ทุกวันนี้สื่อโซเชี่ยลไปเร็วมาเร็ว บางทียังไม่ทันเช็คข้อมูลข้อเท็จจริง เราก็ตื่นกลัวกันไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากพวกข่าวดาราเปลื้องผ้าว่อนเน็ต ยังมีข่าวใกล้ตัวสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ ด้วย โดยเฉพาะข่าวนี้
ถ้าคุณแม่เรียลพาเรนติ้งปล่อยให้ลูกอาบน้ำเองแล้วกลับมาพบว่าผื่น ตุ่ม ขึ้นเยอะขนาดนี้รับรองว่าต้องร้องกรี๊ดแน่ คนเป็นพ่อเป็นแม่น้ำตาแทบไหล เลี้ยงลูกมาอย่างดีต้องมาเจ็บปวดเพราะของเล่นหน้าโรงเรียนราคาไม่กี่สิบบาท
เบบี้คริสตัล มีหลายชื่อเรียก เช่น น้ำตานางเงือก ไข่ไดโนเสาร์ ตัวดูดน้ำ ฯลฯ เป็นสารเคมีประเภทโพลีเมอร์ที่สามารถขยายตัวได้มากกว่า 100 เท่า เมื่อถูกแช่ในน้ำ โดย สคบ. ได้ประกาศว่าเป็นของเล่นอันตราย (เป็นสินค้าห้ามจำหน่าย) และเป็นข่าวดังพาดหัวตามหนังสือพิมพ์ในปี พ.ศ.2556 อยู่หลายรอบ
เบบี้คริสตัล ไม่ใช่ของใหม่ แต่จะเปลี่ยนหน้าตาด้วยสารเติมแต่งไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย เช่น ใส่สารเรืองแสง สารที่ทำให้เกิดลวดลาย
ซึ่งอันตรายของเบบี้คริสตัล มีดังนี้
1. เนื่องจากคุณสมบัติดูดน้ำแล้วขยายตัว ถ้าเด็กเผลอกินเข้าไป มันก็จะไปดูดน้ำในร่างกายแล้วขยายตัวอุดตันอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ถ้าอยู่ในช่วงกระเพาะอาหารก็จะอุดตันไม่ให้อาหารผ่านไปถึงลำไส้เล็ก เด็กจะท้องอืด ปวดท้อง เช่นเดียวกัน ถ้าเข้าไปถึงลำไส้เล็ก แล้วมันพองตัวอยู่ในลำไส้ เด็กก็จะปวดท้องมากเช่นกัน วิธีรักษาคือถ้าร่างกายของเด็กไม่สามารถขับถ่ายมันออกมาได้ ก็ต้องผ่าตัดเอาออกมา (ฟังแล้วเสียวไส้แทนลูกจริงๆ)
2. ถ้าเด็กเผลอเอาเข้าจมูก หรือเอาเข้าปากแล้วมันหลุดเข้าหลอดลม มันก็จะเข้าไปอุดหลอดลมหรือระบบทางเดินหายใจ ถ้าเอาออกมาไม่ทันเด็กก็จะขาดอากาศเสียชีวิต (อันตรายมากๆ)
เรียลพาเรนติ้งได้สอบถามคุณหมอ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ว่าเคสน้องคนนี้ เกิดจากเบบี้คริสตัลหรือไม่?
“ไม่สามารถระบุได้ว่าผื่นที่ขึ้นบนผิวเด็กในเคสนี้เกิดจากของเล่นตัวนี้หรือเปล่า อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ เพราะสารเคมีที่ใส่มากับมันอาจทำให้ลูกแพ้ หรือเด็กอาจจะมีอาการแพ้ง่ายอยู่แล้ว ต้องดูเป็นรายๆ ไป”
คุณหมอฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมีลูกอยู่ในวัยแสบซนนี้ว่า
“การซื้อของเล่นให้เด็ก จะให้เด็กซื้อเองไม่ได้เพราะเด็กไม่รู้จักถึงความอันตราย ผู้ปกครองต้องดูแล และไม่ซื้อของจากหน้าโรงเรียนให้ลูก แต่ถ้าต้องซื้อต้องเลือกสินค้าที่มีสัญลักษณ์มาตรฐานอุตสาหกรรม สินค้าที่เป็นของเล่นเด็กที่วางจำหน่ายได้อย่างถูกหลักความปลอดภัยและถูกกฏหมาย จะได้รับเครื่องหมายรองรับจากกระทรวงอุตสาหกรรม หากไม่มีเครื่องหมายรับรอง ผู้จำหน่ายถือว่ามีความผิด แต่ก็ยังมีคนที่นำมาขายตามอินเตอร์เน็ตมากมายที่ตรวจจับกันได้ไม่ทั่วถึง”
ผู้ขายที่นำสินค้าประเภทนี้มาขาย นอกจากจะเป็นคนนิสัยไม่ดีแล้วยังถือว่าทำผิดกฎหมายด้วย
เป็นความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่บางกลุ่ม ที่หารายได้บนจินตนาการของเด็ก เด็กเล็กๆ ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร ปลอดภัยไหมสำหรับเขา? เพราะเขาเพิ่งเห็น เพิ่งรู้จัก ดังนั้นผู้ปกครองควรใส่ใจลูก ในแต่ละวันเมื่อลูกกลับจากโรงเรียนลองเพิ่มคำถามจากที่เคยถามว่า “วันนี้คุณครูสอนอะไร?” เป็น “วันนี้เล่นอะไรกับเพื่อนๆ บ้าง”
****************************************************************************************************
จาก เว็บไซต์
www.real-parenting.com
ของเล่นเด็ก “เบบี้คริสตัล” อันตรายแค่ไหน? ทำผิวพัง จริงหรือไม่? -- จาก www.real-parenting.com
ทุกวันนี้สื่อโซเชี่ยลไปเร็วมาเร็ว บางทียังไม่ทันเช็คข้อมูลข้อเท็จจริง เราก็ตื่นกลัวกันไปเรียบร้อยแล้ว นอกจากพวกข่าวดาราเปลื้องผ้าว่อนเน็ต ยังมีข่าวใกล้ตัวสำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ ด้วย โดยเฉพาะข่าวนี้
ถ้าคุณแม่เรียลพาเรนติ้งปล่อยให้ลูกอาบน้ำเองแล้วกลับมาพบว่าผื่น ตุ่ม ขึ้นเยอะขนาดนี้รับรองว่าต้องร้องกรี๊ดแน่ คนเป็นพ่อเป็นแม่น้ำตาแทบไหล เลี้ยงลูกมาอย่างดีต้องมาเจ็บปวดเพราะของเล่นหน้าโรงเรียนราคาไม่กี่สิบบาท
เบบี้คริสตัล มีหลายชื่อเรียก เช่น น้ำตานางเงือก ไข่ไดโนเสาร์ ตัวดูดน้ำ ฯลฯ เป็นสารเคมีประเภทโพลีเมอร์ที่สามารถขยายตัวได้มากกว่า 100 เท่า เมื่อถูกแช่ในน้ำ โดย สคบ. ได้ประกาศว่าเป็นของเล่นอันตราย (เป็นสินค้าห้ามจำหน่าย) และเป็นข่าวดังพาดหัวตามหนังสือพิมพ์ในปี พ.ศ.2556 อยู่หลายรอบ
เบบี้คริสตัล ไม่ใช่ของใหม่ แต่จะเปลี่ยนหน้าตาด้วยสารเติมแต่งไปเรื่อยๆ ตามยุคสมัย เช่น ใส่สารเรืองแสง สารที่ทำให้เกิดลวดลาย
ซึ่งอันตรายของเบบี้คริสตัล มีดังนี้
1. เนื่องจากคุณสมบัติดูดน้ำแล้วขยายตัว ถ้าเด็กเผลอกินเข้าไป มันก็จะไปดูดน้ำในร่างกายแล้วขยายตัวอุดตันอยู่ในระบบทางเดินอาหาร ถ้าอยู่ในช่วงกระเพาะอาหารก็จะอุดตันไม่ให้อาหารผ่านไปถึงลำไส้เล็ก เด็กจะท้องอืด ปวดท้อง เช่นเดียวกัน ถ้าเข้าไปถึงลำไส้เล็ก แล้วมันพองตัวอยู่ในลำไส้ เด็กก็จะปวดท้องมากเช่นกัน วิธีรักษาคือถ้าร่างกายของเด็กไม่สามารถขับถ่ายมันออกมาได้ ก็ต้องผ่าตัดเอาออกมา (ฟังแล้วเสียวไส้แทนลูกจริงๆ)
2. ถ้าเด็กเผลอเอาเข้าจมูก หรือเอาเข้าปากแล้วมันหลุดเข้าหลอดลม มันก็จะเข้าไปอุดหลอดลมหรือระบบทางเดินหายใจ ถ้าเอาออกมาไม่ทันเด็กก็จะขาดอากาศเสียชีวิต (อันตรายมากๆ)
เรียลพาเรนติ้งได้สอบถามคุณหมอ รศ.นพ.อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ว่าเคสน้องคนนี้ เกิดจากเบบี้คริสตัลหรือไม่?
“ไม่สามารถระบุได้ว่าผื่นที่ขึ้นบนผิวเด็กในเคสนี้เกิดจากของเล่นตัวนี้หรือเปล่า อาจจะใช่ หรืออาจจะไม่ใช่ เพราะสารเคมีที่ใส่มากับมันอาจทำให้ลูกแพ้ หรือเด็กอาจจะมีอาการแพ้ง่ายอยู่แล้ว ต้องดูเป็นรายๆ ไป”
คุณหมอฝากถึงคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังมีลูกอยู่ในวัยแสบซนนี้ว่า
“การซื้อของเล่นให้เด็ก จะให้เด็กซื้อเองไม่ได้เพราะเด็กไม่รู้จักถึงความอันตราย ผู้ปกครองต้องดูแล และไม่ซื้อของจากหน้าโรงเรียนให้ลูก แต่ถ้าต้องซื้อต้องเลือกสินค้าที่มีสัญลักษณ์มาตรฐานอุตสาหกรรม สินค้าที่เป็นของเล่นเด็กที่วางจำหน่ายได้อย่างถูกหลักความปลอดภัยและถูกกฏหมาย จะได้รับเครื่องหมายรองรับจากกระทรวงอุตสาหกรรม หากไม่มีเครื่องหมายรับรอง ผู้จำหน่ายถือว่ามีความผิด แต่ก็ยังมีคนที่นำมาขายตามอินเตอร์เน็ตมากมายที่ตรวจจับกันได้ไม่ทั่วถึง”
ผู้ขายที่นำสินค้าประเภทนี้มาขาย นอกจากจะเป็นคนนิสัยไม่ดีแล้วยังถือว่าทำผิดกฎหมายด้วย
เป็นความเห็นแก่ตัวของผู้ใหญ่บางกลุ่ม ที่หารายได้บนจินตนาการของเด็ก เด็กเล็กๆ ไม่รู้หรอกว่าสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคืออะไร ปลอดภัยไหมสำหรับเขา? เพราะเขาเพิ่งเห็น เพิ่งรู้จัก ดังนั้นผู้ปกครองควรใส่ใจลูก ในแต่ละวันเมื่อลูกกลับจากโรงเรียนลองเพิ่มคำถามจากที่เคยถามว่า “วันนี้คุณครูสอนอะไร?” เป็น “วันนี้เล่นอะไรกับเพื่อนๆ บ้าง”
****************************************************************************************************
จาก เว็บไซต์ www.real-parenting.com