บอลโลกจบไป 2 อาทิตย์แล้วแต่ยังไม่หายปลื้ม ยังตามอ่านข่าวทีมเราอยู่เรื่อยๆและไปเจอข้อมูลที่นักข่าวอังกฤษเขียนถึงทีมเรา ก็เลยอดไม่ได้ที่จะมาเล่าให้ฟัง เขาเขียนว่า
บอลยูโร 2000 อังกฤษตกรอบแรกพร้อมเยอรมัน ปี 2004 อังกฤษเข้ารอบ 8 ทีมแต่เยอรมันตกรอบแรกอีก มาวันนี้เยอรมันเป็นแชมป์โลกไปแล้วแต่ทำไมอังกฤษยังไม่ไปถึงไหนซักที เราได้แต่หวังลมๆแล้งๆมาครึ่งค่อนศตวรรษว่าจะเป็นแชมป์กับเขามั่ง แต่ท้ายสุดเราก็ได้แค่ฝัน แถมปีนี้ชิงกลับบ้านซะตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มซะงั้น คนอังกฤษหมดสุขที่เห็นทีมชาติตกรอบ มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้แม้ว่าเราจะเผื่อใจไว้บ้างแล้วตอนที่รู้ว่าอังกฤษอยู่กลุ่มเดียวกับอิตาลี อุรุกวัยและคอสตาริกา
อังกฤษเป็นคู่แค้นกับเยอรมันเพราะเรื่องราวสงครามในอดีต แต่หลักใหญ่ใจความมันเป็นเพราะเรื่องฟุตบอลซะมากกว่า เรายังจำความเจ็บปวดในบอลโลกรอบ 16 ทีมปี 2010 ที่เยอรมันถล่มอังกฤษด้วยสกอร์ 4-1 ได้ไม่ลืม และเราก็ไม่ลืมหัตถ์พระเจ้าของมาราดอนน่าเหมือนกัน พอ 2 ชาตินี้ต้องมาชิงชนะเลิศกัน คนอังกฤษก็ไม่รู้จะเชียร์ใครดี แต่ผมคิดว่าคนอังกฤษแอบเชียร์เยอรมันอยู่ในใจซะมากกว่า
เราเฝ้าดูเยอรมันพัฒนาทีม และเมื่อเยอรมันแข่งรอบรองกับราซิล คนอังกฤษถึงกับอ้าปากค้างที่เห็นเยอรมันถล่มบราซิลเละเทะถึง 7-1 ตั้งแต่เป็นนักข่าวและแฟนบอลมา ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน สื่อข่าวอังกฤษโหมเขียนข่าวดรามานี้กันไม่ละลด เราทึ่งมากที่เห็นความเลือดเย็นของเยอรมัน และทึ่งในวิธีการเล่นของเยอรมันที่ทำประตูได้ถึง 5 ประตูภายในเวลาแค่ 29 นาที ขนาดเยอรมันลดความเร็วลงในครึ่งหลังยังชนะถึง 7-1 ถ้าไม่เบรคก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นไงต่อ
หลังวิกฤตของทีมชาติเยอรมันเมื่อปี 2000 เรารับรู้ถึงความพินาศของเยอรมัน จึงอดทึ่งไม่ได้ที่เห็นเยอรมันพัฒนาและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เยอรมันรู้ว่าทีมชาติขาดนักเตะเยาวชนจึงเริ่มสร้างระบบการพัฒนาเยาวชนขึ้นมา และค่อยๆพัฒนาด้วยการวางรากฐานเรื่องนี้อย่างจริงจัง สโมสรต่างๆในเยอรมันเองก็เริ่มสร้างเยาวชนเพื่อวางรากฐานให้กับสโมสรเช่นกัน ผมรู้เรื่องนี้จากเพื่อนนักข่าวชาวเยอรมัน มันช่างเป็นการวางแผนเพื่อหวังผลในระยะยาวที่ดีมากจริงๆ
ผมอยากให้อังกฤษทำอย่างนี้มั่ง ความสำเร็จของอังกฤษอยู่ที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษร่ำรวยมากพอที่จะซื้อนักเตะได้อย่างที่สโมสรต้องการ แต่ไม่มีใครสนใจจะพัฒนานักเตะเยาวชนอย่างจริงจัง พวกเขาสนใจแต่เรื่องเงินๆทองๆ รายได้เป็นกอบเป็นกำจากการถ่ายทอดสดทางทีวีเป็นเรื่องสำคัญกว่าการจัดให้นักเตะอังกฤษที่ผ่านการฝึกฝนอบรมได้ลงแข่งบ้าง เพราะอย่างนั้นเราถึงเห็นนักเตะเหล่านี้ต้องนั่งสำรองอยู่บ่อยๆ
พวกเขาชอบที่จะนั่งสำรองมากกว่าจะออกไปหาประสบการณ์ในต่างประเทศ พวกเขารู้สึกสบายอกสบายใจที่ได้อยู่ในบ้านเกิดของตัวเอง เพราะงั้นเราถึงขาดประสบการณ์จากต่างประเทศ ตอนที่เยอรมันได้แชมป์โลกปี 1990 มีนักเตะที่ไปค้าแข้งในต่างแดนหลายคน และปีนี้ก็เหมือนกัน มีนักเตะเยอรมันลงเล่นให้พรีเมียร์ลีกหลายคน พวกเขามีประสบการณ์มากกว่านักเตะของเรา ผมเชื่อยังงั้น
ผมอยากให้เราใช้ระบบแบบเยอรมันมั่ง เราต้องทำให้พรีเมียร์ลีกของเรามีความสมดุลย์ระหว่างนักเตะต่างชาติและนักเตะอังกฤษ ปัญหามันอยู่ที่ว่า หลายสโมสรไม่ใส่ใจเรื่องนี้ พวกเขาสนใจจะซื้อนักเตะต่างชาติมากกว่าจะใส่ใจนักเตะของชาติตัวเอง พวกเขาสนใจความสำเร็จของสโมสรมากกว่าความสำเร็จของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งมันทำให้ระบบของทีมชาติอังกฤษอ่อนแอ
คุณรู้ไหมว่าแฟนบอลอังกฤษชอบนักเตะเยอรมันคนไหนมากที่สุด ไม่ใช่โพลดี้ ไม่ใช่โอซิล ไม่ใช่มุลเลอร์ แต่เป็น แพร์ แมร์แตซัคเคอร์ เขาเล่นให้อาร์เซนอล แฟนบอลให้สมญาเขาว่า "big ฟักkin' German" มันฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไร มันฟังดูเหมือนไม่ให้ความเคารพ แต่ แมร์แตซัคเคอร์ กลับไปพิมพ์คำว่า "big ฟักkin' German" ลงบนเสื้อยืด คนอังกฤษรักเรื่องแบบนี้ รักคนที่เข้าถึงอารมณ์ขันประหลาดๆของคนอังกฤษ
ท้ายสุดนี้ ผมขอร่วมแสดงความยินดีกับทีมชาติเยอรมันด้วย
Jeramy Wilson
สืออังกษ..อิจฉาเยอรมันจัง
บอลยูโร 2000 อังกฤษตกรอบแรกพร้อมเยอรมัน ปี 2004 อังกฤษเข้ารอบ 8 ทีมแต่เยอรมันตกรอบแรกอีก มาวันนี้เยอรมันเป็นแชมป์โลกไปแล้วแต่ทำไมอังกฤษยังไม่ไปถึงไหนซักที เราได้แต่หวังลมๆแล้งๆมาครึ่งค่อนศตวรรษว่าจะเป็นแชมป์กับเขามั่ง แต่ท้ายสุดเราก็ได้แค่ฝัน แถมปีนี้ชิงกลับบ้านซะตั้งแต่รอบแบ่งกลุ่มซะงั้น คนอังกฤษหมดสุขที่เห็นทีมชาติตกรอบ มันเป็นเรื่องที่รับไม่ได้แม้ว่าเราจะเผื่อใจไว้บ้างแล้วตอนที่รู้ว่าอังกฤษอยู่กลุ่มเดียวกับอิตาลี อุรุกวัยและคอสตาริกา
อังกฤษเป็นคู่แค้นกับเยอรมันเพราะเรื่องราวสงครามในอดีต แต่หลักใหญ่ใจความมันเป็นเพราะเรื่องฟุตบอลซะมากกว่า เรายังจำความเจ็บปวดในบอลโลกรอบ 16 ทีมปี 2010 ที่เยอรมันถล่มอังกฤษด้วยสกอร์ 4-1 ได้ไม่ลืม และเราก็ไม่ลืมหัตถ์พระเจ้าของมาราดอนน่าเหมือนกัน พอ 2 ชาตินี้ต้องมาชิงชนะเลิศกัน คนอังกฤษก็ไม่รู้จะเชียร์ใครดี แต่ผมคิดว่าคนอังกฤษแอบเชียร์เยอรมันอยู่ในใจซะมากกว่า
เราเฝ้าดูเยอรมันพัฒนาทีม และเมื่อเยอรมันแข่งรอบรองกับราซิล คนอังกฤษถึงกับอ้าปากค้างที่เห็นเยอรมันถล่มบราซิลเละเทะถึง 7-1 ตั้งแต่เป็นนักข่าวและแฟนบอลมา ผมไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อน สื่อข่าวอังกฤษโหมเขียนข่าวดรามานี้กันไม่ละลด เราทึ่งมากที่เห็นความเลือดเย็นของเยอรมัน และทึ่งในวิธีการเล่นของเยอรมันที่ทำประตูได้ถึง 5 ประตูภายในเวลาแค่ 29 นาที ขนาดเยอรมันลดความเร็วลงในครึ่งหลังยังชนะถึง 7-1 ถ้าไม่เบรคก็ไม่รู้ว่าผลจะเป็นไงต่อ
หลังวิกฤตของทีมชาติเยอรมันเมื่อปี 2000 เรารับรู้ถึงความพินาศของเยอรมัน จึงอดทึ่งไม่ได้ที่เห็นเยอรมันพัฒนาและแก้ไขปัญหาอย่างเป็นระบบ เยอรมันรู้ว่าทีมชาติขาดนักเตะเยาวชนจึงเริ่มสร้างระบบการพัฒนาเยาวชนขึ้นมา และค่อยๆพัฒนาด้วยการวางรากฐานเรื่องนี้อย่างจริงจัง สโมสรต่างๆในเยอรมันเองก็เริ่มสร้างเยาวชนเพื่อวางรากฐานให้กับสโมสรเช่นกัน ผมรู้เรื่องนี้จากเพื่อนนักข่าวชาวเยอรมัน มันช่างเป็นการวางแผนเพื่อหวังผลในระยะยาวที่ดีมากจริงๆ
ผมอยากให้อังกฤษทำอย่างนี้มั่ง ความสำเร็จของอังกฤษอยู่ที่พรีเมียร์ลีก อังกฤษร่ำรวยมากพอที่จะซื้อนักเตะได้อย่างที่สโมสรต้องการ แต่ไม่มีใครสนใจจะพัฒนานักเตะเยาวชนอย่างจริงจัง พวกเขาสนใจแต่เรื่องเงินๆทองๆ รายได้เป็นกอบเป็นกำจากการถ่ายทอดสดทางทีวีเป็นเรื่องสำคัญกว่าการจัดให้นักเตะอังกฤษที่ผ่านการฝึกฝนอบรมได้ลงแข่งบ้าง เพราะอย่างนั้นเราถึงเห็นนักเตะเหล่านี้ต้องนั่งสำรองอยู่บ่อยๆ
พวกเขาชอบที่จะนั่งสำรองมากกว่าจะออกไปหาประสบการณ์ในต่างประเทศ พวกเขารู้สึกสบายอกสบายใจที่ได้อยู่ในบ้านเกิดของตัวเอง เพราะงั้นเราถึงขาดประสบการณ์จากต่างประเทศ ตอนที่เยอรมันได้แชมป์โลกปี 1990 มีนักเตะที่ไปค้าแข้งในต่างแดนหลายคน และปีนี้ก็เหมือนกัน มีนักเตะเยอรมันลงเล่นให้พรีเมียร์ลีกหลายคน พวกเขามีประสบการณ์มากกว่านักเตะของเรา ผมเชื่อยังงั้น
ผมอยากให้เราใช้ระบบแบบเยอรมันมั่ง เราต้องทำให้พรีเมียร์ลีกของเรามีความสมดุลย์ระหว่างนักเตะต่างชาติและนักเตะอังกฤษ ปัญหามันอยู่ที่ว่า หลายสโมสรไม่ใส่ใจเรื่องนี้ พวกเขาสนใจจะซื้อนักเตะต่างชาติมากกว่าจะใส่ใจนักเตะของชาติตัวเอง พวกเขาสนใจความสำเร็จของสโมสรมากกว่าความสำเร็จของสมาคมฟุตบอลอังกฤษ ซึ่งมันทำให้ระบบของทีมชาติอังกฤษอ่อนแอ
คุณรู้ไหมว่าแฟนบอลอังกฤษชอบนักเตะเยอรมันคนไหนมากที่สุด ไม่ใช่โพลดี้ ไม่ใช่โอซิล ไม่ใช่มุลเลอร์ แต่เป็น แพร์ แมร์แตซัคเคอร์ เขาเล่นให้อาร์เซนอล แฟนบอลให้สมญาเขาว่า "big ฟักkin' German" มันฟังดูไม่ค่อยดีเท่าไร มันฟังดูเหมือนไม่ให้ความเคารพ แต่ แมร์แตซัคเคอร์ กลับไปพิมพ์คำว่า "big ฟักkin' German" ลงบนเสื้อยืด คนอังกฤษรักเรื่องแบบนี้ รักคนที่เข้าถึงอารมณ์ขันประหลาดๆของคนอังกฤษ
ท้ายสุดนี้ ผมขอร่วมแสดงความยินดีกับทีมชาติเยอรมันด้วย
Jeramy Wilson