้องสงสัยจริง ซึ่งการใช้อาวุธหยุดรถในที่สาธารณะโดยไม่มีการยิงตอบโต้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอาจกระทบกับผู้บริสุทธิ์ได้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจะซื้อรถคันใหม่รุ่นเดิมให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งรถอีก 2 คันที่ถูกเฉี่ยวชน
ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า พอใจกับการแสดงความรับผิด ชอบของตำรวจ ส่วนสภาพจิตใจคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะวันเกิดเหตุตกใจและกลัวมาก ที่จู่ๆ มีรถกระบะ 4 ประตู ขับแซงขึ้นมาจอดขวาง ก่อนที่ชาย 4 คนจะลงจากรถ มาเคาะกระจกอย่างแรง เรียกให้เปิดประตู แต่ไม่กล้าเพราะเห็นปืนและคิดว่าเป็นคนร้าย จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ และตัดสินใจถอยรถหนีจนเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น แต่ยังถูกขับไล่ตาม ใช้ปืนยิงใส่จนยางแตกไปต่อไม่ได้ โดยขอให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังมากกว่านี้ เบื้องต้น มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กับตำรวจทั้ง 3 นาย พร้อมทั้งย้ายออกจากพื้นที่และให้หยุดปฏิบัติงานด้านสืบสวน โดยให้ไปปฏิบัติงานที่ สน.ประเวศ สน.อุดมสุข และสน.หัวหมาก ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ซึ่งเป็นส่วนงานที่ไม่เกี่ยว ข้องกับการใช้อาวุธปืน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://news.bugaboo.tv/watch/135555/
วงจรปิด ตำรวจยิงรถนิสิตจุฬาฯ เข้าใจผิดว่าเป็นรถผู้ต้องสงสัย
รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งย้ายตำรวจสืบสวนนครบาลบางชัน 3 นาย ที่ล้อมและยิงรถนิสิตสาวปี 4จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพราะเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรถต้องสงสัยในคดียาเสพติด พร้อมชดใช้รถคันใหม่รุ่นเดิมให้กับผู้เสียหาย นี่เป็นภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณซอยรามคำแหง 118 แยก 33-8 ที่สามารถบันทึกภาพขณะรถซูซูกิ สวิฟท์ สีเทา-ดำ หมายเลขทะเบียน 1กฆ 1993 กรุงเทพมหานคร ของนางสาวอภีษฎา สัจพันโรจน์ นิสิตชั้นปีที่ 4 คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ที่ขับถอยหลังอย่างเร็ว จนมาชนกับรถอีกคัน เพื่อหลบหนีรถกระบะ 4 ประตู สีบรอนซ์เงินของตำรวจสืบสวน สน.บางชัน ที่ขับถอยหลังตามมา เพื่อหยุดรถ
เพราะเข้าใจผิดว่าเป็นรถต้องสงสัยคดียา เสพติด เมื่อวันที่ 2 สิงหาคมที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ พลตำรวจเอกพงศพัศ พงษ์เจริญ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมตำรวจคู่กรณีทั้ง 3 นายคือ ร้อยตำรวจตรีสุพจน์ โทเกษ รองสารวัตรสืบ สวน สน.บางชัน ดาบตำรวจรัศมี เทพทา และดาบตำรวจจำเนียร ขันแดง ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนสอบสวน สน.บางชัน ได้ลงตรวจพื้นที่จุดเกิดเหตุอีกครั้ง ก่อนเดินทางไปที่บ้านของผู้เสียหายเพื่อพูดคุย และแสดงความรับผิดชอบ พร้อมตรวจดูความเสีย หายของรถ พบว่าท้ายรถมีรอยถูกชน กระจกหลัง แตก ยางล้อหน้าและยางล้อหลังแตกทั้ง 3 เส้น
พลตำรวจเอกพงศพัศ กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นความบกพร่องของตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ ที่ไม่ได้ติด ตามรถต้องสงสัยมาตั้งแต่ต้นทาง ทำให้ไม่รู้ว่ารถของผู้เสียหายขับออกมาจากบ้าน ซึ่งอยู่ใกล้กับชุมชนเกาะดอนที่เป็นเป้าหมาย และจะต้องติดตามรถต้องสงสัยไปจนถึงปลายทาง เพื่อแน่ใจว่าผู้ขับเป็นผู้ต้องสงสัยจริง ซึ่งการใช้อาวุธหยุดรถในที่สาธารณะโดยไม่มีการยิงตอบโต้นั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ เพราะอาจกระทบกับผู้บริสุทธิ์ได้ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้น โดยจะซื้อรถคันใหม่รุ่นเดิมให้กับผู้เสียหาย รวมทั้งรถอีก 2 คันที่ถูกเฉี่ยวชน
ด้านผู้เสียหาย กล่าวว่า พอใจกับการแสดงความรับผิด ชอบของตำรวจ ส่วนสภาพจิตใจคงต้องใช้เวลาอีกสักระยะ เพราะวันเกิดเหตุตกใจและกลัวมาก ที่จู่ๆ มีรถกระบะ 4 ประตู ขับแซงขึ้นมาจอดขวาง ก่อนที่ชาย 4 คนจะลงจากรถ มาเคาะกระจกอย่างแรง เรียกให้เปิดประตู แต่ไม่กล้าเพราะเห็นปืนและคิดว่าเป็นคนร้าย จึงโทรศัพท์ไปบอกแม่ และตัดสินใจถอยรถหนีจนเฉี่ยวชนกับรถคันอื่น แต่ยังถูกขับไล่ตาม ใช้ปืนยิงใส่จนยางแตกไปต่อไม่ได้ โดยขอให้ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวังมากกว่านี้ เบื้องต้น มีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กับตำรวจทั้ง 3 นาย พร้อมทั้งย้ายออกจากพื้นที่และให้หยุดปฏิบัติงานด้านสืบสวน โดยให้ไปปฏิบัติงานที่ สน.ประเวศ สน.อุดมสุข และสน.หัวหมาก ในตำแหน่งเจ้าหน้าที่ธุรการ ซึ่งเป็นส่วนงานที่ไม่เกี่ยว ข้องกับการใช้อาวุธปืน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้