วันนี้เวลาประมาณห้าโมง ดิฉันได้ไปที่ซีเอ็ดโลตัสคลองสี่ กับลูกสาววัยแปดขวบ
ปกติทุกครั้งที่เข้าร้านหนังสือทุกที่ ดิฉันจะแจ้งกับพนักงานหน้าร้านทุกร้านทุกครั้งว่าเด็กคนนี้มากับเรานะ
เนื่องจากร้านหนังสือจะมีลักษณะเป็นซอกเป็นหลืบและลูกสาวมักจะเข้าร้านหนังสือเป็นประจำเพราะเธอเป็นลูกค้าตัวยง ชอบอ่านหนังสือมาก
(เข้าใจว่าตลาดหนังสือเด็กน่าจะเป็นตลาดใหญ่พอสมควรสังเกตจากชั้นหนังสือเด็กวัยเรียนจะกินพื้นที่ในร้านหนังสือมากที่สุด)
วันนี้ก็เช่นกัน ที่หน้าร้านระหว่างที่จะเดินเข้าไปในร้านเราได้หันไปบอกกับพนักงานที่ยืนรวมกลุ่มคุยกันอยู่ 6-7 คน ว่า..“น้องคะเด็กคนนี้มากับพี่นะคะ”
พนักงาน 1 : คะ?
ดิฉัน : พี่บอกไว้น่ะค่ะ ว่าเด็กคนนี้มากับพี่นะคะ เผื่อเกิดอะไรขึ้น เผื่อน้องเดินออกมากับใคร
พนักงาน 1 : บอกลูกพี่เถอะค่ะ
ดิฉัน : เค้าทราบค่ะ เค้าไม่ไปกับใครหรอก แต่พี่บอกไว้เฉยๆเผื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นจะได้รู้ไว้ว่าเค้ามากับพี่นะ
พนักงาน 2 : พวกหนูไม่ว่างหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกหนูก็ทำงานมองไม่เห็นหรอก
นี่คือบทสนทนาทั้งหมด ใช่ค่ะพนักงานไม่ได้ใช้คำไม่สุภาพ แต่พนักงานของซีเอ็ดมีหน้าที่ทำอะไรบ้างคะ
ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในร้านเหรอคะตลาดหนังสือเด็กใหญ่แค่ไหน ทางร้านคงทราบดี
ลักษณะร้านหนังสือ เป็นซอกหลืบซึ่งจะเลี่ยงก็ยาก หากการที่ลูกค้าเด็กๆตัวเล็กๆ เข้าไป แล้วพ่อแม่แจ้งไว้ให้ทราบ
เท่านั้นว่าเรามากันเท่านี้นะ ไม่มีคนอื่น หากพนักงานสนใจลูกค้า มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าคงไม่ใช่เรื่องยากเลย
ความจริงแล้วเป็นลักษณะพื้นฐานของพนักงานประจำร้านทุกร้านด้วยซ้ำที่จะต้องทราบว่าใครเข้าร้านมากับใครกันกี่คน
และการตอบลูกค้า “บอกลูกพี่เถอะค่ะ” การตอบลูกค้าอย่างนี้เป็นสิ่งที่แย่มากการที่ดิฉันแจ้ง เป็นเพียงแค่..
เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอย่างน้อยๆก็มีคนทราบว่าเรามากันแค่สองคนแม่ลูก การที่พนักงานย้อนตอบลูกค้าอย่างนี้แสดงว่า
พนักงานคุณมีความสามารถต่ำกว่าเด็กแปดขวบในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยภายในร้านใช่ไหม? พนักงานถึงเห็นว่า
การที่ดิฉันแจ้งลูกตัวเองจะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยกว่าการแจ้งผู้ใหญ่ที่ดูแลร้านอยู่และมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ เมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น.
ดิฉันต้องการให้ทางซีเอ็ดบุ๊ค ปรับปรุงทัศนคติของพนักงานในร้านซีเอ็ดบุ๊ค สาขาโลตัสคลองสี่ ให้ตระหนักถึงความสามารถที่ตนสามารถทำได้ และควรทำ เพื่อบริการดูแลลูกค้าให้ดีกว่านี้
ปล. ยืมล๊อกอินเค้ามาค่ะ
[CR] พนักงานแย่ๆที่ซีเอ็ดบุ๊ค สาขาโลตัสคลองสี่
ปกติทุกครั้งที่เข้าร้านหนังสือทุกที่ ดิฉันจะแจ้งกับพนักงานหน้าร้านทุกร้านทุกครั้งว่าเด็กคนนี้มากับเรานะ
เนื่องจากร้านหนังสือจะมีลักษณะเป็นซอกเป็นหลืบและลูกสาวมักจะเข้าร้านหนังสือเป็นประจำเพราะเธอเป็นลูกค้าตัวยง ชอบอ่านหนังสือมาก
(เข้าใจว่าตลาดหนังสือเด็กน่าจะเป็นตลาดใหญ่พอสมควรสังเกตจากชั้นหนังสือเด็กวัยเรียนจะกินพื้นที่ในร้านหนังสือมากที่สุด)
วันนี้ก็เช่นกัน ที่หน้าร้านระหว่างที่จะเดินเข้าไปในร้านเราได้หันไปบอกกับพนักงานที่ยืนรวมกลุ่มคุยกันอยู่ 6-7 คน ว่า..“น้องคะเด็กคนนี้มากับพี่นะคะ”
พนักงาน 1 : คะ?
ดิฉัน : พี่บอกไว้น่ะค่ะ ว่าเด็กคนนี้มากับพี่นะคะ เผื่อเกิดอะไรขึ้น เผื่อน้องเดินออกมากับใคร
พนักงาน 1 : บอกลูกพี่เถอะค่ะ
ดิฉัน : เค้าทราบค่ะ เค้าไม่ไปกับใครหรอก แต่พี่บอกไว้เฉยๆเผื่อเกิดเหตุอะไรขึ้นจะได้รู้ไว้ว่าเค้ามากับพี่นะ
พนักงาน 2 : พวกหนูไม่ว่างหรอกค่ะ เดี๋ยวพวกหนูก็ทำงานมองไม่เห็นหรอก
นี่คือบทสนทนาทั้งหมด ใช่ค่ะพนักงานไม่ได้ใช้คำไม่สุภาพ แต่พนักงานของซีเอ็ดมีหน้าที่ทำอะไรบ้างคะ
ไม่ได้มีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อยในร้านเหรอคะตลาดหนังสือเด็กใหญ่แค่ไหน ทางร้านคงทราบดี
ลักษณะร้านหนังสือ เป็นซอกหลืบซึ่งจะเลี่ยงก็ยาก หากการที่ลูกค้าเด็กๆตัวเล็กๆ เข้าไป แล้วพ่อแม่แจ้งไว้ให้ทราบ
เท่านั้นว่าเรามากันเท่านี้นะ ไม่มีคนอื่น หากพนักงานสนใจลูกค้า มีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าคงไม่ใช่เรื่องยากเลย
ความจริงแล้วเป็นลักษณะพื้นฐานของพนักงานประจำร้านทุกร้านด้วยซ้ำที่จะต้องทราบว่าใครเข้าร้านมากับใครกันกี่คน
และการตอบลูกค้า “บอกลูกพี่เถอะค่ะ” การตอบลูกค้าอย่างนี้เป็นสิ่งที่แย่มากการที่ดิฉันแจ้ง เป็นเพียงแค่..
เผื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้นอย่างน้อยๆก็มีคนทราบว่าเรามากันแค่สองคนแม่ลูก การที่พนักงานย้อนตอบลูกค้าอย่างนี้แสดงว่า
พนักงานคุณมีความสามารถต่ำกว่าเด็กแปดขวบในเรื่องของการดูแลความปลอดภัยภายในร้านใช่ไหม? พนักงานถึงเห็นว่า
การที่ดิฉันแจ้งลูกตัวเองจะเป็นสิ่งที่ปลอดภัยกว่าการแจ้งผู้ใหญ่ที่ดูแลร้านอยู่และมีหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ เมื่อลูกค้าต้องการความช่วยเหลือไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรขึ้น.
ดิฉันต้องการให้ทางซีเอ็ดบุ๊ค ปรับปรุงทัศนคติของพนักงานในร้านซีเอ็ดบุ๊ค สาขาโลตัสคลองสี่ ให้ตระหนักถึงความสามารถที่ตนสามารถทำได้ และควรทำ เพื่อบริการดูแลลูกค้าให้ดีกว่านี้
ปล. ยืมล๊อกอินเค้ามาค่ะ