แต่งงานมา 13ปี อยู่ต่างประเทศ .. ไปตกหลุมรัก ชายไทย

แฟนเป็นชาวยุโรป ..อยู่ด้วยกันมา นานมาก แล้ว เราแต่งงานตอนอายุ 21ปี ก็มาอยู่กับสามี สามีอายุห่างกว่า 11ปี
ตอนนั้นสามียังหนุ่ม เพิ่งจบปริญญาเอก หน้าที่การงานดี-ดีมาก.. อยู่ด้วยกันมาใช้ชีวิตคู่ แบบเพื่อน สามีเป็นหมัน มีลูกไม่ได้
เขามีปัญหาเรื่องไข่ผิดปกติ ตั้งแต่แรกเกิด ..ทำให้สามีมีลูกไม่ได้ .. ตอนนี้อยู่ด้วยกันมา 13ปีแล้ว..
4ปีแรก ที่แต่งงาน ไม่รู้ว่า สามีเป้นหมัน เราก็ทำหลอดแก้ว มีคว้านไข่หาอสุจิ 3ครั้ง ก็ไม่เกิดผล.. จนถึงขั้นต้องทำใจ.. สรุปสามี ไม่สามารถมีลูกได้ตลอดชีวิต.. น้ำเชื้อเขาไม่มี ไม่มีตัวเลยย..
...........
ชีวิตคู่ก็เรื่อยๆ เราเอาแต่ใจตัวเองมาก อยากได้อะไรต้องได้ สามีก็เป้นคนนิ่งๆ หนักแน่น ใจเย็น เขาจะยอมๆเราทุกอย่าง
กระเเป๋าแบรนด์ อะไรๆ เราอยากได้ เราต้องได้.. ท่องเที่ยวรอบยุโรป ปืนเขา นู้นนี้นั้นฯลฯ
เรากับสามี ทำกิจกรรมร่วมกันมา แบบลุยๆ ชีวิตคู่ เข้าใจแบบเพื่อน มาตลอด..

.. จนกระทั้งเมื่อ ปีที่แล้ว เรา อยากสร้างบ้านที่เมืองไทย.. ก่อนหน้านี้ 4-5ปี ที่แล้ว สามีก็อนุญาติให้เงินเราไปซื้อที่ดินแถวๆ ทะเล
ที่ดินเปล่า 3 แปลง ราคาก็มากโข .. ปีที่แล้ว เราอยาก ไปได้บ้านอยู่แถว บ้านเกิดเรา.. เรากับสามีก็ปรึกษากันว่าจะขายที่ดิน
เอาเงินไป สร้างบ้าน ซื้อที่ดิน ที่บ้านเกิดเรา .. เราก้ขายที่ดินไป 2แปลง.. ได้เงิน ได้กำไรมา ก็ไปซื้อที่ดิน และจะสร้างบ้านเอง..
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 6
รักสามีคุณให้ๆมากๆเถอะคับ
เค้าทำให้คุณทุกอย่าง ตามใจคุณ สารพัด
อย่าต้องให้เลิกลากันเพราะคนที่เจอกันแค่5เดือน
นึกถึงหน้าเค้าไว้ ตั้งสติ นึกถึงความทรงจำดีๆ
ที่เคยทำมาด้วยกัน ยิ้มยิ้มยิ้มยิ้ม
ความคิดเห็นที่ 36
ถ้าผู้ชายไทยมีธรรมมะอย่างที่คุณว่าจริงๆ เค้าคงไม่พูดว่าคิดแบบเดียวกันกับคุณแน่นอน
คนมีธรรมมะในใจ เค้าต้องรู้จักระงับสติ อารมณ์ และกิเลสได้ค่ะ

ทั้งๆที่รู้ว่าคุณมีสามีแล้ว ยังมาพูดแบบนี้ทำแบบนี้ ก็แสดงว่าไม่ใช่คนดีแน่นอน
ความคิดเห็นที่ 16
the grass is always greener on the other side of the fence วลีนี้ไม่เคยตกยุคตกสมัย คุณอยู่ในภาวะเบื่อเพราะชีวิตกับสามีคุณหมดความตื่นเต้น ทุกๆอย่างมันเรียบง่ายสบายเกินไป

ดิฉันเคยให้คำปรึกษากับเพื่อนที่เจอกันทางเน็ตและกลายมาเป็นเพื่อนสนิทคนหนึ่ง เธอเจอผู้ชายและตกหลุมรักแบบถอนตัวไม่ขึ้น ผู้ชายปากหวานเอาใจเก่ง เธอวาดความฝันว่าจะทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไปอยู่กับผู้ชายคนนั้น

ดิฉันก็พยายามชี้ให้เธอเห็นว่า เธอจะกลับไปใช้ชีวิตอยู่ในเมืองไทยแบบนั้นได้หรือ ทุกวันนี้เธอมีทุกอย่างได้เที่ยวรอบโลกได้พักโรงแรมหรูหรา ได้ทานอาหารอย่างดี ผู้ชายคนนั้นทำงานเดือนๆหนึ่งก็ไม่เหลือแล้ว อย่าว่าแต่พาเธอไปเที่ยวเมืองนอกเลย พาไปทานร้านหรูในโรงแรมสักมื้อก็คงคิดแล้วคิดอีก

กลับไปเมืองไทยแรกๆก็จะสนุกเพราะยังมีเงินที่ได้จากสามีใช้อยู่ ต่อมาเมื่อเงินร่อยหรอความรักก็จะบินหนีออกหน้าต่างทันที โชคดีที่มีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นทำให้เธอตาสว่างเสียก่อนที่จะสายเกินไป หากคุยกันท้าวถึงความหลังเธอก็หัวเราะกับดิฉัน ว่าตลกมากที่คิดแบบนั้นได้อย่างไร

เงินได้มาเป็นก้อนหากได้แต่ใช้หรือไม่มีสามีมาเติมตุ่มให้เต็มตลอดมันจะเหลืออะไร ทุกอย่างก็ต้องมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด คุณยังสาวยังสวยยังรักสวยรักงามรักการเที่ยวเตร่และชีวิตหรูหรา คิดก่อนหรือปล่าวว่าคุณจะทิ้งชีวิตแบบนั้นได้เพื่อจะกลับไปอยู่กับผู้ชายธรรมดาสักคน เขาคงจะไม่สามารถให้ชีวิตแบบนั้นกับคุณได้

ต่อไปกระเป๋าแบรนด์เนมทั้งแหล่ก็เตรียมขนไปขายได้เลยเพื่อเอาเงินมากินมาใช้ เลี้ยงตัวเองไม่พอคงต้องเลี้ยงผู้ชายด้วย เพื่อให้มีไลฟ์สไตรท์เหมือนคุณ ก็คิดเอาเองก็แล้วกัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่