เมื่อเป็นเด็ก ไม่รู้ ไม่แบ่งแยก อยู่ในความจริง อยู่แล้ว
เมื่อเติบโต เริ่มรู้ และไม่รู้ ปนๆกัน เข้าสู่การแบ่งแยก
ออกนอกความจริง ....ลองผิดลองถูก เรื่อยไป
เมื่อเป็นผู้ใหญ่ รู้ความจริง โลกพลวัตสีเทา ขึ้นอยู่กับภาวะสถิตย์หรือเคลื่อนไหว
ความจริง กลับเป็นสิ่งผันแปร ไม่แน่นอน ...ยังไงก็ได้
มนุษย์ดำรงในโลกแห่งร่างกายเป็นสรณะ
และเขาต้องตายจากร่างโลกที่มีประวัติศาสตร์ส่วนบุคคลมาด้วยกัน
เขาจะต้องเห็นพัฒนาการ จึงจะเข้าใจชีวิตที่ผ่านมา
เพราะ ประสบการณ์ คือ ขนมชั้นแห่งตัวตนอันเป็นลักษณะเฉพาะของเขา ของโลกและชีวิต
เมื่อเป็นเด็ก ดำรงในความอ่อน
เมื่อแก่ตัว ความอ่อนได้สลายหายสูญจากไป ..เรื่อยๆ
ปัญญาเกิดขึ้น แต่ชีวิตที่เป็นจริง ก็ได้แต่ตระหนักในคุณค่าที่ผ่านเลย
และปล่อยวางความเป็นจริง ที่ไม่อาจควบคุมได้ ...ของใครของมัน
มีแต่ความปรารถนาดีเป็นแก่นสาร ทัศนวิจารณ์เป็นอาวุธ แผ่กว้างเจือจาน ...
ต้องเห็นพัฒนาการ
เมื่อเติบโต เริ่มรู้ และไม่รู้ ปนๆกัน เข้าสู่การแบ่งแยก
ออกนอกความจริง ....ลองผิดลองถูก เรื่อยไป
เมื่อเป็นผู้ใหญ่ รู้ความจริง โลกพลวัตสีเทา ขึ้นอยู่กับภาวะสถิตย์หรือเคลื่อนไหว
ความจริง กลับเป็นสิ่งผันแปร ไม่แน่นอน ...ยังไงก็ได้
มนุษย์ดำรงในโลกแห่งร่างกายเป็นสรณะ
และเขาต้องตายจากร่างโลกที่มีประวัติศาสตร์ส่วนบุคคลมาด้วยกัน
เขาจะต้องเห็นพัฒนาการ จึงจะเข้าใจชีวิตที่ผ่านมา
เพราะ ประสบการณ์ คือ ขนมชั้นแห่งตัวตนอันเป็นลักษณะเฉพาะของเขา ของโลกและชีวิต
เมื่อเป็นเด็ก ดำรงในความอ่อน
เมื่อแก่ตัว ความอ่อนได้สลายหายสูญจากไป ..เรื่อยๆ
ปัญญาเกิดขึ้น แต่ชีวิตที่เป็นจริง ก็ได้แต่ตระหนักในคุณค่าที่ผ่านเลย
และปล่อยวางความเป็นจริง ที่ไม่อาจควบคุมได้ ...ของใครของมัน
มีแต่ความปรารถนาดีเป็นแก่นสาร ทัศนวิจารณ์เป็นอาวุธ แผ่กว้างเจือจาน ...