Botox หน้าด้าน กับ ความลับใต้ปลายเข็ม ( ปัจฉิมบท )

กระทู้สนทนา
จากที่เกริ่นค้างไว้ในปฐมบท เกี่ยวกับ การฉีด Botox แล้วหน้าด้านเพราะกล้ามเนื้อใบหน้าลีบ ( ใบหน้าเรียว )    หมอจะขออธิบายสั้นๆเกี่ยวกับระยะเวลาออกฤทธิ์ของ botox ซักหน่อย   คือ เมื่อหลังฉีด Botox ไป    Botox จะยังไม่ออกฤทธิ์ ทันทีนะครับ ต้องรอประมาณ 3 วัน จะเริ่มสังเกตว่า ริ้วรอย เวลาเราออกอารมณ์ บนใบหน้าเริ่มจางลง  และจะออกฤทธิ์มากขึ้นเรื่อยๆ ประมาณ  1 -2 สัปดาห์   และ ฤทธิ์นั้นจะคงที่อยู่จนเกือบ 3 เดือน   จากนั้นฤทธิ์ของ botox จะค่อยๆลดลง เรื่อยๆ จนหมดฤทธิ์ไปเองตอน 6 เดือน  ( ลักษณะการออกฤทธิ์และหมดฤทธิ์ ให้ นึกถึง คนเดินขึ้นบันได ไป 3 ขั้น และเดินลงอีก 3 ขั้น )
                    

                   ในช่วงระยะเวลา 3 เดือนหลังนี้แหละครับ ที่ Botox เริ่มคลายตัว ทำให้ สารสื่อประสาท ส่งไปยังกล้ามเนื้อนั้นได้  ทำให้กล้ามเนื้อนั้น เริ่มที่จะกลับมาทำงานอีกครั้ง  คนไข้จะเริ่มเห็น ริ้วรอยบนใบหน้าเกิดขึ้น มาอีก   บางคนก็คิดว่า ไม่เป็นรัย ขอจนครบ 6 เดือนแล้วค่อยไปฉีดใหม่    แต่บางคน ยอมไม่ได้ ริ้วรอยเล็กๆ น้อยๆ ก็รอไม่ได้   ก็กลับไปหาหมอก่อน 6เดือน บางคนก็แค่ 3 เดือน เพื่อที่จะฉีดอีก  นี้แหละครับ บ่อเกิดแห่งปัญหา

                ถ้าเจอ หมอดี ก็ดีไป คุณหมอเค้าก็จะบอกว่า รอก่อน รอให้ครบ 6 เดือนก่อน แล้วค่อยฉีด  Bo ใหม่  แล้วอาจแนะนำให้ไปทำ Treatment อย่างอื่นที่แพงกว่า เช่น Thermage , Ulthera  ฮ่าๆๆ ( เข้าทางพวกหมอสิวเลย ฮ่าๆ  ...เพราะจะได้ขาย Course ต่อเนื่อง    จำไว้ให้ดีนะครับ หมอบางคนก็มาในคราบของ Saleman Salegirl นะครับ .....แต่จริงๆก็ไม่ใช่ทุกคนนะครับ เพราะหมอหลายคนก็กล้ำกลืน ผืนทนภาวะนี้อยู่   หลายคนถูกเจ้าคลินิกบังคับ  หลายคนถูกผู้จัดการคลินิกเรียกไปตักเตือนเรื่องยอดขาย    อ่านมาถึงนี้ เศร้าไหมครับว่า อาชีพที่ทรงเกียรติ อย่างแพทย์ต้องถูกกระทำแบบนี้   )

               แต่ถ้าเจอหมอ ที่ชอบตามใจคนไข้ หรือจะ ตามใจเพราะรำคาญ  หรือแม้กระทั้งคนไข้บางคนที่ หมอเค้าปฏิเสธ จะฉีดให้   ก็ย้ายไปคลินิกอื่น แล้วทำเนียน ไม่รู้ไม่ชี้ ไม่เคยทำอะไร กับหน้ามาก่อน  "โบ... เบอร์ อะไรไม่รู้จัก รู้จักแต่แบ๊ว "    แล้วไปให้หมอเค้าฉีดให้ แบบนี้ก็เยอะ นะครับ

                ดังนั้นเลยไม่แปลกใจเลยว่า จะต้องมีคนไข้เกิดภาวะ ด้าน Botox กันเยอะขึ้นโดยเฉพาะ ภาวะกล้ามเนื้อบุ๋ม หรือหน้าบุ๋ม ยกตัวอย่าง บริเวณที่นิยมฉีดกันมากๆ ได้แก่ ตีนกา ( เรียกๆง่ายๆเลยว่าเป็นตำแหน่ง ยอดนิยม  คนไข้ที่เพิ่งเข้าวงการ Bo มักจะต้องเริ่มด้วยการฉีด ตีนกา เป็นอย่างแรก )

              ในเมื่อตำแหน่งนี้ถูกฉีดบ่อยๆ ฉีดนานๆ ครั้งเข้า บริเวณที่ฉีดก็จะบุ๋ม ( เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เวลาที่คุณหมอเค้าฉีด Botox บริเวณ ตีนกา เค้าจะเอานิ้วคลำขอบกระโหลกเบ้าตาดูก่อน แล้วค่อยฉีดถัดออกมา  ซึ่งบริเวณนั้นโดยเฉพาะขอบบนจะ มีการเหลื่อมกันระหว่างกล้ามเนื้อขมับ และ กล้ามเนื้อรอบดวงตา   พอฉีดบ่อยเข้า กล้ามเนื้อเฉพาะตำแหน่งฉีด จะบุ๋ม ในรายที่เป็นมากอาจบุ๋มจนเห็นขอบ กระโหลกเบ้าตา บางคนเรียกว่า Hourglass deformity
                

4 )  Botox ราคาถูก ฉีดเลยไม่ได้ผล ?

       จากที่เริ่มว่าทำไมฉีด botox แล้วไม่ได้ผล มาถึง ที่หมอสิว พูดถึง Botox ราคาถูก ราคาแพง   ก็อย่างที่ทราบนะครับว่า   ของดีแล้วถูก ในโลกนี้ไม่มี  ถ้ามีแสดงว่าไม่ใช่ของในโลกนี้ ฮ่าๆๆ      แต่เราคงยังไม่ต้องไปพูดถึงโลกหน้าหรอกครับ  เอาแค่ในประเทศไทยก่อน  ว่าแท้จริงแล้ว Botox ที่ผ่าน อย แล้ว สามารถนำมาขาย หรือใช้ได้ในประเทศมันมีกี่ ยี่ห้อกันแน่  แล้วอะไรถูกอะไรแพง
รายชื่อ Botox ที่ผ่าน อ.ย
          

เราจะเห็นว่ามีแค่ 7 ยี่ห้อ 4 ประเทศ นะครับ ( ณ วันที่  21/1/2557 )
อเมริกา 1  อังกฤษ  1  เกาหลี  4   จีน 1

    สำหรับ ราคา Botoxต่อขวด จะถูก   จะแพงก็ดูจากค่าตั๋วเครื่องบิน ที่บินไปประเทศนั้นๆนะครับ    หมอจะใบ้ต้นทุนต่อขวดให้เอาไหมครับ ?  บอกกว้างๆดีกว่าว่า range ของราคามีตั้งแต่ 5000- 13500 บาทต่อขวด ส่วนว่า ทำไมร้านนั้นแพง ร้านนั้นถูก  ก็อยู่ที่ ชนิดของ botox ที่มาฉีด รวมถึงราคา Doctor Fee ด้วย..... หมอคนไหน เทพมาก ก็คิดแพงหน่อยฮ่าๆ.... แต่ถามจริงๆเถอะ ไอ้ที่ฉีดๆ จิ้มๆนี้ มันยากมากเลยหรอ ???

             สำหรับเรื่องที่ว่า ราคาถูก ราคาแพง ได้ผลต่างกันไหม ต้องอธิบายให้ลึกซึ้งลงไปอีกนิดครับว่า  Botox แต่ละตัวออกฤทธิ์ ไม่เหมือนกัน เพราะวัตถุประสงค์ในการใช้ต่างกัน   ยกตัวอย่างเช่น  Botox อเมริกา นั้นผลิตออกมาเฉพาะ เจาะจงกับกล้ามเนื้อมัดเล็ก ซึ่งจะได้ผลดีกับกล้ามเนื้อใบหน้า   ( ลดริ้วรอยตื้นๆ )   ส่วน Botox อังกฤษ นั้นออกฤทธิ์มาเฉพาะเจาะจงกับกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ซึ่งช่วยในการรักษา ภาวะเกร็งของกล้ามเนื้อ ( Spasticity ) หรือลดขนาดของกล้ามเนื้อ   

                สำหรับ Botox ของเกาหลี และจีนนั้น หมอไม่มีข้อมูลครับ เลยไม่กล้าที่จะอธิบาย ที่บอกว่าไม่มีข้อมูล จริงๆแล้วหมอรู้จักทุกตัว แต่ไม่มีเอกสารทางการแพทย์ที่เชื่อถือได้มารับรอง....( เอกสารจากหมอเกาหลี หรือประเทศเกาหลีไม่นับนะครับ เพราะถือว่ามี Bias ) หมอเลย ไม่ขออธิบายดีกว่า... แต่แอบบอกนิส หนึ่งนะว่า ...แปลกดีที่ บริษัทต้นทางของ Botox จากเกาหลีที่นำเข้ามาขายในเมืองไทย 3 ใน 4  ชนิดเป็นบริษัทเดียวกัน     เลยงง ว่าทำไมมันเอามาขายในไทยทั้ง 3 ยี่ห้อหว่า ???   )  .... ใครรู้ช่วยบอกที ไม่อยากจะคิดว่า โรงงานต้นทางที่เกาหลีก็เป็น โรงงานเดียวกัน แต่แบ่งขายตามคุณภาพของชนิดของ botox หรือเปล่า ??

เค้าเอาBotox  มาฉีดอะไร กันบ้าง และมีผลเสียบ้างหรือเปล่า  ?    

1 )  Botox ลบพริ้ว   ( Wrinkle free )

ข้อบ่งใช้ : ก็อย่างที่บอกไว้แล้วว่า ริ้วรอยที่ได้ผลดีกับ Botox นั้นเป็น fine Wrinkle เท่านั้น  

ข้อควรระแวง   : ในส่วนริ้วรอยลึกๆ นั้น ร่องหรือรอยที่เกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดจาก การขยับหรือไม่ขยับของกล้ามเนื้ออย่างเดียว  แต่มันเกิดจาก elastin ในชั้นผิวหนังกำพร้า มันไม่ผลิต หรือ ผลิตน้อย เมือเราอายุมากขึ้น จึงเห็นเป็นร่องลึกๆ ฉะนั้น การฉีด Botox  ในกรณีนี้จึงเสียตังค์ฟรี


2 )  Botox ยกหนัง  ( Face lifting )

            ข้อบ่งใช้  : ต้องทำความข้าใจหน่อยนึ่งนะครับว่า Botox มันไปออกฤทธิ์ หยุดการทำงานของกล้ามเนื้อ ดังนั้น พอฉีดไป หนังหน้าที่มีกล้ามเนื้อชนิดนั้นเกาะอยู่มันควร ตกลง  ไม่ใช่ยกขึ้น ใช่ไหม ?ครับ  งงไหมครับว่า แล้วทำไมมันถึงยกได้ ?     เค้าใช้หลักการที่ว่า หยุดกล้ามเนื้อตัวหนึ่ง เพื่อให้ตัวหนึ่งทำงานแทนในทิศทางตรงกันข้าม   ( Muscle Agonist VS Muscle Antagonist )   
           อธิบายแบบภาษาคนคือ กล้ามเนื้อบนหน้าเรามันมีการทำงาน ต้านทานกันอยู่ เหมือนคนชักคะเย่อกัน  พอเราฉีด botox ให้กล้ามเนื้อส่วนที่ทำหน้าที่ดึงหนังหน้าลงล่างหยุดทำงาน    กล้ามเนื้อที่ทำหน้าที่สวนทางอยู่ก็จะยกหนังหน้าเราขึ้น     ยกตัวอย่างที่ classic สุดๆ ก็คือ การฉีดยกคิ้ว .. ในเรื่องการยกคิ้วจะมีกล้ามเนื้อสำคัญ 2 ชนิดคือ


                1 )Orbicularis  Muscle หรือกล้ามเนื้อรอบดวงตาที่ทำหน้าที่ ช่วยให้เราหยีตา หรือหลับตาปี้  เวลาเรากลัวไม่อยากมอง    ซึ่งจะทำให้คิ้วเราต่ำลง       

                 2 )  Frontalis Muscle หรือ กล้ามเนื้อหน้าผาก ที่ทำหน้าที่ ย่นหน้าผาก หรือช่วยเราเบิ่งตา  ในขณะที่เราตื่นเต้น  ซึ่งจะทำให้คิ้วเรายกขึ้น

            ดังนั้นพอคุณหมอเค้าต้องการให้ คิ้วเราโก่ง หรือ ยกคิ้วขึ้น  เค้าก็จะหยุดการทำงานของ กล้ามเนื้อ Orbicularis เพื่อทำให้  Frontalis ทำงานได้ทำงานแทนที่   ดังนั้นเราจะเห็นคนไข้บางคนที่ไปฉีดยกคิ้วมาทำหน้า ตื่น  -- เต้น อยู่ตลอดเวลา ฮ่าๆๆ



   ข้อควรระแวง :  อย่างที่บอกนะครับจริงๆ การฉีด botox lifting นั้นมีหลายวิธีไม่ว่าจะเป็น Nefertiti ,Dermotoxin , Microbotox   ซึ่งวิธีหลังๆ หมอมองว่า เป็นวิธีฉีดแบบปูพรมซ่ะมากกว่า ฉีดแบบ microdrop  เจือจางหน่อย  ฉีดตื้นๆ ระดับผิวหนังกำพร้า  ตามแนวที่ต้องการ ไม่ต้องอาศัยความรู้ทางกายวิภาค      ด้วยความที่มันฉีดง่ายแบบนี้  เลยทำให้ เดี๋ยวนี้เราจะได้ยินข่าว ว่า หมอกระเป๋า หมอกระปี๋ มาเปิดสถานเสริมความงามกันเยอะ   ลดแลกแจกแถม ออก promotion กันมากมาย    .. ดังนั้นก่อนที่จะทำการยกหน้า ก็หาหมอที่เก่งๆหน่อยก็แล้วกันนะครับ

3 ) Botox  หน้าเพรียว ( Face contouring )

       ข้อบ่งใช้      สำหรับ Botox หน้าเรียว หรือ หน้าเพรียวนั้น  มักทำให้คนทั่วไปสับสน นะครับ บางคนคิดว่าฉีด botox แล้วจะผอมหน้าตอบ  เลยพาลคิดไปว่า Botox ช่วยลดความอ้วน  ( อ่านมาถึงตรงนี้ อย่าหัวเราะนะครับ มีจริงๆ และเยอะด้วย )   จริงๆแล้ว botox หน้าเรียวนั้น คุณหมอเค้าจะฉีดไปที่กล้ามเนื้อ Masseter  หรือกล้ามเนื้อบดเคี้ยว เรียกง่ายๆว่า ถ้าเราเอามือไปคลำที่มุมขากรรไกรล่าง แล้วลองกัดฟันดู  แล้วคลำได้ก้อนอะไร แข็งๆนูนขึ้นมา  นั้นก็คือ กล้ามเนื้อนี้แหละครับ    



     ข้อควรระแวง   สำหรับคนหน้าบาน หรือหน้าเหลี่ยมคนอื่นๆ ที่ลองคลำดู แล้วคลำไม่ได้ก้อนกล้ามเนื้อที่หมอ บอกมา  หมอก็ขอแนะนำว่า อย่าไปฉีดเลยครับ เพราะมันไม่ได้ผลกับ ไขมัน และ กระดูก เสียตังค์เปล่าๆ   บางครั้งฉีดไปไม่ได้ผล แต่ได้หน้าเบี้ยวปากเบี้ยวกลับมาก็เยอะนะครับ   ( เพราะเมื่อกล้ามเนื้อมันน้อย  คลำก็ยาก โอกาส ที่ฉีดยาแล้วมันจะไปโดน เส้นประสาทใบหน้าก็มีมากนะครับ ... )
          อีกอันที่ต้องระวังเป็นพิเศษ  คือ ภาพโฆษณา ของคลินิกที่ฉีดหน้าเรียวให้ดีๆนะครับ ว่าใช้  Photoshop หรือเปล่า  เพราะบอกได้เลยว่า หมอเห็นภาพ โฆษณาฉีด botox ที่กรามแล้ว หน้าเรียวอย่างกะ ใช้ เลื่อนยนต์มาเหลา จนแหลมได้ขนาน แบบนี้ก็โกงกันเกินนะครับ

4 ) Botox ลดน่อง ( Calf reduction )

    ข้อบ่งใช้   Botox ลดน่อง กรณีนี้ก็คล้ายๆกับ botox กรามนะครับว่า ต้องแน่ใจก่อนว่า น่องที่มันโต มันเกิดจากกล้ามเนื้อ  ไม่ใช่ไขมัน อีกอย่างที่หมอเค้าจะแนะนำ หลังฉีด Botox ลดน่องก็คือ หลังฉีดแล้ว อย่าใส่ส้นสูงเดิน  และอย่าเดินมาก  เพราะ จะทำให้น่องกลับมาโตใหม่  เลยทำให้การฉีด botox น่องไม่ค่อยได้รับความนิยมก็เพราะว่า มัน impossible ที่จะไม่เดินเลย นอกจากนี้การเห็นผลของการฉีดน่อง ต้องใช้เวลาเกือบ 3 เดือน  ( แม้ว่าปัจจุบันนี้ จะมีหมอเกาหลี ชื่อ ยอง ( young ) บินมาสอนเทคนิกฉีด botox แบบใหม่ๆ แล้วบอกว่า ฉีดเทคนิกของแกแล้ว น่องลดเลยทันทีไม่ต้องรอนาน เพราะอาศัยวิธีการบิด โยก กล้ามเนื้อก็ตาม....  ในความคิดของหมอ หมอไม่ได้ปฏิเสธวิธีการของแกนะ ว่า เห็นผลทันที  เพราะ ทันทีที่คนไข้เริ่มเดินก็ออกอาการเดินเป๋ไปเป๋มา ทันทีเหมือนกัน ฮ่าๆ )

  ข้อควรระแวง  Botox ลดน่อง นั้นถ้าจะได้ผลดีก็ควรเป็น botox ที่ออกฤทธิ์เน้นสำหรับกล้ามเนื้อ นะครับ ไม่ใช่เอา botox ลดริ้วรอยมาฉีด  ฉีดแบบนี้เสียเงินฟรี  นอกจากนี้ หลังฉีดไปแล้วอาจมีอาการกล้ามเนื้ออ่อนแรง เดินกระโผลกกระเผลก  บางรายเดินตกบันได กันก็เยอะนะครับ
        เดี๋ยวนี้ มีหมอบางคนไปเข้าฝึกอบรมเรื่องการฉีด Botox แนวใหม่ๆมา คงคันไม้คันมืออยากลอง  ใครสนใจก็ดู Promotion ตามร้านต่างๆได้นะครับ  ประเภท ถูกๆ เนี่ยรับรองว่า หมอกำลังหัดเลย  ( เหมือนเสริมจมูกแหละ ฮ่าๆๆ )

( ยังไม่จบนะครับ แต่ )
อ่านปฐมบทได้ที่   http://ppantip.com/topic/32350962
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่