เราควรกลับไปอยู่ที่บ้านพี่สาวไหม?

เรามีพี่สาวคนละแม่อยู่คนหนึ่งอายุห่างกัน 10 ปีได้ เราไม่ได้โตมาด้วยกัน แต่พี่เขาก็ยังมาหาเราบ่อยๆ ทุกครั้งที่มาก็จะมีของฝากและมาเล่นกับเรา เราเลยรักพี่สาวคนนี้มากๆ แม้จะคนละแม่กันแต่พี่สาวเราก็เคารพแม่เราเหมือนแม่แท้ๆ (แม่เรามาทีหลัง แต่ตอนนั้นพ่อเราเลิกกับแม่ใหญ่แล้ว) พอเราเรียนจบ ก็มาหางานที่ระยองเพราะโรงงานนิคมเยอะ แต่พี่สาวเราแต่งงานแล้วนะ มีลูก 2 คน ซื้อบ้านจัดสรรอยู่ ซึ่งพื้นที่มันค่อนข้างแคบ สรุปในบ้านมีพี่เขย พี่สาว ลูก 2 คน น้องชายของพี่เขย พี่เลี้ยง และเรา (รวม 7 ชีวิต) แต่มีอยู่ 3 ห้องนอน พี่สาวกับพี่เขย 1 ห้อง ลูกพี่สาวกับพี่เลี้ยง 1 ห้อง เรานอนคนเดียวในห้องเก็บของที่จัดพอนอนได้ 1 ห้อง ส่วนน้องของพี่เขยนอนโซฟาห้องรับแขก

          เราเป็นคนอยู่ง่าย กินง่าย อยู่ที่ไหนก็ได้ แม้ว่าที่เรานอนจะแคบมากๆ เพราะเป็นห้องเก็บของเก่าๆ ในบ้านและเป็นที่สต๊อกสินค้าที่พี่เขยขาย(พี่เขยทำงานจัดซื้อจัดหา ส่วนมากไม่ได้สต๊อกของแต่บางทีก็สั่งของมาสต๊อกเพื่อรอส่ง) เราจบบัญชี แรกเริ่มเดิมทีเราช่วยพี่สาวทำบัญชีที่บ้าน(พี่สาวเปิดสำนักงานบัญชีเล็กๆ) พร้อมกับหางานโรงงานไปด้วย การที่มีกิจการในบ้านทำให้เราต้องทำงานตลอดเวลา ตั้งแต่ตื่น 8 โมงจนหลับประมาณ 3-4ทุ่ม ทำงานจันทร์-อาทิตย์ พี่สาวให้เดือนละ 5,000 อยู่ฟรี กินฟรี ช่วยงานบ้านด้วย(เพราะเรามาอาศัยเขาอยู่)

          เรื่องงานบ้านเราทำได้ไม่มีปัญหา แต่พี่สาวเขาจ้างพี่เลี้ยงเด็กมา ควบตำแหน่งแม่บ้านด้วย เขาอยู่ฟรี กินฟรีเหมือนกัน ได้เดือนละ
12,000 อายุประมาณ 48 พี่สาวบอกให้เราช่วยเลี้ยงหลานและทำงานบ้านด้วย (สรุปเราต้องทำบัญชี งานบ้าน และเลี้ยงหลาน เรามาอยู่บ้านเขา โอเค ไม่มีปัญหา) แต่มีปัญหาตรงที่เราเลี้ยงเด็กไม่เป็น เราไม่มีน้อง และอายุ 23 เท่านั้น ไม่มีประสบการณ์เลี้ยงเด็ก เราเลยอาศัยทำงานบ้านเอา กวาด ถู ล้านจาน ตากผ้า (ส่วนมากพี่เลี้ยงจะปั่นเครื่องไว้ เราตากอย่างเดียว) และอย่างเดียวที่เราทำไม่ได้คือทำกับข้าว ยอมรับว่าห่วยสุดๆ ไม่กล้าทำให้ใครกิน พี่เลี้ยงเลยต้องทำ และหลานเราไม่ยอมอยู่กับเรา เขาติดพี่เลี้ยงมากๆ ภาพที่พี่สาวเห็นเลยเป็นว่าเราอยู่ๆ เฉยๆ ไม่ทำกับข้าว ปล่อยให้พี่เลี้ยงทำอาหารข้างหนึ่ง พร้อมอุ้มลูกของพี่ด้วยข้างหนึ่ง

          เราทำทุกอย่าง เราเหนื่อยมากๆ พี่ไม่เห็น เพราะพี่ทำงานโรงงานด้วย จะกลับมาก็ 5 โมงเย็น และจะเริ่มทำบัญชีตอน 2 ทุ่ม ณ ตอนนั้นเราทำมาทั้งวันแล้วและต้องมาทำพร้อมกับพี่ตอน 2 ทุ่มอีก เพราะเป็นช่วงเวลาเดียวที่พี่จะสอนเราทำได้ เพราะเรายังไม่มีประสบการณ์ เราก็อดทนเก็บประสบการณ์เอา และแล้วเราก็ถูกเรียกสัมภาษณ์จากโรงงานแห่งหนึ่ง เราสัมภาษณ์และไม่กี่วันเขาก็เรียกตัว ตอนแรกลังเลมาก แต่พอได้ยินพี่สาวพูดกับแม่เราว่าเราไม่ช่วยพี่เลี้ยงทำงานเลย เราก็เลยน้อยใจ ตัดสินใจไปอยู่หอ(เพราะโรงงานที่เราสัมภาษณ์ผ่านอยู่ไกล) การใช้ชีวิตคนเดียวเลยเริ่มขึ้น...

          พี่สาวเราก็ใจดีมาก เขาช่วยเราซื้อของใช้จำเป็นที่จะใช้ในหอพักให้ทุกอย่าง ออกเงินให้เราหมด หมดไปหลายพันเลยทีเดียว จากนั้นก็ช่วยเราขนของย้ายเข้าหอ เราชอบชีวิตสันโดดอยู่แล้วเลยง่ายๆ ชิลๆ โรงงานใหม่เราต้องตื่นตั้งแต่ตีห้า ขึ้นรถตี5:55 ถึงโรงงาน6:13กว่าจะกลับก็ทุ่มครึ่ง เป็นโอทีบังคับ และเราขึ้นรถรับส่งเลยต้องกลับช่วงเวลาดังกล่าว

          เราทำงานบัญชีได้ 2 อาทิตย์ พี่ที่สอนบัญชีเรา(ทั้งโรงงานมีบัญชีคนเดียว)เขาต้องการให้เราทำเป็นไวๆ ทั้งที่เราไม่มีประสบกรณ์ แค่ 2 อาทิตย์เขาก็ไม่อยากสอนเราแล้ว เลยคุยกับพี่ฝ่ายบุคคลว่าไม่ไหว (ทั้งที่เราก็ทำได้นะ เพียงแต่มีพลาดบ้าง ทั้งบันทึกซื้อ ขาย รับ จ่าย และเรคคอนไซน์ยอดเจ้าหนี้ ลูกหนี้) พี่ฝ่ายบุคคลเลยย้ายเราไปที่แอนาลิ่ง(เตาเผา) โรงงานเราผลิตท่อทองแดง โมเดลต่างๆ ต้องผ่านเตาเผาเพื่อขึ้นรูป เราได้ไปนับสต๊อกที่นั้น ทำได้อาทิตย์เดียวก็ถูกย้ายมาธุรการ มันเหนื่อยและท้อมากๆ แต่เรามาทำงานตรงนี้เราก็มีเงินส่งให้แม่เยอะขึ้น (ส่งเดือน 8,000 ตอนอยู่กับพี่สาว พี่ให้ 5,000 เราส่งให้แม่ 4,000 เก็บไว้ซื้อของให้ส่วนตัว 1,000)

          เราลังเลว่าควรจะกลับไปอยู่กับพี่ดีไหม เพราะเราทำธุรการไม่ได้เกี่ยวข้องกับบัญชีเลยแถมงานยังเหนื่อยมากๆเพราะเป็นงานจุกจิก  อาจจะยาวหน่อย ขอความเห็นหน่อยนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่