ลักษณะธุรกิจ
เป็น Holding company โดยเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาตที่ประกอบธุรกิจทางการเงินครบวงจร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1) กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบด้วย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจลีสซิ่ง
2) ธุรกิจสนับสนุน ประกอบด้วย ธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจบริการ ธุรกิจกฎหมายและประเมินราคา ธุรกิจการพัฒนาฝึกอบรม
ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่
หลักๆ จะมีทาง NVDR , บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้น มีชื่อบุคคลหนึ่งอยู่ด้วย คือ " นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร " หรือที่เรียกกันว่า ดร.นิเวศน์ นักลงทุนเน้นคุณค่า
ซึ่งประเด็นนี้ น้องสี่ค่อนข้างให้น้ำหนักในส่วนหนึ่ง
เพราะว่า เวลา ดร.นิเวศน์ จะลงทุนในหุ้นใดหุ้นหนึ่งนั้น ดร.นิเวศน์ เค้าจะมีแนวคิดที่น่าสนใจอยู่ในหุ้นนั้นๆ ค่อนข้างมาก
ดังนั้น การที่อาจารย์เข้ามาถือ TCAP เป็นจนวน 7 ล้านหุ้น
หรือคิดเป็นจำนวนเงินลงทุนรวมๆ ประมาณหลักร้อยล้านบาท
เพราะฉะนั้นการที่มีราชื่อ ดร.นิเวศน์ (ที่เพิ่งขึ้นมาถือหุ้นรายใหญ่)
ก็อาจจะมีนัยสำคัญบางอย่างก็ได้ ที่คนอื่นๆ อาจจะยังมองไม่เห็นโอกาสในช่วงนั้น
และน้องสี่ได้ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้ดังนี้ครับ
ในช่วงวันที่ 8/10/2013
ณ ช่วงนี้ ดร.นิเวศน์ ยังไม่มีรายชื่ออยู่
แต่ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14/03/2014
ได้มีรายชื่อ ดร.นิเวศน์ ถือหุ้น TCAP อยู่เป็นจำนวน 7 ล้านหุ้น !! คิดเป็นสัดส่วน 0.55%
ซึ่งอาจตีความได้ว่า ระหว่างวันที่ 8/10/2013 ถึง 14/03/2014
ดร.นิเวศน์ เค้าคงค่อยๆ ทยอยเก็บจนครบเป้าหมายที่ ดร.นิเวศน์ ตั้งใจไว้นั่นเอง
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้การคาดการณ์ด้านบนก็ได้
เพราะไม่แน่ว่า ดร.นิเวศน์ อาจจะเก็บหุ้น TCAP และถือมาก่อนหน้านั้นไว้บางส่วนก็เป็นได้อีกเช่นกัน
เพราะถ้า ดร.นิเวศน์ เค้าถือหุ้น ในสัดส่วนที่ไม่มีเกิน 0.50% ของทั้งหมด
แน่นอนว่า ทางน้องสี่เองก็จะไม่เห็นรายชื่อ ดร.นิเวศน์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ๆ ในกิจการนั้นๆ
ดังนั้น ในส่วนมุมมองนี้จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คาดการณ์ว่า
ดร.นิเวศน์ น่าจะเก็บหุ้นในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เพราะในช่วงนั้นสถานการณ์ของตลาดหุ้นดูไม่ดีเลย(Set ขาลง)
บวกกับ ดร.นิเวศน์ น่าจะเห็นโอกาสในการลงทุน TCAP ซึ่งน้องสี่จะสะท้อนให้เห็นอีกทีนึงในช่วงวิเคราะห์กราฟนะครับ
ด้านงบการเงิน เปรียบเทียบกับ ค่า Average ของกลุ่มอุตสากรรม Bank จะพบว่า
1. RoA , RoE ของ TCAP จะอยู่เหนือว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม Bank ซึ่งอาจตีความได้ว่าทำได้ในระดับที่ค่อนข้างดี
อีกทั้งหากย้อนกลับไปในช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา RoA RoE ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ไม่น้อยหรือไม่มากจนเกินไป
ส่วนทำไม RoA ถึงน้อย? >>> เพราะว่าเป็น Nature ของธุรกิจแบงค์ครับ <<<
Link :
http://goo.gl/hJJEUk
2. Net Profit Margin ของ TCAP เทียบกับค่าเฉลี่ย จะเห็นว่า
ค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 18% แต่ TCAP ทำได้เพียงประมาณ 8%
ก็อาจตีความได้ประมาณหนึ่งว่า การทำกำไรของ TCAP ยังทำสู้ Bank อื่นได้ไม่ดีนัก คงต้องปรับกลยุทธ์กันต่อไปครับ
3. ด้าน P/E , P/BV จะพบว่า
TCAP มี P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเมื่อเทียบ Bank อื่นๆ โดยทั่วครับ
ซึ่งก็อาจมองตรงจุดนี้เป็นจุดเด่นของหุ้น TCAP ก็ได้ครับ เพราะเสมือนเราซื้อหุ้นได้ในราคาที่ถูกกว่าเจ้าของนั่นเอง
*** แต่ทว่า ในส่วนของ P/E ที่ต่ำมากๆ นั้น เกิดจากปีทีแล้วมีกำไรพิเศษเข้ามาครับ
ซึ่งในส่วนนี้ไม่ควรนำมาคิดใน P/E เพราะว่าจะทำให้ไม่ได้ค่า P/E ที่แท้จริงครับ ต้องระวังครับ ***
ดังนั้น น้องสี่จึงประมาณค่า P/E ของ TCAP ที่ควรจะเป็นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 9-10 เท่านะครับ
โดยสังเกตกำไรจากช่วงก่อนๆ ที่ทำได้คือประมาณปีละ 5000 ล้านบาท เฉลี่ยเป็นกำไรต่อหุ้น EPS อยู่ที่ปีละประมาณ 4 บาทครับ
เพราะฉะนั้น หากราคา ณ ปัจจุบันของ TCAP อยู่ที่ประมาณ 35 บาท
เราก็จะประเมิน P/E ที่ควรจะเป็นได้อยู่ที่ 35 บาท / 4 บาท = 8.75 เท่า
(เป็นการประมาณแบบคร่าวๆ นะครับ อาจน้อยกว่า หรือมากกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับผม)
และเมื่อประเมินได้คร่าวๆ แล้วนำไปเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรมของกลุ่ม BANK แล้วจะพบว่า
ก็ยังถือว่า P/E นั้นน้อยกว่าอยู่ครับ ซึ่งก็อาจแปลว่าได้ว่า TCAP ก็อาจจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจตัวหนึ่งในกลุ่ม BANK ครับผม
4. ด้านการจ่ายเงินปันผลนะครับ ( Dividend Yield )
ณ ปัจจุบัน Dividend Yield ของค่าเฉลี่ยกลุ่ม Bank อยู่ที่ประมาณ 3%
ส่วน TCAP อยู่ที่ ประมาณ 3% - 4% กว่าๆ
ซึ่งหามองในจุดนี้ TCAP ก็ถือว่าจ่ายปันผลอยู่ในระดับที่พอใช้ได้เลยนะครับ คือไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปครับ
อีกทั้งในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา TCAP เอง ก็จ่ายปันผลมาอย่างสม่ำเสมอครับ
5. ด้านรายได้ และ กำไรสุทธิ พบว่า
ในปี 2556 เทียบกับปี 2557 (6เดือนแรก) กำไรสุทธิต่างกันอย่างมาก
เพราะเนื่องจากว่า ในปี 2556 นั้นมีกำไรพิเศษส่วนหนึ่งเข้ามาครับ
ซึ่งส่วนนี้เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ได้เลยครับ
Link : http://goo.gl/x8A3Al
5. ด้านปัจจัยความเสี่ยง
น้องสี่ขอนำข้อมูลมาจาก 56-1 นะครับ เพราะเห็นว่าค่อนข้างละเอียดและชัดเจนดีครับ
โดย Link ด้านล่างจะเป็นไฟล์ Zip จากทางตลาดหลักทรัพย์นะครับ (หรือจะอ่านใน Spoil ก็ได้ครับ)
Link : http://goo.gl/yAUVlR
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิเคราะห์หุ้น TCAP ด้านกราฟ
กราฟ Day
กราฟ Week
จากการวิเคราะห์ในกราฟ Day และ กราฟ Week
น้องสี่มีมุมมองว่า TCAP น่าจะอยู่ในช่วงพักตัวและราคาเริ่มทำ Side Way อยู่ครับ (กำลังเลือกทาง)
ซึ่งแนวต้านปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 36.75 บาทครับ และแนวรับอยู่ประมาณ 32.50 และ 30 บาทครับ
หลักๆ ถ้าราคา TCAP ไม่หลุดแนวรับเส้นเฉียงในภาพ Week
ประกอบกับ ช่วงเวลาที่ ดร.นิเวศน์ กับราคาปัจจุบันก็ห่างกันไม่มากครับ
น้องสี่จึงคิดว่า TCAP ก็น่าสนใจดีนะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม "เคล็ดลับวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม Bank"
Link : http://goo.gl/OU2F3p
น้องสี่ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ และนักลงทุนทุกท่าน ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club
Time : 17.20 น.
16. วิเคราะห์หุ้น TCAP : บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
ลักษณะธุรกิจ
เป็น Holding company โดยเป็นบริษัทแม่ของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนชาตที่ประกอบธุรกิจทางการเงินครบวงจร ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม
1) กลุ่มธุรกิจการเงิน ประกอบด้วย ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจประกัน ธุรกิจลีสซิ่ง
2) ธุรกิจสนับสนุน ประกอบด้วย ธุรกิจโบรกเกอร์ ธุรกิจบริการ ธุรกิจกฎหมายและประเมินราคา ธุรกิจการพัฒนาฝึกอบรม
ด้านผู้ถือหุ้นรายใหญ่
หลักๆ จะมีทาง NVDR , บริษัท เอ็ม บี เค จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ทุนธนชาต จำกัด (มหาชน)
แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้น มีชื่อบุคคลหนึ่งอยู่ด้วย คือ " นายนิเวศน์ เหมวชิรวรากร " หรือที่เรียกกันว่า ดร.นิเวศน์ นักลงทุนเน้นคุณค่า
ซึ่งประเด็นนี้ น้องสี่ค่อนข้างให้น้ำหนักในส่วนหนึ่ง
เพราะว่า เวลา ดร.นิเวศน์ จะลงทุนในหุ้นใดหุ้นหนึ่งนั้น ดร.นิเวศน์ เค้าจะมีแนวคิดที่น่าสนใจอยู่ในหุ้นนั้นๆ ค่อนข้างมาก
ดังนั้น การที่อาจารย์เข้ามาถือ TCAP เป็นจนวน 7 ล้านหุ้น
หรือคิดเป็นจำนวนเงินลงทุนรวมๆ ประมาณหลักร้อยล้านบาท
เพราะฉะนั้นการที่มีราชื่อ ดร.นิเวศน์ (ที่เพิ่งขึ้นมาถือหุ้นรายใหญ่)
ก็อาจจะมีนัยสำคัญบางอย่างก็ได้ ที่คนอื่นๆ อาจจะยังมองไม่เห็นโอกาสในช่วงนั้น
และน้องสี่ได้ไปค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมในส่วนของรายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ได้ดังนี้ครับ
ในช่วงวันที่ 8/10/2013
ณ ช่วงนี้ ดร.นิเวศน์ ยังไม่มีรายชื่ออยู่
แต่ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา จนถึงวันที่ 14/03/2014
ได้มีรายชื่อ ดร.นิเวศน์ ถือหุ้น TCAP อยู่เป็นจำนวน 7 ล้านหุ้น !! คิดเป็นสัดส่วน 0.55%
ซึ่งอาจตีความได้ว่า ระหว่างวันที่ 8/10/2013 ถึง 14/03/2014
ดร.นิเวศน์ เค้าคงค่อยๆ ทยอยเก็บจนครบเป้าหมายที่ ดร.นิเวศน์ ตั้งใจไว้นั่นเอง
แต่ในอีกมุมหนึ่งก็อาจจะไม่ได้เป็นแบบนี้การคาดการณ์ด้านบนก็ได้
เพราะไม่แน่ว่า ดร.นิเวศน์ อาจจะเก็บหุ้น TCAP และถือมาก่อนหน้านั้นไว้บางส่วนก็เป็นได้อีกเช่นกัน
เพราะถ้า ดร.นิเวศน์ เค้าถือหุ้น ในสัดส่วนที่ไม่มีเกิน 0.50% ของทั้งหมด
แน่นอนว่า ทางน้องสี่เองก็จะไม่เห็นรายชื่อ ดร.นิเวศน์ เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ๆ ในกิจการนั้นๆ
ดังนั้น ในส่วนมุมมองนี้จึงเป็นเพียงส่วนหนึ่งที่คาดการณ์ว่า
ดร.นิเวศน์ น่าจะเก็บหุ้นในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา เพราะในช่วงนั้นสถานการณ์ของตลาดหุ้นดูไม่ดีเลย(Set ขาลง)
บวกกับ ดร.นิเวศน์ น่าจะเห็นโอกาสในการลงทุน TCAP ซึ่งน้องสี่จะสะท้อนให้เห็นอีกทีนึงในช่วงวิเคราะห์กราฟนะครับ
ด้านงบการเงิน เปรียบเทียบกับ ค่า Average ของกลุ่มอุตสากรรม Bank จะพบว่า
1. RoA , RoE ของ TCAP จะอยู่เหนือว่าค่าเฉลี่ยในอุตสาหกรรม Bank ซึ่งอาจตีความได้ว่าทำได้ในระดับที่ค่อนข้างดี
อีกทั้งหากย้อนกลับไปในช่วง 4 - 5 ปีที่ผ่านมา RoA RoE ก็อยู่ในเกณฑ์ที่ใช้ได้ ไม่น้อยหรือไม่มากจนเกินไป
ส่วนทำไม RoA ถึงน้อย? >>> เพราะว่าเป็น Nature ของธุรกิจแบงค์ครับ <<<
Link : http://goo.gl/hJJEUk
2. Net Profit Margin ของ TCAP เทียบกับค่าเฉลี่ย จะเห็นว่า
ค่าเฉลี่ยส่วนใหญ่อยู่ที่ประมาณ 18% แต่ TCAP ทำได้เพียงประมาณ 8%
ก็อาจตีความได้ประมาณหนึ่งว่า การทำกำไรของ TCAP ยังทำสู้ Bank อื่นได้ไม่ดีนัก คงต้องปรับกลยุทธ์กันต่อไปครับ
3. ด้าน P/E , P/BV จะพบว่า
TCAP มี P/E และ P/BV ที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมเมื่อเทียบ Bank อื่นๆ โดยทั่วครับ
ซึ่งก็อาจมองตรงจุดนี้เป็นจุดเด่นของหุ้น TCAP ก็ได้ครับ เพราะเสมือนเราซื้อหุ้นได้ในราคาที่ถูกกว่าเจ้าของนั่นเอง
*** แต่ทว่า ในส่วนของ P/E ที่ต่ำมากๆ นั้น เกิดจากปีทีแล้วมีกำไรพิเศษเข้ามาครับ
ซึ่งในส่วนนี้ไม่ควรนำมาคิดใน P/E เพราะว่าจะทำให้ไม่ได้ค่า P/E ที่แท้จริงครับ ต้องระวังครับ ***
ดังนั้น น้องสี่จึงประมาณค่า P/E ของ TCAP ที่ควรจะเป็นน่าจะอยู่ที่ประมาณ 9-10 เท่านะครับ
โดยสังเกตกำไรจากช่วงก่อนๆ ที่ทำได้คือประมาณปีละ 5000 ล้านบาท เฉลี่ยเป็นกำไรต่อหุ้น EPS อยู่ที่ปีละประมาณ 4 บาทครับ
เพราะฉะนั้น หากราคา ณ ปัจจุบันของ TCAP อยู่ที่ประมาณ 35 บาท
เราก็จะประเมิน P/E ที่ควรจะเป็นได้อยู่ที่ 35 บาท / 4 บาท = 8.75 เท่า
(เป็นการประมาณแบบคร่าวๆ นะครับ อาจน้อยกว่า หรือมากกว่านี้ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ครับผม)
และเมื่อประเมินได้คร่าวๆ แล้วนำไปเทียบกับค่าเฉลี่ยกลุ่มอุตสาหกรรมของกลุ่ม BANK แล้วจะพบว่า
ก็ยังถือว่า P/E นั้นน้อยกว่าอยู่ครับ ซึ่งก็อาจแปลว่าได้ว่า TCAP ก็อาจจะเป็นหุ้นที่น่าสนใจตัวหนึ่งในกลุ่ม BANK ครับผม
4. ด้านการจ่ายเงินปันผลนะครับ ( Dividend Yield )
ณ ปัจจุบัน Dividend Yield ของค่าเฉลี่ยกลุ่ม Bank อยู่ที่ประมาณ 3%
ส่วน TCAP อยู่ที่ ประมาณ 3% - 4% กว่าๆ
ซึ่งหามองในจุดนี้ TCAP ก็ถือว่าจ่ายปันผลอยู่ในระดับที่พอใช้ได้เลยนะครับ คือไม่มากและไม่น้อยจนเกินไปครับ
อีกทั้งในช่วงประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา TCAP เอง ก็จ่ายปันผลมาอย่างสม่ำเสมอครับ
5. ด้านรายได้ และ กำไรสุทธิ พบว่า
ในปี 2556 เทียบกับปี 2557 (6เดือนแรก) กำไรสุทธิต่างกันอย่างมาก
เพราะเนื่องจากว่า ในปี 2556 นั้นมีกำไรพิเศษส่วนหนึ่งเข้ามาครับ
ซึ่งส่วนนี้เพื่อนๆ สามารถเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ได้เลยครับ
Link : http://goo.gl/x8A3Al
5. ด้านปัจจัยความเสี่ยง
น้องสี่ขอนำข้อมูลมาจาก 56-1 นะครับ เพราะเห็นว่าค่อนข้างละเอียดและชัดเจนดีครับ
โดย Link ด้านล่างจะเป็นไฟล์ Zip จากทางตลาดหลักทรัพย์นะครับ (หรือจะอ่านใน Spoil ก็ได้ครับ)
Link : http://goo.gl/yAUVlR
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
วิเคราะห์หุ้น TCAP ด้านกราฟ
กราฟ Day
กราฟ Week
จากการวิเคราะห์ในกราฟ Day และ กราฟ Week
น้องสี่มีมุมมองว่า TCAP น่าจะอยู่ในช่วงพักตัวและราคาเริ่มทำ Side Way อยู่ครับ (กำลังเลือกทาง)
ซึ่งแนวต้านปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 36.75 บาทครับ และแนวรับอยู่ประมาณ 32.50 และ 30 บาทครับ
หลักๆ ถ้าราคา TCAP ไม่หลุดแนวรับเส้นเฉียงในภาพ Week
ประกอบกับ ช่วงเวลาที่ ดร.นิเวศน์ กับราคาปัจจุบันก็ห่างกันไม่มากครับ
น้องสี่จึงคิดว่า TCAP ก็น่าสนใจดีนะครับ
ข้อมูลเพิ่มเติม "เคล็ดลับวิเคราะห์หุ้นกลุ่ม Bank"
Link : http://goo.gl/OU2F3p
น้องสี่ขอให้เพื่อนๆ พี่ๆ และนักลงทุนทุกท่าน ประสบความสำเร็จในการลงทุนนะครับ
การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนและนักลงทุนควรหาความรู้และตัดสินใจให้ดีก่อนการลงทุนนะครับ
สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : "ฅนเล่นหุ้น" นะครับ
https://www.facebook.com/StockTrader.Club
Date : 28 July 2014
Time : 17.20 น.
บทวิเคราะห์ที่น้องสี่ได้วิเคราะห์ไว้นะครับ Season 1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
บทวิเคราะห์ที่น้องสี่ได้วิเคราะห์ไว้นะครับ Season 2
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้